เซียน
สถานะ ข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์ การปกครอง ราชาธิปไตย กษัตริย์ • พ.ศ. 1837
กั่นมู่ติง • พ.ศ. 1842
ไม่ปรากฏพระนาม
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ ประเทศไทย
เซียน (จีน : 暹 ; พินอิน : Xīan ) หรือเรียกโดยความนิยมว่า เสียน คืออาณาจักรที่ถูกกล่าวถึงโดยเอกสารจีนและเวียดนามในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 19 ถึง 20 ชื่อของอาณาจักรเซียนได้รับการสันนิษฐานว่า มาจากคำว่า สยาม และอาจหมายถึงอาณาจักรสุโขทัย [ 1] , อาณาจักรสุพรรณภูมิ [ 2] , เมืองอยุธยา[ 3] หรืออาณาจักรนครศรีธรรมราช [ 4] ภายหลังอาณาจักรเซียนได้รวมเข้ากับอาณาจักรละโว้ เป็นอาณาจักรอยุธยา
บันทึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรเซียน
พงศาวดารราชวงศ์ซ่ง
อาณาจักรเซียนถูกกล่าวถึงในพงศาวดารราชวงศ์ซ่ง [ note 1] บรรพที่ 418 ว่าด้วยประวัติของเฉินอี๋จง [en ] (จีน : 陳宜中 )[ 5] ขุนนางในช่วงปลายราชวงศ์ซ่งใต้ โดยระบุว่า เฉินอี๋จงหลบหนีการรุกรานของจักรวรรดิมองโกล ไปยังอาณาจักรจา่มปา ต่อมากองทัพมองโกลเข้าโจมตีอาณาจักรจามปา เฉินอี๋จงจึงหลบหนีไปยังอาณาจักรเซียนและพำนักอยู่จนสิ้นชีวิต[ 6] เฉินอี๋จงได้รับการสันนิษฐานว่าเดินทางเข้ามายังภาคใต้ของประเทศไทยในช่วงปลายปี พ.ศ. 1827 ถึงต้นปี พ.ศ. 1828 โดยมีหลักฐานสนับสนุนคือ แผ่นทองคำประทับอักษรจีนสมัยราชวงศ์ซ่งใต้[ 7] ซึ่งค้นพบที่อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ในปี พ.ศ. 2557[ 8] และข้อสันนิษฐานอีกประการหนึ่งว่า อาจเป็นทองคำของพ่อค้าที่เดินทางมาในบริเวณนี้ได้ถูกโต้แย้งเนื่องจากในปี พ.ศ. 1725 ราชวงศ์ซ่งได้ประกาศห้ามไม่ให้ใช้ทองคำและแร่เงินในการค้าโพ้นทะเล[ 7]
พงศาวดารราชวงศ์หยวน
พงศาวดารราชวงศ์หยวน [en ] [ note 2] บันทึกถึงการติดต่อกันระหว่างอาณาจักรเซียนและราชวงศ์หยวน ดังนี้[ 9]
ปี (พ.ศ.)
ต้นทาง
ปลายทาง
เนื้อหา
หมายเหตุ
ไม่ปรากฏ
หยวน
ไม่ปรากฏ
ราชสำนักหยวนส่งทูตไปเกลี้ยกล่อมอาณาจักรทางใต้ ปรากฏว่ากว่า 20 อาณาจักรยอมอ่อนน้อม
สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 1821 และต้องก่อน พ.ศ. 1830
1825
หยวน
เซียน
คณะทูตถูกสังหารที่อาณาจักรจามปา
1835
เซียน
หยวน
ขุนนางแห่งกว่างตง ให้เจ้าหน้าที่เชิญพระสุพรรณบัตรของเซียนไปยังนครหลวง (ปักกิ่ง )
1836
หยวน
เซียน
ราชสำนักหยวนส่งทูตไปเกลี้ยกล่อมให้อาณาจักรเซียนมาอ่อนน้อม
1837
หยวน
เซียน
กุบไล ข่าน มีพระราชโองการให้กั่นมู่ติง (จีน : 敢木丁 ) กษัตริย์แห่งเซียนมาเฝ้า ถ้ามีเหตุขัดข้องให้ส่งบุตรหลานหรือขุนนางผู้ใหญ่มาเป็นตัวประกัน
กั่นมู่ติง ได้รับการสันนิษฐานว่ามาจากคำว่า กมรเตง อันเป็นศัพท์เขมรที่ใช้เรียกเจ้าเมือง
1838
เซียน
หยวน
อาณาจักรเซียนขอให้ราชสำนักหยวนส่งทูตไปยังเซียน แต่ราชสำนักหยวนได้ส่งทูตไปก่อนแล้ว จึงให้ทูตรีบเดินทางกลับเพื่อติดตามทูตของราชสำนักหยวนให้ทัน โทโมร์ ข่าน มีพระราชโองการมิให้ชาวเซียนทำร้ายชาวมลายู
1840
เซียน
หยวน
อาณาจักรเซียนถวายบรรณาการ
1842
เซียน
หยวน
อาณาจักรเซียนถวายบรรณาการ โทโมร์ ข่านพระราชทานตราเสือแก่รัชทายาทของอาณาจักรเซียน กษัตริย์แห่งเซียนมีพระราชสาส์นขอให้ราชสำนักหยวนพระราชทานม้าเช่นเดียวกับสมัยพระราชบิดา โทโมร์ ข่านไม่พระราชทาน
ถูกใช้อ้างอิงเป็นปีสวรรคตของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
1843
เซียน
หยวน
อาณาจักรเซียนถวายบรรณาการ
1857
เซียน
หยวน
อาณาจักรเซียนถวายบรรณาการ
1861
เซียน
หยวน
อาณาจักรเซียนถวายบรรณาการ
1865
เซียน
หยวน
อาณาจักรเซียนถวายบรรณาการ
ดั่ยเหวียตสือกี๊ตว่านทือ
ดั่ยเหวียตสือกี๊ตว่านทือ [en ] (จื๋อฮ้าน : 大越史記全書 ) บันทึกอาณาจักรเซียนในสมัยราชวงศ์ลี้ [en ] และราชวงศ์เจิ่น [en ] ดังนี้[ต้องการตรวจสอบความถูกต้อง ]
ปี (พ.ศ.)
รัชกาล
ต้นฉบับ
เนื้อหา
หมายเหตุ
1692
ลี้อัญตง [en ]
己巳十年〈宋紹興十九年〉春二月,爪哇、路貉、暹羅三國商舶入海東,乞居住販賣,乃於海島等處立庄,名雲屯,買賣寳貨,上進方物。
พ่อค้าจากอาณาจักรเซียนหลัว (จีน : 暹羅 ) เดินทางมายังไห่ตง (จื๋อฮ้าน : 海東 ) เพื่อขออนุญาตทำการค้าและได้ตั้งสถานีการค้าขึ้นที่ยฺหวินถุน (จื๋อฮ้าน : 雲屯 )
1725
ลี้กาวตง [en ]
暹羅國來貢。
อาณาจักรเซียนหลัวถวายบรรณาการ
1727
暹羅、三佛齊等國商人入雲屯鎮,進寳物,乞行買賣。
พ่อค้าจากอาณาจักรเซียนหลัวเดินทางมาที่เมืองยฺหวินถุนเพื่อขออนุญาตทำการค้า
1856
เจิ่นอัญตง [en ]
時占城被暹人侵掠,帝以天覷經畧乂安、臨平徃救。後凣西邉籌畫,明宗悉以委之。
ชาวเซียนเข้าโจมตีอาณาจักรจามปา จักรพรรดิทรงส่งกองทัพไปช่วยอาณาจักรจามปาสู้รบ
ทั้งสองฝ่ายได้สู้รบกันเป็นเวลา 2 ปี[ 10]
1903
เจิ่นหยูตง [en ]
冬十月,路鶴、茶哇哇音鴉 、暹羅等國商舶至雲屯販賣,進諸異物。
พ่อค้าจากอาณาจักรเซียนหลัวเดินทางมาที่ยฺหวินถุนเพื่อทำการค้า
เคิมดิ่ญเหวียตสือทงซ้ามเกืองหมุก
เคิมดิ่ญเหวียตสือทงซ้ามเกืองหมุก [en ] (จื๋อฮ้าน : 欽定越史通鑑綱目 ) บันทึกถึงเหตุการณ์เพิ่มเติมจากดั่ยเหวียตสือกี๊ตว่านทือว่า อาณาจักรเซียนได้เข้าถวายบรรณาการในเหตุการณ์ที่ราชวงศ์เจิ่นส่งกองทัพไปยังอาณาจักรอายหลาว [zh ] (จีน : 哀牢 ) ระหว่างปี พ.ศ. 1877–1879 ปรากฏในต้นฉบับดังนี้
香村之山。字畫掌大,深可寸許。其辭曰:「皇越陳朝第六帝章堯文哲太上皇帝,受天眷命,奄有中夏,薄海内外,罔不臣服。蕞爾哀牢,猶梗王化。歲在乙亥季秋,帝親帥六師,巡于西鄙。占城國世子、眞臘國、暹國及蠻酋道臣、葵禽、車勒、新附、杯盆蠻、會道、聲車蠻諸部,各奉方物,爭先迎見。獨逆俸執迷畏罪,未卽來朝。季冬,帝駐蹕于密州巨屯之原,乃命諸將及蠻夷之兵入于其國。逆俸望風奔竄,遂降詔班師。辰開祐七年乙亥冬閏十二月日勒石。」此文與舊史所載其年不同,竝錄以備考。
บันทึกเกี่ยวกับที่ตั้งและสภาพสังคมของอาณาจักรเซียน
บันทึกว่าด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของเจนละ
บันทึกว่าด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของเจนละ บันทึกถึงอาณาจักรเซียนและชาวเซียนประกอบการบรรยายถึงอาณาจักรพระนคร โดยกล่าวถึงอาณาจักรเซียนในฐานะอาณาจักรหรือสถานที่ว่า "ทางตะวันตกเฉียงใต้ใช้เวลาเดินทางครึ่งเดือนถึงเซียนหลัว" , "แม้ว่าในประเทศจะทอผ้าได้เอง ก็ยังมีมาจากเซียนหลัว..." และ "พันธุ์ตัวไหมและพันธุ์ต้นหม่อนจึงมาจากประเทศเซียนทั้งสิ้น" [ 11]
พงศาวดารราชวงศ์หยวนฉบับชำระใหม่
พงศาวดารราชวงศ์หยวนฉบับชำระใหม่ [zh ] [ note 3] บรรพที่ 252 ว่าด้วยพม่า อยุธยา และล้านนา ระบุว่า เดิมเซียนและละโว้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรฟูนาน ทางเหนือของเซียนติดต่อกับล้านนา ทางตะวันออกติดกับอันหนาน และทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับพม่า ละโว้ตั้งอยู่ทางใต้ของเซียน ดินแดนเซียนแห้งแล้ง ประชาชนต้องพึ่งพาผลผลิตจากละโว้ เซียนมีแม่น้ำใหญ่ไหลผ่านไปที่ละโว้และลงสู่ทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างรัชศกจื้อเจิ้ง (พ.ศ. 1884-1913) ในรัชสมัยจักรพรรดิฮุ่ยจง เซียนสวามิภักดิ์ต่อละโว้ ผนวกรวมกันเป็นอาณาจักรอยุธยา[ 6]
บันทึกย่อเผ่าชาวเกาะ
บันทึกย่อเผ่าชาวเกาะ [en ] [ 12] บันทึกเกี่ยวกับอาณาจักรเซียนว่า จากซินเหมินไถเข้าสู่ปากน้ำ แนวเขาด้านนอกขรุขระและด้านในลึก พื้นดินไม่อุดมสมบูรณ์ ต้องพึ่งพาอาหารจากละโว้ อากาศไม่แน่นอน ชาวเซียนนิยมการปล้นสะดม เมื่ออาณาจักรอื่นเกิดความวุ่นวาย ชาวเซียนมักออกเรือไปยังที่นั่น ไม่นานมานี้เซียนเข้าโจมตีตานหม่าซี (จีน : 單馬錫 , ได้รับการสันนิษฐานว่า คือเกาะสิงคโปร์ [ 13] ) และซีหลี่ (จีน : 昔里 ) ในรัชศกจื้อเจิ้งปีจี่โฉ่ว[ note 4] ฤดูร้อนเดือน 5 (พฤษภาคม/มิถุนายน พ.ศ. 1892) ถูกผนวกเข้ากับละโว้ ชาวเซียนใช้ปรอทเพื่อรักษาสภาพศพ แต่งกายเช่นเดียวกับละโว้ และใช้เบี้ยที่ทำจากเปลือกหอยเป็นเงินตรา ผลผลิตมีไม้ฝาง ดีบุก ผลกระเบา งาช้าง ขนนกกระเต็น สินค้าที่ขายคือลูกปัด ปรอท ผ้าฝ้ายสีน้ำเงิน ทองแดง และเหล็ก[ 6]
นอกจากนี้ อาณาจักรเซียนยังถูกกล่าวถึงในการบรรยายอาณาจักรละโว้ ("...ละโว้เป็นที่ราบกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ ซึ่งชาวเซียนได้พึ่งพาอาศัย..." ) และอาณาจักรเจินลู่ (จีน : 針路 , "...เจินลู่ใช้เบี้ยที่ทำจากเปลือกหอยเป็นเงินตราเช่นเดียวกับเซียน..." )[ 6]
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์การผนวกอาณาจักรเซียนและละโว้ได้รับการโต้แย้งว่า อาจมีการบันทึกวันเวลาผิดพลาด เนื่องจากวังต้ายวน [en ] (จีน : 汪大淵 ) เพิ่งจะเขียนบันทึกย่อเผ่าชาวเกาะเสร็จในฤดูหนาวปีเดียวกัน เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 1882–1883[ 14]
บันทึกดินแดนทะเลใต้
บันทึกดินแดนทะเลใต้[ 6] หรือต้าเต๋อหนานไห่จื้อ (จีน : 大德南海志 ) ระบุดินแดนที่อาณาจักรเซียนปกครองว่า "อาณาจักรเซียนปกครอง: ซ่างสุ่ยซู่กูตี่" (จีน : 暹国管:上水速孤底 )[ 12] ซึ่ง "ซ่างสุ่ยซู่กูตี่" อาจแปลได้ว่า "สุโขทัยที่ตั้งอยู่ตอนบนของแม่น้ำ"[ 13]
เอกสารสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง
ซูยฺวี่โจวจือลู่ [zh ] (จีน : 殊域周咨录 )[ note 5] บรรพที่ 8 เรื่องอาณาจักรอยุธยาระบุข้อความที่คล้ายคลึงกับพงศาวดารราชวงศ์หยวนฉบับชำระใหม่ โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เซียนมีชื่อเดิมว่าชื่อถู่ (จีน : 赤土 ) หยิงหวนจื้อลฺวี่ (จีน : 瀛环志略 )[ note 6] บรรพที่ 1 เรื่องอาณาจักรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระบุว่า แม่น้ำเจ้าพระยาไหลสู่ทางเหนือของอาณาจักรเซียนไปยังทางใต้ของละโว้แล้วออกสู่ทะเล[ 15]
ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับที่ตั้งของอาณาจักรเซียน
อาณาจักรเซียนได้รับการสันนิษฐานว่า คืออาณาจักรสุโขทัย[ 1] และบันทึกของพงศาวดารราชวงศ์หยวนเกี่ยวกับอาณาจักรเซียนในปี พ.ศ. 1842 ถูกใช้อ้างอิงถึงปีสวรรคตอย่างเป็นทางการของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช[ 16] [ 17] อย่างไรก็ตาม ข้อสันนิษฐานนี้ได้รับการโต้แย้งโดยอ้างอิงบันทึกดินแดนทะเลใต้ว่า "อาณาจักรเซียนปกครองสุโขทัย" ทำให้อาณาจักรเซียนไม่สามารถหมายถึงสุโขทัยได้[ 18] [ 13] นอกจากนี้ ยังได้มีการเสนอแนวคิดอื่นเกี่ยวกับที่ตั้งของอาณาจักรเซียน เช่น
อาณาจักรเซียนอาจหมายถึงอาณาจักรสุพรรณภูมิ โดยอ้างอิงบันทึกว่าด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของเจนละว่า "ทางตะวันตกเฉียงใต้ใช้เวลาเดินทางครึ่งเดือนถึงเซียนหลัว" ซึ่งได้รับการโต้แย้งว่า เป็นการบันทึกโดยรวมระหว่างอาณาจักรเซียนและละโว้ อีกทั้งบันทึกฉบับดั้งเดิมสูญหายไป จึงมีโอกาสเกิดความผิดพลาดระหว่างการคัดลอก[ 2]
อาณาจักรเซียนอาจหมายถึงเมืองอยุธยา โดยอ้างอิงจากการส่งคณะทูตไปจีน ซึ่งบ่งชี้ว่าเซียนเป็นเมืองท่า และพบร่องรอยการตั้งถิ่นฐานบริเวณเมืองอยุธยาก่อนการก่อตั้งอาณาจักรอยุธยา[ 3]
อาณาจักรเซียนอาจหมายถึงเมืองมากกว่าหนึ่งเมือง โดยอ้างอิงนาครกฤตาคม [en ] [ 19] ว่า สยามอาจหมายถึงได้ทั้งอยุธยาและนครศรีธรรมราช ในขณะที่เอกสารจีนสมัยราชวงศ์หมิงเองก็มีการกล่าวถึงเซียนหลัว, เซียน และสุพรรณบุรีปะปนกัน[ 4]
หมายเหตุ
อ้างอิง
Wikisource
Wikisource
Wikisource
Wikisource
Wikisource
Wikisource
Wikisource
Wikisource
Wikisource
Wikisource
↑ 1.0 1.1 โบราณคดีสโมสร (1914), พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา [Royal Chronicle: Royal Autograph Version ] (PDF) , vol. 1, กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทย, pp. 90–92, สืบค้นเมื่อ 2024-10-30
↑ 2.0 2.1 พรหมบุญ, สืบแสง (2012), " "เสียน" ในจดหมายเหตุจีน", รวมบทความทางประวัติศาสตร์ ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบแสง พรหมบุญ , ม.ป.พ., pp. 75–81, สืบค้นเมื่อ 2024-10-30
↑ 3.0 3.1 เบเคอร์, คริส; พงษ์ไพจิตร, ผาสุก (2021), ประวัติศาสตร์อยุธยา ห้าศตวรรษสู่โลกใหม่ (3rd ed.), กรุงเทพฯ: มติชน, pp. 79–82, ISBN 978-974-02-1721-3 , สืบค้นเมื่อ 2024-06-23
↑ 4.0 4.1 Yoneo, Ishii (2004). "Exploring a New Approach to Early Thai History" (PDF) . Journal of the Siam Society . 92 : 40–42. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2024-05-18. สืบค้นเมื่อ 2024-10-30 – โดยทาง The Siam Society under Royal Patronage.
↑ "卷四百十八 列傳第一百七十七 吳潛 程元鳳 江萬里 王爚 章鑑 陳宜中 文天祥" [Volume 418 Biographies 177: Wu Qian, Cheng Yuanfeng, Jiang Wanli, Wang Yue, Zhang Jian, Chen Yizhong, Wen Tianxiang], 宋史 [History of Song ] (ภาษาจีน), Fo Guang Shan Nan Tian Institute, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2023-10-04, สืบค้นเมื่อ 2024-06-18
↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 สิริไพศาล, ศุภการ; บุษบก, พิภู (2018), การแปลและศึกษาเอกสารจีนโบราณเกี่ยวกับไทยในบริบทของเส้นทางสายไหม [The Translation into Thai and Study of Ancient Chinese Records Relating to Thailand in Connection with the Maritime Silk Road ] (PDF) , กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร, pp. 54, 63–65, สืบค้นเมื่อ 2024-06-18
↑ 7.0 7.1 Kessler, Adam T (2018). "The Last Days of the Song Dynasty: Evidence of the Flight of Song Officials to Southeast Asia before the Mongol Invasions" (PDF) . Journal of the Royal Asiatic Society . Cambridge University Press. 28 (2): 315–337. สืบค้นเมื่อ 2024-06-18 – โดยทาง JSTOR.
↑ เลิศพิพัฒน์วรกุล, ทนงศักดิ์ (1 October 2014). "ทองคำเขาชัยสน : ความคืบหน้า (2)" . ฐานข้อมูลแหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-11-30. สืบค้นเมื่อ 2024-06-18 .
↑ ความสัมพันธ์ไทย - จีน จากเอกสารสมัยราชวงศ์หยวน หมิง ชิง , กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2022, pp. 2–6, ISBN 978-616-283-585-8 , สืบค้นเมื่อ 2024-06-18
↑ ณ นคร, ประเสริฐ (1998), "เรื่องเกี่ยวกับศิลาจารึกสุโขทัย" , สารนิพนธ์ ประเสริฐ ณ นคร , กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, pp. 121–123, ISBN 974-86374-6-8 , สืบค้นเมื่อ 2024-10-30
↑ โจว, ต๋ากวาน (1967), บันทึกว่าด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของเจินละ (PDF) , แปลโดย ยงบุญเกิด, เฉลิม, พระนคร: โรงพิมพ์ชวนพิมพ์, pp. 2, 7, 32, สืบค้นเมื่อ 2024-10-30
↑ 12.0 12.1 ประภากร, ภูเทพ (19 December 2022). "ละโว้ในเอกสารโบราณจีน: การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างละโว้และประเทศจีนในเอกสารโบราณและพงศาวดารจีน" [Lawo in Ancient Chinese Manuscripts: A Study of Relationship between Lawo and China in Ancient Chinese Manuscripts and Chinese Ancient Documents]. Journal of Sinology . 17 (1): 87, 100–101. สืบค้นเมื่อ 2024-06-18 – โดยทาง The Sirindhorn Chinese Language and Culture Center.
↑ 13.0 13.1 13.2 ฉัตรพลรักษ์, พรรณี, บ.ก. (31 August 2022). "เสียน-สยาม ไม่ใช่ "สุโขทัย"? และสัมพันธ์ที่ไม่เคยคาดคิดกับมลายู?" . ศิลปวัฒนธรรม . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-01-11. สืบค้นเมื่อ 2024-06-18 .
↑ Geoff, Wade (2000). "The Ming shi-lu as a Source for Thai History—Fourteenth to Seventeenth Centuries" (PDF) . Journal of Southeast Asian Studies . Cambridge University Press. 31 (2): 257. สืบค้นเมื่อ 2024-10-30 – โดยทาง JSTOR.
↑ ประภากร, ภูเทพ (22 April 2023). "การศึกษาบันทึกเกี่ยวกับอาณาจักรละโว้ในเอกสารจีนสมัยราชวงศ์หมิง" [A Study of the Memorandum of Lavo Kingdom in Chinese Documents in the Ming Dynasty]. มนุษยสังคมสาร (มสส.) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ . 21 (3): 114–116. สืบค้นเมื่อ 2024-06-18 – โดยทาง Thai Journals Online.
↑ มูลศิลป์, วุฒิชัย (2019). "ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร กับความก้าวหน้าการศึกษาประวัติศาสตร์สุโขทัย" [Professor Dr. Prasert na Nagara and Development of Sukhothai Studies]. วารสารประวัติศาสตร์ : 8. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2023-11-20. สืบค้นเมื่อ 2024-10-30 .
↑ ทรัพย์พลอย, อรวรรณ, บ.ก. (2017), พระมหากษัตริย์ของไทย (PDF) , กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, p. 19, ISBN 978-616-283-320-5 , สืบค้นเมื่อ 2024-10-30
↑ Yamamoto, Tatsuro (1989). "Thailand as it is referred to in the Da-de Nan-hai zhi at the beginning of the fourteenth century". Journal of East-West Maritime Relations . 1 : 47–58. อ้างใน Geoff, Wade (2000). "The Ming shi-lu as a Source for Thai History—Fourteenth to Seventeenth Centuries" (PDF) . Journal of Southeast Asian Studies . Cambridge University Press. 31 (2): 257. สืบค้นเมื่อ 2024-10-30 – โดยทาง JSTOR.
↑ ธรรมานนท์, วันวิสาข์ (2022). "ช่วงเวลาการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ปัตตานีโบราณ: ข้อสันนิษฐานจากหลักฐานการขุดค้นแหล่งโบราณคดีตันหยงลุโละ" [The Presumption of Early Settlement Periods in Pattani: Findings from Archaeological Excavation at Tanyonglulo Site]. ดำรงวิชาการ . 21 (2): 73. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2024-09-06. สืบค้นเมื่อ 2024-10-30 – โดยทาง Thai Journals Online.