อี.ที. เพื่อนรัก
อี.ที. เพื่อนรัก (อังกฤษ: E.T. the Extra-Terrestrial) เป็นภาพยนตร์ไซไฟ-แฟนตาซี ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2525 เป็นผลงานกำกับลำดับที่ 5 ของสตีเวน สปีลเบิร์ก เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายชื่อ เอลเลียต ที่ได้พบกับมนุษย์ต่างดาวที่ตกค้างอยู่บนโลก หลังจากยานอวกาศต้องเดินทางออกจากโลกอย่างกะทันหัน เอลเลียตเรียกมนุษย์ต่างดาวตนนั้นว่า "อี.ที." พากลับมาพักอาศัยที่บ้าน โดยปกปิดไม่ให้แม่รู้ และช่วย อี.ที. สร้างเครื่องส่งสัญญาณวิทยุกลับไปในอวกาศ เพื่อแจ้งให้ยานแม่กลับมารับ และหลบหนีการตามล่าจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล ที่ต้องการตัว อี.ที. เพื่อไปทำการวิจัย เดิมทีโครงการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นการสร้างภาพยนตร์ไซไฟ-สยองขวัญ ชื่อเรื่อง "Night Skies" เพื่อเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ Close Encounters of the Third Kind โดยโคลัมเบียพิกเจอส์ สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้พัฒนาบทภาพยนตร์ร่วมกับ เมลิสสา แมททีสัน ภรรยาของแฮริสัน ฟอร์ด โดยใช้โครงเรื่องจากจินตนาการในวัยเด็กของเขาเอง รวมถึงประสบการณ์จริง ที่เกิดในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างกัน หลังจากออกฉาย ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ทำรายได้จากการฉายในโรงถึง 359 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะในสหรัฐอเมริกา [1] ทำลายสถิติของสตาร์วอร์ส ที่เป็นอันดับหนึ่งอยู่ก่อนหน้านั้น ภาพยนตร์ถูกนำมาฉายซ้ำในปี พ.ศ. 2528 และในปี พ.ศ. 2545 ในโอกาสครบรอบ 20 ปีของภาพยนตร์ โดยมีการใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิก เพิ่มเติมฉากที่ไม่สามารถสร้างได้ก่อนหน้านั้น เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยี ในการฉายรอบปฐมทัศน์ฉบับครบรอบยี่สิบปี เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2545 ใช้วงออเคสตราบรรเลงเพลงประกอบพร้อมกับการฉายภาพยนตร์ โดยวงลอสแอนเจลิสฟิลฮาร์โมนิกออเคสตรา อำนวยเพลงโดย จอห์น วิลเลียมส์ [2][3] นักแสดง
เกี่ยวกับภาพยนตร์ตัวละคร อี.ที. ออกแบบโดย คาร์โล แรมบาลดี ศิลปินชาวอิตาลี ผู้ออกแบบตัวละครมนุษย์ต่างดาวใน Close Encounters of the Third Kind โดยได้แบบอย่างมาจากภาพวาดชื่อ "Women of Delta" ทีปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่วิทยาลัยศิลปะในเมืองโบโลญา ประเทศอิตาลี [4] อี.ที. มีลักษณะหัวโต ตาโต คอยาวยืดหดได้ แขนยาว ขาสั้น มีหัวใจที่เรืองแสงได้ มีส่วนสูงเท่ากับเด็กอายุหกขวบ ในการถ่ายทำใช้หุ่นยนต์ที่มีผู้บังคับกลไกถึง 12 คน ในบางฉากใช้นักแสดงตัวเล็กสวมชุดที่มีกลไกยืดหดคอ และบางฉากใช้นักแสดงเด็กที่พิการไม่มีขา ในภาพยนตร์มีฉากล้อเลียนภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส ของจอร์จ ลูคัส โดย อี.ที. แสดงท่าทางดีใจเมื่อพบเด็กแต่งแฟนซีชุดโยดา ในวันฮัลโลวีน ซึ่งจอร์จ ลูคัส ก็ได้ตอบกลับในภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1: ภัยซ่อนเร้น ใน 17 ปีต่อมา โดยมี อี.ที. เป็นตัวละครหนึ่งในการประชุมสภาสูงของสาธารณรัฐกาแลกติก [5] อี.ที. เพื่อนรัก ได้รับรางวัลออสการ์ ชนะเลิศ 4 สาขา ได้แก่ สาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม, สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม, สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม และสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|