พระทีปังกรพุทธเจ้า
พระทีปังกรพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ในโลกเมื่อ 4 อสงไขยแสนกัปที่แล้ว[1] ถือเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรกในพุทธวงศ์ของพระโคตมพุทธเจ้า เรื่องราวของพระองค์ปรากฏทั้งในหลักฐานฝ่ายเถรวาทและมหายาน นามของพระองค์หมายถึงผู้ยังแสงสว่างให้เกิดขึ้น ชื่ออื่น ๆ ของพระองค์ได้แก่ พระสมันตประภาพุทธเจ้า พระประทีปประภาพุทธเจ้า พระสมาธิประภาพุทธเจ้า หรือพระปัจฉิมพุทธะทีปังกร ในอดีตกาลมีพระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกร 2 พระองค์ จึงเรียกพระองค์แรกว่าพระปุราณทีปังกร (ปุราณ แปลว่า เก่า) และเรียกพระองค์หลังว่าพระปัจฉิมทีปังกร (ปัจฉัม แปลว่า หลัง) พระประวัติในคัมภีร์พุทธวงศ์ บทพุทธปกิรณกกัณฑ์ กล่าวถึงประวัติของพระทีปังกรพุทธเจ้าไว้ว่า เมื่อศาสนาพระสรณังกรพุทธเจ้าอันตรธานไป ในสารมัณฑกัปเดียวกัน มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติเป็นองค์ที่ 4 และเป็นองค์สุดท้ายของกัปนั้น พระนามว่า "ทีปังกร"[2] พระทีปังกรพุทธเจ้าประสูติเป็นทีปังกรราชกุมาร รัมมวดีนคร พระบิดาทรงพระนามว่าพระเจ้าสุเทพ และพระมารดาทรงพระนามว่าพระนางสุเมธาเทวี ทีปังกรราชกุมารทรงเกษมสำราญอยู่ 10,000 ปี ในปราสาท 3 หลัง ชื่อว่า หังสา โกญจา และมยุรา เหมาะสมตามฤดูทั้ง 3 มีพระมเหสีนามว่าปทุมาเทวี และทรงมีสนมนารีแวดล้อมอีก 300,000 นาง วันหนึ่ง ทีปังกรราชกุมารเสด็จประพาสอุทยาน ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้งสี่ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ พระองค์จึงมีพระทัยน้อมไปทางบรรพชา[1] เมื่อพระนางปทุมาเทวีประสูติพระโอรส พระนามว่า อุสภักขันธกุมาร จึงได้เสด็จออกบรรพชาในราชอุทยานนั้นด้วยคชยาน 84,000 เชือก มีผู้ออกบรรพชาตามจำนวนโกฏิหนึ่ง หลังจากทรงบำเพ็ญความเพียรอยู่เป็นเวลา 10 เดือน ในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ พระองค์ก็นำบริษัทเข้าไปบิณฑบาตข้าวปายาสในนคร ตอนเย็นทรงปลีกจากคณะ ทรงรับหญ้า 8 กำ จากอาชีวกชื่อ อานันทะ และนำมาปูลาดเป็นโพธิบัลลังก์ใต้ต้นเลียบ (ต้นมะกอก) ปราบพระยามารกับพลมารนับอสงไขย และได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนนั้น พระทีปังกรพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา แก่พระภิกษุผู้บรรพชาตามจำนวนโกฏิหนึ่ง ที่สุนันทาราม ทำให้พระภิกษุโกฏิหนึ่งนั้นสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล[1] ธรรมาภิสมัยในพุทธกาลของพระทีปังกรพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น 3 วาระ คือ[1]
พระทีปังกรพุทธเจ้า ทรงประชุมสาวกสันนิบาต 3 ครั้ง
พระทีปังกรพุทธเจ้ามีพระสาวกองค์สำคัญ คือ
พระทีปังกรพุทธเจ้ามีพระวรกายสูง 80 ศอก เมื่อพระชนมายุได้ 100,000 ปี จึงปรินิพพานที่นันทาราม[1] หลังจากนั้นพุทธศาสนาของพระองค์ก็ดำรงอยู่ต่อมานานถึง 100,000 ปี จึงอันตรธานไป[3] ความเกี่ยวข้องกับพระโคตมพุทธเจ้าในสมัยพระทีปังกรพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้าได้เสวยพระชาติเป็นสุเมธดาบส ได้นอนทอดตนบนเปือกตมให้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นและพระสาวกเหยียบข้ามไป จึงได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลข้างหน้า พระนามว่า พระโคตมพุทธเจ้า[4] ความเชื่อของฝ่ายมหายานในอุโบสถของฝ่ายมหายาน จะสร้างพระรูปของพระทีปังกรอยู่ในตำแหน่งของพระพุทธเจ้าในอดีตของพระพุทธแห่งตรีกาล ชาวจีนเชื่อว่าวันประสูติของพระองค์คือ วันที่ 22 เดือนแปดจีน หลักฐานที่กล่าวถึงพระองค์ในพระสูตรของฝ่ายมหายาน ได้แก่[5]
ความเชื่อของลัทธิอนุตตรธรรมลัทธิอนุตตรธรรมเชื่อว่า พระแม่องค์ธรรมได้มอบหมายให้พระทีปังกรพุทธเจ้ามาเกิด เพื่อทำหน้าที่ฉุดช่วยนำพาวิญญาณเวไนยสัตว์ทั้งหลายให้กลับสู่แดนนิพพาน ซึ่งเป็นบ้านเดิมของวิญญาณทุกดวง ยุคนี้เรียกว่าธรรมกาลยุคเขียว[6] ซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 1,886 ปี (3,086-1,200 ก่อน ค.ศ.) ต่อมา พระแม่องค์ธรรมได้ส่งพระศากยมุนีพุทธเจ้ามาปกครองธรรมกาลยุคถัดมา เมื่อพระโคดมตั้งปณิธานได้ 7 วันว่าถ้าหากไม่ได้ตรัสรู้ก็จะไม่ลุกจากที่นั่ง พระแม่องค์ธรรมสงสารพระโคดมที่ลำบากบำเพ็ญเพียรมา 6 ปียังไม่บรรลุ จึงให้พระทีปังกรพุทธเจ้าจำแลงเป็นดาวประกายพรึกมาเปิดจุดญาณทวารให้ พระโคดมจึงได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า[7] อ้างอิง
ดูเพิ่ม
|