Share to:

 

นิฮงโชกิ

หน้าจากสำเนาของนิฮงโชกิ ยุคเฮอังตอนต้น (ค.ศ. 794-1185)

นิฮงโชกิ (ญี่ปุ่น: 日本書紀โรมาจิNihon Shoki) บางครั้งแปลเป็น พงศาวดารญี่ปุ่น เป็นหนังสือที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสองของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยุคคลาสสิก หนังสือนี้มีชื่ออีกชื่อว่า นิฮงงิ (日本紀) โดยมีเนื้อหาและรายละเอียดมากกว่าโคจิกิ และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีในการบันทึกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นโบราณ นิฮงโชกิแต่งเสร็จใน ค.ศ. 720 ภายใต้กองบรรณาธิการของเจ้าชายโทเนริ และด้วยความช่วยเหลือจากโอโนะยาซูมาโระ ซึ่งอุทิศแด่จักรพรรดินีเก็นโช[1] หนังสือนี้ยังสะท้อนอิทธิพลของจีนต่ออารยธรรมญี่ปุ่น[2] โดยในประเทศญี่ปุ่น ราชสำนักที่รับวัฒนธรรมจีนมาต้องการประวัติศาสตร์แบบลายลักษณ์อักษรที่สามารถเปรียบเทียบกับประชุมพงศาวดารของจีนได้[3]

นิฮงโชกิเริ่มต้นด้วยตำนานการสร้างของญี่ปุ่น อธิบายต้นกำเนิดของโลกและเทพเจ็ดรุ่นแรก (เริ่มต้นที่คูนิโนโตโกตาจิ) แล้วไปยังเรื่องราวเทพปกรณัมเหมือนโคจิกิ แต่มีสายรายงานไปถึงเหตุการณ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 8 นิฮงโชกิมุ่งเน้นถึงผลบุญของผู้นำที่ดี เช่นเดียวกันกับความผิดพลาดของผู้นำที่แย่ หนังสือกล่าวถึงสมัยในตำนานและการติดต่อทางการทูตกับต่างประเทศ นิฮงโชกิเขียนด้วยภาษาจีนคลาสสิก ซึ่งเป็นเรื่องทั่วไปที่จะเขียนเอกสารราชการในเวลานั้น ส่วนโคจิกิเขียนด้วยการผสมระหว่างอักษรจีนกับการออกเสียงแบบญี่ปุ่น (ส่วนใหญ่เป็นชื่อและเพลง) นิฮงโชกิมีการทับศัพท์จำนวนมากที่ให้ผู้อ่านรู้ว่าจะอ่านแบบญี่ปุ่นอย่างไร เรื่องราวในหนังสือนี้และโคจิกิโดยรวมเรียกเป็น เรื่องราวคิกิ[4]

หนังสือแปลอันแรกคือฉบับภาษาอังกฤษของวิลเลียม จอร์จ แอสตันใน ค.ศ. 1896[5]

บท

ตำรานิฮงโชกิลงวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 683 (ปีที่ 12 ของจักรพรรดิเท็มมุ) เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาออกให้ใช้เหรียญทองแดงแทนเหรียญเงิน ซึ่งกล่าวถึงสกุลเงินญี่ปุ่นในช่วงแรก ตัดตอนมาจากตำราฉบับคริสต์ศตวรรษที่ 11

กระบวนการรวบรวมข้อมูล

ภูมิหลัง

เบื้องหลังการรวมรวมข้อมูลนิฮงโชกิคือจักรพรรดิเท็มมุทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ 12 คน (รวมเจ้าชายคาวาชิมะ) แก้ไขประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของจักรวรรดิ[6]

โชกุนิฮงงิระบุไว้ในส่วนเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 720 ว่า "先是一品舍人親王奉勅修日本紀。至是功成奏上。紀卅卷系圖一卷" แปลได้เป็น "จนถึงตอนนั้น เจ้าชายโทเนริได้รวบรวม นิฮงงิ ตามคำสั่งองค์จักรพรรดิ พระองค์รวบรวมเสร็จด้วยการส่งหนังสือประวัติศาสตร์ 30 เล่ม และหนังสือลำดับวงศ์ตระกูล 1 เล่ม"[7]

แหล่งข้อมูล

นิฮงโชกิเป็นตำราที่สังเคราะห์จากเอกสารที่เก่ากว่า โดยเฉพาะบันทึกที่ถูกเก็บรักษาอย่างต่อเนื่องในราชสำนักยามาโตะตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 นอกจากนี้ยังมีเอกสารและคติชาวบ้านที่กลุ่มตระกูลผู้รับใช้ราชสำนักส่งมาด้วย ก่อนหน้านิฮงโชกิ เคยมีตำราเท็นโนกิและคกกิที่รวบรวมโดยเจ้าชายโชโตกุและโซงะ โนะ อูมาโกะ แต่ตำราเหล่านี้เก็บรักษาอยู่ในที่พำนักของโซงะ และถูกเผาทำลายในช่วงอุบัติการณ์อิชชิ

ผู้ร่วมเขียนงานอ้างถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่มีอยู่ในปัจจุบัน ข้อมูลเหล่านั้นได้แก่ เอกสารแพ็กเจสามอัน (คูดาระ-กิ, ฯลฯ) ใช้อ้างเพื่อวัตถุประสงค์ในการบันทึกเรื่องทางการทูตเป็นหลัก[8] การวิจารณ์ตัวบทแสดงให้เห็นว่านักวิชาการที่หลบหนีการทำลายล้างอาณาจักรแพ็กเจไปที่ยามาโตะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์เหล่านี้ และผู้เขียนนิฮงโชกิพึ่งพาแหล่งข้อมูลเหล่านี้เป็นอย่างมาก[9] สิ่งนี้ต้องนำมาพิจารณารายงานที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ด้านข้อความที่อ้างถึงความเป็นศัตรูทางประวัติศาสตร์สมัยก่อนระหว่างอาณาจักรชิลลา, โคกูรยอ และแพ็กเจของเกาหลีโบราณ

แหล่งข้อมูลอื่น ๆ บางส่วนอ้างอิงโดยไม่ระบุชื่อเป็น อารุฟูมิ (一書; "เอกสารบางส่วน") เพื่อเก็บบันทึกสำรองไว้ใช้ในเหตุการณ์เฉพาะ

อิทธิพล

เรื่องราวอูราชิมะ ทาโรถูกพัฒนาจากประโยคในนิฮงโชกิ (รัชสมัยจักรพรรดิยูเรียกุ ปีที่ 22) ว่า มีเด็กที่อูราชิมะเดินทางมาที่โฮไรซังและเห็นสิ่งอัศจรรย์ เนื้อเรื่องต่อมารวมองค์ประกอบจากเรื่องเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงของ "โชคของทะเลและโชคของเทือกเขา" (โฮเดริและโฮโอริ) ภายหลังเรื่องราวอูราชิมะถูกพัฒนาให้คล้ายกับเรื่องราวของริป แวน วินเกิล ดังนั้นหลายคนจึงถือว่าเป็นตัวอย่างแรกของการเดินทางข้ามเวลาในนิยาย[10]

อ้างอิง

  1. Aston, William George (July 2005) [1972], "Introduction", Nihongi: Chronicles of Japan from the Earliest Times to AD 697 (Tra ed.), Tuttle Publishing, p. xv, ISBN 978-0-8048-3674-6, from the original Chinese and Japanese.
  2. "Nihon shoki | Mythology, Creation & History | Britannica".
  3. "Nihon shoki | Mythology, Creation & History | Britannica".
  4. Equinox Pub.
  5. Yasumaro no O.Nihongi: Chronicles of Japan from the Earliest Times to A.D. 697.William George Aston.London.Transactions and proceedings of the Japan Society.2006
  6. 日本の歴史4 天平の時代 p.39, Shueisha, Towao Sakehara
  7. 経済雑誌社 (1897). Keizai Zasshisha (บ.ก.). Shoku Nihongi 続日本紀. National History (ภาษาญี่ปุ่น). Vol. 2. Tokyo: Keizai Zasshisha. p. 362. doi:10.11501/991092. ndldm:991092 – โดยทาง National Diet Library.
  8. Sakamoto, Tarō. (1991). The Six National Histories of Japan: Rikkokushi, John S. Brownlee, tr. pp. 40–41; Inoue Mitsusada. (1999). "The Century of Reform" in The Cambridge History of Japan, Delmer Brown, ed. Vol. I, p.170.
  9. Sakamoto, pp. 40–41.
  10. Yorke, Christopher (February 2006), "Malchronia: Cryonics and Bionics as Primitive Weapons in the War on Time", Journal of Evolution and Technology, 15 (1): 73–85, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-05-16, สืบค้นเมื่อ 2009-08-29

อ่านเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

ข้อมูลนิฮงงิ / นิฮงโชกิ

  • The Nihon Shoki Wiki Online English translations by Matthieu Felt
  • (ในภาษาญี่ปุ่น) 『日本書紀』国史大系版 [Nihon Shoki – Kokushi Taikei edition]. 菊池眞一研究室 (Shinichi Kikuchi laboratory) (ภาษาญี่ปุ่น). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-12-11. สืบค้นเมื่อ 2024-06-16. [Based on The Revised Enhanced Kokushi Taikei edition, redacted with other editions]
  • (ในภาษาญี่ปุ่น) Nihon Shoki Text (六国史全文) Downloadable lzh compressed file

อื่น ๆ

Kembali kehalaman sebelumnya