อิบลีส (อาหรับ : إِبْلِيس ; บางครั้งทับศัพท์เป็น เอ็บลีส (Eblis)[ 1] หรือ อิบรีส (Ibris))[ 2] เป็นสิ่งมีชีวิตในอัลกุรอาน มักพบในความสัมพันธ์กับการสร้างอาดัม และถูกสั่งให้กราบต่อหน้าเขา หลังจากมันปฏิเสธ ก็ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ นักวิชาการอิสลามยุคคลาสสิก หลายท่านกล่าวว่า มันเคยเป็นมลาอิกะฮ์ มาก่อน[ 3] [ 4] : 73 [ 5] แต่นักวิชาการในยุคเดียวกันส่วนใหญ่ถือว่ามันเป็นญิน [ 4] : 69 เนื่องจากพระเจ้าทอดพระเนตรว่ามันไม่มีมารยาท จึงถูกเทียบเป็นซาตาน ในธรรมเนียมศาสนาคริสต์ ในธรรมเนียมอิสลาม อิบลีสมักถูกเรียกเป็น ชัยฏอน ("มารร้าย") ซึ่งตามมาด้วยคำคุณศัพท์ ว่า อัรเราะญีม (อาหรับ : ٱلرَّجِيْم ; ผู้ถูกสาปแช่ง)[ 6] อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ ชัยฏอน ถูกใช้เป็นแรงขับเคลื่อนที่ชั่วร้าย ตัวอิบลีสมีบทบาทในธรรมเนียมอิสลามมากกว่า[ 7]
ชื่อและศัพทมูลวิทยา
คำว่า อิบลีส (อาหรับ : إِبْلِيس ) น่าจะเป็นรากของ ب-ل-س (ความหมายแบบกว้างคือ "คงอยู่ในความเศร้าโศก")[ 8] หรือ بَلَسَ (บะละซะ "เขาที่หมดหวัง")[ 9] ที่มากไปกว่านั้น ชิ่อนี้ดูใกล้เคียงกับ ตับลิส ที่แปลว่าสับสน[ 10] อีกความเป็นไปได้หนึ่งมาจากภาษากรีกโบราณ ว่า διάβολος (diábolos ) ผ่านทางภาษาซีรีแอก [ 11] ซึ่งเป็นต้นตอของคำศัพท์ภาษาอังกฤษว่า 'devil' (มาร )[ 12] อย่างไรก็ตาม ไม่มีการยืนยันว่ารากศัพท์ของคำนี้มาจากไหน ชื่อของมันไม่พบในวรรณกรรมภาษาอาหรับที่เขียนก่อนการมาของอัลกุรอาน[ 13] แต่สามารถพบได้ในกิตาบ อัลมะกาลล์ คัมภีร์นอกสารบบของศาสนาคริสต์ที่เขียนด้วยภาษาอาหรับ[ 14]
ในธรรมเนียมอิสลาม, อิบลีส มีชื่อและตำแหน่งอื่นเป็นจำนวนมาก เช่น อะบูมุรเราะฮ์ (أَبُو مُرَّة, "บิดาแห่งความขมขื่น") โดยคำว่า "มุรร์" - แปลว่า "ขมขื่น", อุดูวุลลอฮ์ (عُدُوّ الله, "ศัตรูหรือปรปักษ์" ต่ออัลลอฮ์)[ 15] และ อบูลฮาริษ (أَبُو الْحَارِث, "บิดาแห่งผู้ไถ")[ 16] มันเป็นที่รู้จักในชื่อเล่นว่า "อะบูกัรดูส " (أَبُو كَرْدُوس) ซึ่งอาจแปลว่า "บิดาผู้สะสม, อัด หรือเบียดเสียดด้วยกัน"
เทววิทยา
ถึงแม้ว่าอิบลีสถูกเทียบกับมาร ในเทววิทยาศาสนาคริสต์ อิสลามปฏิเสธว่าซาตานเป็นศัตรูของพระเจ้า อิบลีสไม่ได้กลายเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาเพราะการไม่เชื่อฟัง แต่เพราะอ้างความอยุติธรรมต่อพระเจ้า โดยยืนกรานว่า การสั่งให้กราบต่อหน้าอาดัมเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม[ 17] ไม่มีสัญญาณของการก่อกบฏของเทวทูตในอัลกุรอาน และไม่มีการกล่าวว่าอิบลีสพยายามจะชิงบัลลังก์ของพระเจ้า[ 18] [ 19] และบาปของอิบลีสอาจสามารถยกโทษได้[ 20] ตามรายงานจากอัลกุรอาน การไม่เชื่อฟังของอิบลีสเกิดจากความรังเกียจมนุษย์ของมัน และเรื่องนี้สามารถพบได้ในคัมภีร์นอกสารบบ ช่วงต้น[ 21] เนื่องจากเป็นสิ่งถูกสร้าง อิบลีสไม่สามารถเป็นต้นเหตุหรือผู้สร้างความชั่วร้าย โดยถือว่ามันเป็นสิ่งเย้ายวนที่มุ่งสู่จุดอ่อนของมนุษย์ และถือเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และนำมนุษย์ให้ออกห่างจากหนทางของพระเจ้า[ 22]
กุรอาน
อิบลีสถูกกล่าวโดยชื่อของมันในอัลกุรอาน 11 ครั้ง โดยในเก้าครั้งอิงถึงการปฏิเสธคำสั่งของพระเจ้าในการก้มกราบต่อหน้าอาดัม คำว่า ชัยฏอน เป็นที่แพร่หลายกว่า ถึงแม้ว่าคำว่าอิบลีสอาจอิงถึงชัยฏอนในบางครั้ง; เงื่อนไขของสองคำนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ เรื่องราวของอิบลีสมีอยู่ทั่วอัลกุรอาน โดยรวมแล้ว เนื้อเรื่องสรุปได้ดังนี้:[ 23]
เมื่ออัลลอฮ์ทรงสร้างอาดัม พระองค์สั่งให้มลาอิกะฮ์ ทั้งหมดสุญูด (ก้มกราบ) ต่อหน้าสิ่งถูกสร้าง มลาอิกะฮ์ทั้งหมดสุญูด แต่อิบลีสไม่ยอมทำ โดยโต้แย้งว่าตนถูกสร้างมาจากไฟ จึงอยู่เหนือกว่ามนุษย์ที่ถูกสร้างมาจากดินโคลน และด้วยเหตุนี้มันถึงไม่ควรก้มกราบต่อหน้าอาดัม[ 24] อัลลอฮ์ทรงขับไล่อิบลีสออกจากสวรรค์และเตรียมลงโทษในนรก เพราะความหยิ่งยโสของมัน อิบลีสได้ขอความสามารถที่จะทำให้อาดัมกับลูกหลานของเขาหลงทาง พระองค์ตอบรับคำขอ แต่ได้เตือนมันว่า ”แท้จริงปวงบ่าวของข้านั้น เจ้าไม่มีอำนาจใดๆ เหนือพวกเขา และพอเพียงแล้วที่พระเจ้าของเจ้าเป็นผู้คุ้มครอง”[ 25]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
↑ Briggs, Constance Victoria (2003). The Encyclopedia of God: An A-Z Guide to Thoughts, Ideas, and Beliefs about God . Newburyport, Massachusetts , the U.S.A. : Hampton Roads Publishing Company . ISBN 978-1-612-83225-8 .
↑ Nagawasa, Eiji (March 1992), An Introductory Note on Contemporary Arabic Thought
↑ Welch, Alford T. (2008). Studies in Qur'an and Tafsir . Riga , Latvia : Scholars Press . p. 756.
↑ 4.0 4.1 Gauvain, Richard (2013). Salafi Ritual Purity: In the Presence of God . Abingdon , England , the U.K. : Routledge . pp. 69–74. ISBN 978-0-7103-1356-0 .
↑ Öztürk, Mustafa (2 December 2009). Journal of Islamic Research . 2 .
↑ Silverstein, Adam (January 2013). "On the original meaning of the Qur'ānic term al-Shaytān al-Rajīm ". Journal of the American Oriental Society .
↑ Campanini, Massimo (2013). The Qur'an: The Basics . Abingdon, England: Routledge . ISBN 978-1-1386-6630-6 .
↑ Kazim, Ebrahim (2010). Scientific Commentary of Suratul Faateḥah . New Delhi, India: Pharos Media & Publishing Pvt Ltd. p. 274. ISBN 978-8-172-21037-3 .
↑ "Iblis" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2013-06-15. สืบค้นเมื่อ 2020-07-02 .
↑ Nicholson, Reynold A. (1998). Studies In Islamic Mysticism . Abingdon, England: Routledge . p. 120. ISBN 978-1-136-17178-9 .
↑ Basharin, Pavel V. (April 1, 2018). "The Problem of Free Will and Predestination in the Light of Satan's Justification in Early Sufism". English Language Notes . Durham, North Carolina: Duke University Press . 56 (1): 119–138. doi :10.1215/00138282-4337480 .
↑ "Iblīs - BrillReference" .
↑ Russell, Jeffrey Burton (1986). Lucifer: The Devil in the Middle Ages . Ithaca, New York: Cornell University Press . p. 55 . ISBN 978-0-801-49429-1 .
↑ Monferrer-Sala, J. P. (2014). One More Time on the Arabized Nominal Form Iblīs . Studia Orientalia Electronica, 112, 55-70. Retrieved from https://journal.fi/store/article/view/9526
↑ https://www.britannica.com/topic/Iblis
↑ Zadeh, Travis (2014). "Commanding Demons and Jinn: The Sorcerer in Early Islamic Thought". ใน Korangy, Alireza; Sheffield, Dan (บ.ก.). No Tapping around Philology: A Festschrift in Honor of Wheeler McIntosh Thackston Jr.’s 70th Birthday . Wiesbaden, Germany: Harrassowitz Verlag . p. 149. ISBN 978-3447102155 .
↑ Sharpe, Elizabeth Marie Into the realm of smokeless fire: (Qur'an 55:14): A critical translation of al-Damiri's article on the jinn from "Hayat al-Hayawan al-Kubra 1953 The University of Arizona download date: 15/03/2020
↑ El-Zein, Amira (2009). Islam, Arabs, and Intelligent World of the Jinn . Syracuse University Press . p. 46 . ISBN 978-0815650706 .
↑ Vicchio, Stephen J. (2008). Biblical Figures in the Islamic Faith . Eugene, Oregon: Wipf and Stock . pp. 175–185. ISBN 978-1556353048 .
↑ Ahmadi, Nader; Ahmadi, Fereshtah (1998). Iranian Islam: The Concept of the Individual . Berlin, Germany: Axel Springer . p. 80. ISBN 978-0-230-37349-5 .
↑ Houtman, Alberdina; Kadari, Tamar; Poorthuis, Marcel; Tohar, Vered (2016). Religious Stories in Transformation: Conflict, Revision and Reception . Leiden, Germany: Brill Publishers . p. 66. ISBN 978-9-004-33481-6 .
↑ Mathewes, Charles (2010). Understanding Religious Ethics . Hoboken, New Jersey: John Wiley & Sons . p. 248 . ISBN 978-1-405-13351-7 .
↑ Awn, Peter J. (1983). Satan's Tragedy and Redemption: Iblīs in Sufi Psychology . Leiden , the Netherlands : Brill . p. 18. ISBN 978-9-0040-6906-0 .
↑ อัลกุรอาน 7:12
↑ อัลกุรอาน 17:65 . ""As for My servants, no authority shalt thou have over them:" Enough is thy Lord for a Disposer of affairs."