ท่าวังหลังและท่าพรานนกท่าวังหลัง |
ประเภท | ท่าเรือโดยสาร |
---|
ประเภทเรือ | เรือด่วน, เรือข้ามฟาก |
---|
โครงสร้างท่า | สะพานเหล็กปรับระดับพร้อมทางเดินเชื่อม 4 สะพาน |
---|
ที่ตั้ง | เขตบางกอกน้อย, กรุงเทพมหานคร ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา |
---|
ชื่อทางการ | ท่าวังหลัง (ของเอกชน) ท่าพรานนก (ของกรมเจ้าท่า) |
---|
เจ้าของ | เอกชน (ท่าวังหลัง) กรมเจ้าท่า (ท่าพรานนก) |
---|
ผู้ดำเนินงาน | • เรือด่วนเจ้าพระยา • เรือโดยสารไมน์สมาร์ทเฟอร์รี่ |
---|
ค่าโดยสาร | • เรือด่วนเจ้าพระยา ธงส้ม16 บาทตลอดสาย
ธงเหลือง 21 บาทตลอดสาย
ธงเขียวเหลือง 14-33 บาท
ธงแดง 30 บาทตลอดทั้งสาย (ปกติ 50 บาท)
• เรือไมน์สมาร์ทเฟอร์รี่
สายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง 20 บาทตลอดสาย |
---|
ข้อมูลเฉพาะ |
---|
รหัสท่า | น10 (N10) |
---|
โครงสร้างหลัก | โป๊ะลอยน้ำ 4 โป๊ะ (วังหลัง 2 โป๊ะ พรานนก 2 โป๊ะ) |
---|
ความยาว | 12 เมตร (พรานนก) 11 เมตร (วังหลัง) |
---|
ความกว้าง | 6 เมตร (พรานนก) 7 เมตร (วังหลัง) |
---|
|
ท่าวังหลัง หรือ ท่าพรานนก หรือ ท่าศิริราช (อังกฤษ: Wang Lang Pier, Prannok Pier, Siriraj Pier; รหัส: น10, N10) เป็นท่าน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกหรือฝั่งธนบุรี บริเวณปลายถนนวังหลัง ในพื้นที่แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยท่าเรือด่วนเจ้าพระยา และท่าเรือข้ามฟาก โดยแบ่งการให้บริการออกเป็นท่าเรือหลายท่าเรียงรายอยู่ในบริเวณเดียวกัน
การให้บริการ
เรือด่วนเจ้าพระยา
ให้บริการโดย บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ที่ท่าวังหลัง (ศิริราช), รหัส น10 (N10) (อังกฤษ: Wang Lang (Siriraj) Pier, code: N10) แบ่งออกเป็น 2 ท่า ประกอบด้วย
- ท่าวังหลัง ท่าเรือด้านใต้สุด ถัดจากท่าเรือข้ามฟาก ให้บริการขาล่อง ปลายทางท่าสาทร-วัดราชสิงขร-ราษฏร์บูรณะ
- ท่าศิริราช (พรานนก) ท่าเรือด้านเหนือสุด บริเวณปลายถนนพรานนก ถัดจากโรงพยาบาลศิริราช ให้บริการขาขึ้น ปลายทางท่าน้ำนนทบุรี-ท่าปากเกร็ด
รายละเอียดท่าเรือ
- แต่ละท่าประกอบด้วยโป๊ะเหล็กและสะพานทางเดินเหล็กปรับระดับ, ท่าพรานนกมีสะพานทางเดินเชื่อมเพิ่มเติม
- ขนาดท่า ท่าพรานนกกว้าง 6.00 เมตร ยาว 12.00 เมตร, ท่าวังหลังกว้าง 7.00 เมตร ยาว 11.00 เมตร[1]
- สะพานทางเดิน ท่าพรานนกกว้าง 2.00 เมตร ยาว 7.00 เมตร, ท่าวังหลังกว้าง 2.50 เมตร ยาว 8.50 เมตร
- สะพานทางเดินเชื่อมท่าพรานนกกว้าง 2.00 เมตร ยาว 6.50 เมตร
- ท่าพรานนกรับน้ำหนักได้ 60 คน, ท่าวังหลังรับน้ำหนักได้ 80 คน[2]
เรือข้ามฟาก
ให้บริการโดย บริษัท สุภัทรา จำกัด ที่ท่าเรือวังหลัง อยู่ระหว่างท่าเรือด่วนเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง โดยแยกเป็นท่าด้านเหนือสำหรับผู้โดยสารลงเรือ และด้านใต้สำหรับผู้โดยสารขี้นจากเรือ ซึ่งผู้โดยสารจะต้องชำระเงินก่อนลงเรือ ท่าเรือนี้จะให้บริการเรือข้ามฟาก 3 เส้นทางหมุนเวียนกันไป ได้แก่
- เส้นทางวังหลัง-ท่าพระจันทร์
- เส้นทางวังหลัง-ท่าช้าง
- เส้นทางวังหลัง-ศูนย์การค้าท่ามหาราช (ท่าวัดมหาธาตุ)
รายละเอียดท่าเรือ
- มี 2 ท่า ประกอบด้วยโป๊ะเหล็ก และสะพานทางเดินเหล็ก ไม่มีหลังคา
- ขนาดท่า กว้าง 7.00 เมตร ยาว 11.00 เมตร
- สะพานทางเดิน กว้าง 2.00 เมตร ยาว 7.60 เมตร
- รับน้ำหนักได้ 60 คน[3]
การเชื่อมต่อรถโดยสาร
- ป้ายรถประจำทางหน้าโรงพยาบาลศิริราช ถนนอรุณอมรินทร์ สาย 57 81 91 91ก 149 208
- รถตุ๊กตุ๊กสองแถว เส้นทางท่าน้ำศิริราช-พาณิชย์ธนบุรี, วัดดงมูลเหล็ก, วัดระฆัง-โพธิ์สามต้น
- รถสี่ล้อสองแถว เส้นทางท่าน้ำศิริราช-พาณิชย์ธนบุรี, บางขุนศรี, บางขุนนนท์, ตลาดพลู, คลองสาน
- รถตู้ เส้นทางท่าน้ำศิริราช-บางบัวทอง
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
เหตุการณ์สำคัญในอดีต
เหตุการณ์โป๊ะล่มที่ท่าพรานนก
เช้าวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2538 ผู้โดยสารหลายร้อยคนยืนรอเรือด่วนบนโป๊ะเทียบเรือที่ท่าพรานนก ซึ่งเป็นโป๊ะที่ใช้แทงก์ขนาดใหญ่ทำเป็นทุ่นลอยน้ำ มีแผ่นเหล็กเป็นพื้นรองรับ แต่เมื่อผู้โดยสารแย่งกันขึ้นเรือจนผู้โดยสารบางคนตกน้ำและเกิดการมุง ประกอบกับเรือได้กระแทกที่โป๊ะ ทำให้ตัวโป๊ะจมลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ประมาณ 10 นาทีหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์ได้เข้าช่วยเหลือ และค้นหาผู้ประสบเหตุ พบผู้เสียชีวิตที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กนักเรียนติดอยู่ใต้ตัวโป๊ะที่มีหลังคาคลุม บางส่วนถูกกระแสไฟฟ้าที่รั่วจากหลังคาโป๊ะดูด จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 29 ราย[4][5]
หลังเกิดเหตุการณ์ ได้มีการปรับปรุงโป๊ะตามท่าเรือเจ้าพระยาต่าง ๆ และมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น[6] ทางด้านญาติผู้เสียชีวิตได้ยื่นฟ้องบริษัท สุภัทรา จำกัด, บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา, กรุงเทพมหานครและกรมเจ้าท่า โดยบริษัทเอกชนได้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนหนึ่งจนมีการถอนฟ้อง ในศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องกรมเจ้าท่า ต่อมาในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานครต้องชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 12 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,616,241 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ฟ้องเมื่อ พ.ศ. 2539 ซึ่งเมื่อรวมดอกเบี้ยแล้วเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท โดยศาลให้เหตุผลว่ากรุงเทพมหานครกระทำการโดยประมาทจนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว[7][8]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
13°45′21″N 100°29′13″E / 13.755927°N 100.486834°E / 13.755927; 100.486834
|
---|
ปากเกร็ด-นนทบุรี | |
---|
นนทบุรี-สาทร | |
---|
สาทร-ราษฎร์บูรณะ | |
---|
เส้นทางเรือท่องเที่ยว | |
---|
ดูเพิ่ม | |
---|
|
---|
แขวง | | |
---|
ประวัติศาสตร์ |
- อำเภออมรินทร์ จังหวัดพระนคร
- อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดพระนคร
- เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
|
---|
ภูมิศาสตร์ | |
---|
เศรษฐกิจ | |
---|
สังคม | การศึกษา | |
---|
สาธารณสุข | |
---|
วัฒนธรรม | |
---|
การทหาร | |
---|
|
---|
|