ตรัสรู้
ตรัสรู้ หมายถึง การรู้แจ้งของพระพุทธเจ้า[1] ซึ่งเป็นการรู้สภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง[2] ในหลักอริยสัจ 4[3] เหตุการณ์หลังจากพระโคดมทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาที่ตำบลอุรุเวลาเสนานิคมอยู่นานถึง 6 ปี ก็ยังไม่บรรลุ จึงทรงละหนทางนี้[4] แล้วระลึกได้ว่าเมื่อทรงพระเยาว์ได้เคยนั่งสมาธิใต้ต้นหว้า ด้วยความสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย จึงได้ปฐมฌานมาตั้งแต่ครั้งนั้น พระองค์จึงตัดสินพระทัยกลับเสวยพระกระยาหาร ทำให้ร่างกายกลับมีพลัง พระทัยเริ่มสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมอีกครั้ง จนได้บรรลุฌานเป็นลำดับจนถึงจตุตถฌาน ในขณะที่จิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ตั้งมั่น อย่างนี้ ก็ทรงบรรลุญาณ 3 แต่ละขั้นในปฐมยาม มัชฌิมยาม และปัจฉิมยาม ตามลำดับ ในช่วงเวลานี้จึงทรงรู้ว่าอวิชชาถูกกำจัดแล้ว[5] เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 6[6] อริยสัจ 4ในสังยุตตนิกาย มหาวารวรรค สัมมาสัมพุทธสูตร พระโคตมพุทธเจ้าตรัสว่า เพราะพระองค์ได้ตรัสรู้อริยสัจ 4 ประการตามความเป็นจริง พระองค์จึงเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า[7] และในอรหันตสูตร ตรัสว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด ทั้งในอดีตกาล อนาคตกาล และในปัจจุบันกาล ล้วนตรัสรู้ซึ่งอริยสัจ 4 เดียวกันนี้ตามความเป็นจริง[8] ลัทธิอนุตตรธรรมลัทธิอนุตตรธรรม เชื่อว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จุดญาณทวาร ซึ่งเป็นประตูสู่นิพพาน เนื่องจากพระแม่องค์ธรรมสงสารพระโคดมที่ลำบากบำเพ็ญทุกรกิริยามาหลายปีแต่ยังไม่บรรลุ จึงให้พระทีปังกรพุทธเจ้าจำแลงเป็นดาวประกายพรึกมาเปิดจุดญาณทวารให้ พระโคดมจึงได้ตรัสรู้[9] เป็นลัทธิที่เกิดขึ้นมาใหม่ รวบรวมความเชื่อหลาย ๆ ลัทธิ ปัจจุบันเป็นลัทธิผิดกฎหมายของประเทศจีน อ้างอิง
|