พระนารทสัมพุทธเจ้า
ตามคัมภีร์อนาคตวงศ์ พระนารทสัมพุทธเจ้า[1] เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต โดยหลังจากหมดยุคศาสนาของพระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าแล้ว เกิดแผ่นดินใหม่ที่ไม่มีพระพุทธเจ้าเลยอยู่นานถึง 8 กัลป์ หลังจากนั้นเป็นมัณฑกัปที่มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์บังเกิดขึ้น คือ
โดยพระองค์ได้บำเพ็ญบารมีมาอย่างยิ่งยวด โดยปรมัตถบารมีหนึ่งคือ ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นกษัตริย์มีพระนามว่า พระยาสิริคุตตมหาราช ครองเมืองมัลลนคร มีพระอัครมเหสีนามว่า ลัมภุราชเทวี มีพระราชโอรสและพระราชธิดา นามว่า นิโครธกุมาร และ โคตมีกุมารี ตามลำดับ วันหนึ่งมีพราหมณ์ 8 ท่าน มาทูลขอราชสมบัติและพระนคร พระองค์ก็พระราชทานด้วยจิตใจที่ปลาบปลื้มยินดี และพาครอบครัวออกบวช ไปอาศัยอยู่ที่อาศรมในป่า ในครั้งนั้นมียักษ์ชื่อว่า ยันตะ ร่างกายสูงถึง 120 ศอก มาขอพระราชโอรสและธิดาทั้งสอง พระองค์ เพื่อเป็นอาหาร และ ยันตะยักษ์ ยังกล่าวอีกว่า ถ้าได้ถวายพระราชโอรสและพระราชธิดาแล้ว อนาคตจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นอน เมื่อ พระยาสิริคุตตมหาราช ได้ฟังเช่นนั้นเกิดความปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก จึงตอบว่า ไม่ใช่ไม่รักลูกทั้งสองแต่ท่านเป็นผู้ที่รักในพระโพธิญาณยิ่งกว่าสิ่งใด จึงตัดใจสละพระกุมารีทั้ง 2 ให้ยักษ์และหลั่งน้ำเหนือมือของยักษ์ พร้อมทั้งประกาศแก่เทวดาและพระแม่ธรณีให้เป็นสักขีพยาน แห่งมหาทานนี้ เมื่อยักษ์ได้รับมอบพระกุมารีทั้งสองไปแล้ว ก็เคี้ยวกินต่อหน้าต่อตาพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์เห็นเลือดที่ไหลจากปากของยักษ์ ก็มิได้หวาดกลัวเลยด้วยจิตใจอันเปี่ยมด้วยยินดี ด้วยมหาทานบารมีที่พระองค์มิได้หวาดหวั่นใจเลยนี้ทำให้พระองค์มีพุทธรัศมีเหมือนสายฟ้าในกลีบเมฆรูปร่างเหมือนดอกบัวตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน พระวรกายสูง 20 ศอก มีพระชนมายุ 1 หมื่นปี มีไม้จันทร์เป็นมหาโพธิ ในศาสนาของพระองค์ คนในยุคนั้นจะมีรูปร่างอันสวยงามน่ายินดี ด้วยบุญที่ท่านให้ลูกเป็นทาน และยังมีภักษาหาร 7 ประการบังเกิดขึ้น มนุษย์ก็ได้อาศัยภักษาหารนี้เลี้ยงชีพ อ้างอิง
|