Share to:

 

ปิติพงศ์ เต็มเจริญ

ปิติพงศ์ เต็มเจริญ
หัวหน้าพรรคเป็นธรรม
เริ่มดำรงตำแหน่ง
27 กันยายน พ.ศ. 2563
(ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้เป็นคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days)
ก่อนหน้าชุมพล ครุฑแก้ว
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด17 กรกฎาคม พ.ศ. 2511 (56 ปี)
อำเภอหนองจอก จังหวัดพระนคร ประเทศไทย
พรรคการเมืองประชากรไทย (2538–2544)
ไทยรักไทย (2544–2550)
พลังประชาชน (2550–2551)
เพื่อไทย (2551–2562)
เสรีรวมไทย (2562–2565)
เป็นธรรม (2565–ปัจจุบัน)
ชื่อเล่นดุ่ย[1]

ปิติพงศ์ เต็มเจริญ (เกิด 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2511) ชื่อเล่น ดุ่ย เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 (ปดิพัทธ์ สันติภาดา) เป็นหัวหน้าพรรคเป็นธรรม อดีตโฆษกพรรคเสรีรวมไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร 3 สมัย มีฉายาว่า "ทายาทเจ้าพ่อรถทัวร์สายใต้"[2]

ประวัติ

ปิติพงศ์ เต็มเจริญ เกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2511[3] จบการศึกษา นิติศาสตร์บัณฑิต จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท 3 สาขาได้แแก่ วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขากฏหมายธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยอเมริกัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และจบปริญญาเอก รัฐประศาสนศาสตร์ ดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

การทำงาน

ปิติพงศ์ เต็มเจริญ เริ่มทำงานการเมืองตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2538 ลงสมัคร ส.ส.สมัยแรก ในนามพรรคประชากรไทย ได้เป็นส.ส.สมัยแรก โดยได้เป็น ส.ส.กทม. เขต 10 (บางกอกน้อย,ตลิ่งชัน และบางพลัด) และในการเลือกตั้งปี 2544 และ 2548 ดร.ปิติพงศ์ ได้เป็น ส.ส.กทม.ต่อเนื่องกัน 2 สมัย ในสังกัดพรรคไทยรักไทย

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชาชน แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย แต่แพ้ให้กับชนินทร์ รุ่งแสง จากพรรคประชาธิปัตย์

ปิติพงศ์ เต็มเจริญ เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ชัยเกษม นิติสิริ) ในปี 2556[4]

ในปี 2562 เขาได้เข้าร่วมงานกับพรรคเสรีรวมไทยและรับตำแหน่งโฆษกพรรค แต่ได้ลาออกในเวลาต่อมา[5] และแยกออกมาทำงานในพรรคการเมืองในปี 2565 ชื่อว่า "พรรคเป็นธรรม" โดยเขารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค[6]

โดยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ปิติพงศ์ได้ลงสมัคร ส.ส.กทม. เขต 31 สังกัดพรรคเป็นธรรม แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[7][8] ต่อมาหลังจากที่ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ซึ่งถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นธรรมแล้ว เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ปิติพงศ์จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. ศูนย์ข่าวภาคใต้ (2023-05-19). "รู้จัก "พรรคเป็นธรรม" - เบอร์ 3 สู่ทำเนียบฯ". สำนักข่าวอิศรา.
  2. รู้จัก "ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ" หัวหน้า "พรรคเป็นธรรม"
  3. ทำเนียบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2548. สำนักงานเลขารัฐสภา. 2548
  4. คำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ ๒๙๖ /๒๕๕๖ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
  5. แพร่ประกาศนายทะเบียน ‘ปิติพงศ์ เต็มเจริญ’ ลาออกจากสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย
  6. พรรคเป็นธรรมประชุม กก.บห. เลือก ‘ปิติพงศ์ เต็มเจริญ’ นั่ง หน.พรรค มั่นใจได้ 15 ที่นั่ง
  7. พรรคเป็นธรรมคือใคร ทำไม “พิธา” อยากจับมือจัดตั้งรัฐบาลด้วย
  8. ทำความรู้จัก ‘พรรคเป็นธรรม’ ส่องความเป็นมาที่ทำ ‘พิธา’ ชวนร่วมรัฐบาล!... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/2336034/
  9. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๕, เล่ม ๑๒๙ ตอนที่ ๓๕ ข หน้า ๘, ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕
  10. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๓๗, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๗

แหล่งข้อมูลอื่น

ก่อนหน้า ปิติพงศ์ เต็มเจริญ ถัดไป
ก่อตั้งพรรค
หัวหน้าพรรคเป็นธรรม
(27 กันยายน พ.ศ. 2565)
ยังดำรงตำแหน่ง
Kembali kehalaman sebelumnya