สโมสรฟุตบอลวีแกนแอทเลติก
สโมสรฟุตบอลวีแกนแอทเลติก (อังกฤษ: Wigan Athletic F.C.) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า วีแกน (Wigan) เป็นสโมสรฟุตบอลระดับอาชีพของอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เมืองวีแกน เทศมณฑลเกรเทอร์แมนเชสเตอร์ ลงแข่งขันในลีกวัน มีสนามเหย้าชื่อดีดับเบิลยูสเตเดียม ในเมืองวีแกน โดยแบ่งกันใช้สนามกับสโมสรรักบี้ วีแกนวอร์ริเออร์ส วีแกน แอทเลติก เคยลงแข่งขันในระดับพรีเมียร์ลีก ในช่วงระหว่างปี ค.ศ.2005−2013 โดยได้รับการบันทึกว่าเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกที่ 81 ปี โดยสโมสรเคยได้แชมป์รายการสำคัญเพียงรายการเดียว คือเอฟเอคัพ ในฤดูกาล 2012–13 ด้วยการเอาชนะสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี ซึ่งเป็นสโมสรที่ใหญ่กว่าไปได้ 1–0 แต่ทว่าในฤดูกาลเดียวกันนั้นเองสโมสรกลับต้องตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก โดยถือเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวจนถึงปัจจุบันนี้ที่ได้แชมป์เอฟเอคัพ แต่กลับต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีกที่ต่ำกว่า[2] ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยของยุโรป สโมสรเคยเข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2013–14 ประวัติประวัติศาสตร์สโมสรก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1932 หลังการยุบทีมของสโมสรท้องถิ่น วีแกนโบโรเพียงหนึ่งปี ซึ่งทางวีแกนแอทเลติก ได้ทำการซื้อสนามสปริงฟีลด์ปาร์ค จากวีแกนโบโรอีกด้วย จากนั้นพวกเขาก็ได้รับเลือกให้เข้าสู่เชสเชียร์เคาน์ตีลีก เข้าสู่ฟุตบอลลีกในยุคของ รอย บี.มาติน หัวเรือใหญ่คนเมืองวีแกนแท้ เมื่อปี1944 ได้เข้ามายกระดับทีมจากดีวิชั่น3ในปีดังกล่าว โดยการหากลุ่มทุนจากสมาคมนักตกปลามอร์ซี่ และกลุ่มทุนจากประเทศกรีซ เข้ามาเป็นสปอนเซอร์หลักในช่วงแรกๆ ถึงตัวผู้เล่นคนสำคัญอย่าง โคบี้ อลันแกรนดวงยิงทีมชาติเวลล์ และกองกลางอย่าง ทีโมน ปาเก้ จากเซบีย่า ประกอบกับแผน4-3-3 ที่แตกต่างจากทีมสโมสรอังกฤษในยุคนั้น โดยกุนซือเจมส์ กราเนอร์ ทำสถิติไร้พ่ายติดกันถึง21นัดในปี1945 จากนั้นอีกสองปีวีแกนได้เลื่อนขึ้นดิวิชั่น1 ในยุคที่ทัพหงส์แดงครองหัวตาราง แต่ทว่าในปีแรกที่เลื่อนชั้นต้องพบกับลิเวอร์พลูเป็นนัดแรก และเป็นวีแกนในยุคของกราเนอร์ไล่ถล่มประตูไปได้ถึง0-90 ในรังแอนฟิล เรียกได้ว่าทำหนึ่งประตูต่อหนึ่งนาทีเลยทีเดียว
เลื่อนชั้นอย่างต่อเนื่อง
วีแกนในพรีเมียร์ลีก
วีแกนได้ขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล2005/2006 โดยวีแกนจบด้วยอันดับ10 และปาสกาล ชิมบงด้า กองหลังของทีมได้ติดทีมยอดเยี่ยมของฤดูกาลก่อนที่ฤดูกาล2006/2007 วีแกนฟอร์มตกอย่างชัดเจนก่อนที่นัดสุดท้ายวีแกนสามารถเอาชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 จบด้วยอันดับ17ซึ่งเหนือโซนตกชั้นไป1อันดับหลังจากนั้นพอล จีเวล ได้ลาออกจากตำแหน่งและเป็นคริส ฮัทชิ่ง เข้ามาคุมทีมแทนก่อนฮัทชิ่งจะโดนปลดออกในเวลาต่อมาวีแกนได้แต่งตั้งสตีฟ บรูซ มาเป็นผู้จัดการทีมและก่อนฤดูกาล2009/2010จะเริ่มขึ้นบรูซได้ลาออกไปคุมซันเดอร์แลนด์หลังจากนั้นวีแกนได้แต่งตั้งโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ อดีตนักเตะวีแกนชาวสเปนขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมในฤดูกาล2009-2010 วีแกนสามารถเอาชนะbig 4(แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด,อาร์เซนอล,ลิเวอร์พูล,เชลซี)ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นชั้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกโดยชนะเชลซี3-1 ในช่วงเดือนพฤศจิกายนวีแกนบุกไปแพ้ท็อตแน่มฮ็อตสเปอร์ 9-1 ซึ่งถือว่าแพ้ย่อยยับที่สุดของสโมสรในรอบ31ปีโดยเป็นการแพ้ที่ย่อยยับที่สุดนับตั้งแต่เกมส์ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ชนะ อิปสวิสทาวน์ 9-0 ในปี1995ในฤดูกาลนี้วีแกนทำผลงานได้อย่างย่ำแย่แต่สิ่งที่น่าจดจำในปีนี้คือสามารถพลิกล็อกเอาชนะลิเวอร์พูลได้1-0จากฮูโก้ โรดาเยก้า กองหน้าทีมชาติโคลอมเบียและประตูของเมย์เนอร์ ฟิเกรัว กองหลังทีมชาติฮอนดูรัสในเกมส์พบสโต๊คซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นgoal of the season โดยฟิเกรัวยิงจากครึ่งสนามเข้าประตูแต่สุดท้ายก็จบด้วยการเสมอ2-2 สปอนเซอในปัจจุบันปัจจุบันวีแกนแอทเลติกได้รับการสนับสนุนจาก 12bet ซึ่งดำเนินงานโดย Pacific Sea Invests S.A. (“PSI”) ผู้เล่นชุดปัจจุบันหมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
อดีตผู้เล่นที่โด่งดัง
เกียรติประวัติ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |