พระติสสพุทธเจ้า
พระติสสพุทธเจ้า (บาลี: Tissa Buddha) เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 17 ในพุทธวงศ์ของพระโคตมพุทธเจ้า ตรัสรู้เมื่อ 92 มหากัปที่แล้ว[1] พระประวัติพระติสสพุทธเจ้า มีพระนามเดิมว่าเจ้าชายติสสะ เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าชนสันทะและพระนางปทุมาแห่งกรุงเขมกะ ประสูติที่วีริยราชอุทยาน มีปราสาท 3 หลังเป็นที่ประทับคือ คุณเสลา นาทิยะ และนิสภะ และมีพระสนมกำนัล 30,000 นาง[2] เมื่อเจริญวัยได้ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางสุภัททา มีพระโอรสด้วยกันพระองค์หนึ่งคือ เจ้าชายอานนท์ เมื่อพระชนมายุได้ 7,000 ปี ได้ทรงเห็นเทวทูต 4 จึงเกิดความเบื่อหน่ายโลก ตัดสินพระทัยทรงม้าชื่อโสนุตตระเสด็จออกผนวช โดยมีข้าราชบริพารหนึ่งโกฏิออกบวชตามเสด็จ พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ครึ่งเดือน ถึงวันเพ็ญเดือนหก ได้เสวยข้าวมธุปายาสที่ธิดาของเศรษฐีชื่อวีระนำมาถวาย แล้วไปประทับพักกลางวันที่สลลวัน ทรงได้รับหญ้า 8 กำที่คนเฝ้าไร่ข้าวเหนียวชื่อวิชิตสังคามกะนำมาถวาย[1] ทรงนำมาปูรองประทับนั่งที่โคนต้นรกฟ้า (บาลี: อสน) บำเพ็ญเพียรต่อจนได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในตอนรุ่งเช้า หลังจากตรัสรู้ได้ทรงประกาศพระศาสนา ตราบจนเสด็จดับขันธปรินิพพานที่นันทาราม กรุงสุนันทวดี ขณะพระชนมายุ 100,000 พรรษา[2] พระติสสพุทธเจ้ามีคู่อัครสาวกนามว่าพระพรหมเทวะและพระอุทยะ คู่อัครสาวิกาคือพระผุสสาและพระสุทัตตา และพระสมคะเป็นพระอุปัฏฐาก[1] ความเกี่ยวข้องกับพระโคตมพุทธเจ้าในสมัยพระติสสพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระมหากษัตริย์พระนามว่าสุชาต ได้สละราชสมบัติออกผนวชเป็นฤๅษี เมื่อทราบว่าพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว จึงทรงถือดอกดอกมณฑารพ ดอกปทุม และดอกปาริชาต ไปกั้นถวายเป็นร่ม จึงทรงพยากรณ์ว่าสุชาตฤๅษีจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอีก 92 กัปข้างหน้า[2] อ้างอิง
|