Share to:

 

จักรพรรดินีซุนจ็อง

จักรพรรดินีซุนจ็อง
พระอัครมเหสี
จักรพรรดินีซุนจ็องใน พ.ศ. 2452
พระราชสมภพ20 สิงหาคม พ.ศ. 2437
ฮันยัง อาณาจักรโชซ็อน
สวรรคต3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 (71 ปี)
พระราชวังชังด็อก โซล ประเทศเกาหลีใต้
พระราชสวามีจักรพรรดิซุนจง
ราชวงศ์โชซ็อน (อภิเษกสมรส)
พระราชบิดายุน แท็ก-ย็อง
พระราชมารดาคุณนายคย็องฮึง
ศาสนาพุทธ (เดิมขงจื๊อใหม่)

จักรพรรดินีซุนจ็อง (เกาหลี순정효황후; ฮันจา純貞孝皇后; อาร์อาร์Sunjeong Hyo Hwang-hu; เอ็มอาร์Sunjŏng Hyo Hwang-hu; 20 สิงหาคม พ.ศ. 2437 – 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509) พระนามเดิม ยุน ชึง-ซุน (윤증순, 尹曾順) เป็นพระอัครมเหสีในจักรพรรดิซุนจง จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์โชซ็อนแห่งเกาหลี

พระราชประวัติ

จักรพรรดินีซุนจ็องราวปี พ.ศ. 2473

พระชนม์ชีพช่วงต้น

จักรพรรดินีซุนจ็องมีพระนามเดิมว่า ยุน ชึง-ซุน พระราชสมภพในฮันยัง เป็นธิดาของมาร์ควิสยุน แท็ก-ย็อง (윤택영, 尹澤榮) ขุนนางแห่งแฮพย็อง ทั้งนี้พระองค์เป็นญาติชั้นที่เก้ากับยุน โบ-ซ็อน ประธานาธิบดีคนที่สองของประเทศเกาหลีใต้

พระสนมยุนแห่งแฮพย็องได้เข้ารับราชการเป็นฝ่ายในของมกุฎราชกุมารช็อกในนาม พระสนมยุนแห่งแฮพย็อง ตั้งแต่มีพระชันษาเพียง 10 ปี[1] แต่หลังการสวรรคตของพระสนมมินแห่งยอฮึงพระชายาพระองค์แรก พระสนมยุนจึงขึ้นเป็นพระชายาเอกแทนที่ และเมื่อมกุฎราชกุมารช็อกเสวยราชย์เป็นจักรพรรดิซุนจงหลังจักรพรรดิโคจงสละราชสมบัติ จึงสถาปนาพระสนมยุนขึ้นเป็นจักรพรรดินีเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 แต่ไม่มีพระราชโอรส-ธิดาด้วยกัน และหลังจากดำรงพระอิสริยยศได้ไม่นาน พระองค์และพระราชสวามีก็ถูกรัฐบาลญี่ปุ่นลดพระอิสริยยศอันสืบเนื่องมาจากสนธิสัญญาผนวกดินแดนญี่ปุ่น-เกาหลี จึงมีพระอิสริยยศเป็น พระราชินีอีแห่งเกาหลี (แต่ไม่เป็นที่ทราบในเกาหลี) และตกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น[1]

จักรพรรดินีซุนจ็องทรงตกพุ่มหม้าย หลังจักรพรรดิซุนจงพระราชสวามีเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2469 ซึ่งเป็นไปได้ว่าถูกลอบปลงพระชนม์ด้วยยาพิษ[1]

สงครามเกาหลี

ในช่วงสงครามเกาหลี พระองค์ประทับอยู่ในพระราชวังชังด็อกที่ถูกกองกำลังของเกาหลีเหนือครอบครอง โดยมีทหารเกาหลีเหนือบุกเข้ามาในพระราชฐานพระองค์จึงบริภาษและทรงขับไล่ทหารเหล่านั้นออกไป หลังจากนั้นพระองค์จึงเสด็จไปประทับในพระราชวังอุนฮย็อน ทว่าเมื่อสถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง พระองค์จึงเสด็จพระราชดำเนินไปเมืองปูซานกับพระราชวงศ์พระองค์อื่น ๆ อันรวมไปถึงเจ้าหญิงฮี พระชายาในเจ้าชายวันฮึง ในหนังสือ "The World is One" พระนิพนธ์ของเจ้าหญิงพังจาระบุว่าจักรพรรดินีซุนจ็องพระราชดำเนินด้วยพระบาทไปจนถึงปูซาน

หลังสิ้นสงคราม

หลังสิ้นสงครามเกาหลี เกาหลีใต้มีการปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐ โดยมีอี ซึง-มันเป็นประธานาธิบดีคนแรกและเขาไม่ชอบระบอบราชวงศ์ อดีตจักรพรรดินีซุนจ็องมิได้รับอนุญาตให้เสด็จกลับไปประทับที่พระราชวังชังด็อก[1] แต่ถูกจัดให้ประทับอยู่ในพระตำหนักซูอินในช็องนึงอย่างอัตคัตคับแคบและไม่สมพระเกียรติ หลังเปลี่ยนรัฐบาลในปี พ.ศ. 2504 พระองค์ได้รับอนุญาตให้กลับไปประทับ ณ พระตำหนักนักซ็อนในพระราชวังชังด็อกพร้อมกับเหล่านางสนองพระโอษฐ์คือพัก ชัง-บก, คิม มย็อง-กิล, ซ็อง อก-ย็อม และพนักงานอีกห้าคน

ในปัจฉิมวัยพระองค์เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ จักรพรรดินีซุนจ็องเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 ด้วยพระหทัยพิการขณะพระชนมายุ 71 พรรษา ณ พระตำหนักนักซ็อน พระราชวังชังด็อกหลังกลับไปประทับเพียงห้าปี[1] พิธีปลงพระบรมศพเป็นรัฐพิธีทางพุทธศาสนา พระบรมศพถูกบรรจุเคียงข้างกับพระบรมศพของจักรพรรดิซุนจงพระราชสวามี

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 Kallie Szczepanski (9 กุมภาพันธ์ 2560). "Photos of Korea's Imperial Family". ThoughtCo. สืบค้นเมื่อ 4 กันยายน 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
ก่อนหน้า จักรพรรดินีซุนจ็อง ถัดไป
จักรพรรดินีซุนมย็อง
(สถาปนาหลังสวรรคต)
จักรพรรดินีเกาหลี
(20 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 — 29 สิงหาคม พ.ศ. 2453)
ยกเลิกตำแหน่ง
เริ่มตำแหน่งใหม่ อ้างสิทธิจักรพรรดินีเกาหลี
(29 สิงหาคม พ.ศ. 2453 — 24 เมษายน พ.ศ. 2469)
อี พัง-จา
Kembali kehalaman sebelumnya