พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565ระวังสับสนกับ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 10 กันยายน 2495
พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 (อังกฤษ: Celebrations on the Auspicious Occasion of Her Majesty Queen Sirikit The Queen Mother’s 90th Birthday Anniversary 12th August 2022) เป็นงานฉลองที่ประกอบด้วยรัฐพิธี ราชพิธี และราษฎรพิธี เนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565 จัดขึ้นในสมัยรัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พระราชพิธีวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2565เวลาบ่าย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จออกในโอกาสที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นการส่วนพระองค์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ห้องรับรอง ชั้น 29 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จออกด้วย[1] เวลา 17.48 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงชานหน้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนพัดรอง ที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ผ้าไตรและย่ามที่ระลึก ฯ แด่บรรพชิตจีนและญวน และทรงรับการถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ของบรรพชิตจีนและญวน จากนั้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงวางกระทงดอกไม้บนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย แล้วทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 แด่พระราชาคณะ 5 รูป ที่จะเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนพระมหามงคล 1 คู่ ที่ธรรมาสน์ศิลา เทียนเท่าพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย จากนั้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่บูชาพระรัตนตรัย สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระรัตนตรัย ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ และทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดานพเคราะห์บนแท่นพระทวารกลาง โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปเทวดานพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ แล้วทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปเทวดานพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ จากนั้น ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนพัดรองที่ระลึก ฯ แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพโรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระราชาคณะ เสร็จแล้ว ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 แด่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ 91 รูป ทรงศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จบแล้ว พระสงฆ์ 91 รูปเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบททำน้ำพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่ฝาพระครอบพระกริ่งอุบาเก็ง ทรงประเคนพระครอบพระกริ่งอุบาเก็งแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพโรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่เครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ[2] วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พุทธศักราช 2565เวลา 10.10 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 ณ หอพระสุราลัยพิมาน หอพระธาตุมณเฑียร พระที่นั่งไพศาลทักษิณ และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง เสด็จขึ้นหอพระสุราลัยพิมาน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระพุทธรูปสำคัญ พระบรมสารีริกธาตุ ทรงกราบ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระราชทานเงินแก่ข้าราชบริพารผู้ทำหน้าที่โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอพระธาตุมณเฑียร พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระอัฐิพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ พระอัฐิพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ พระอัฐิหม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร และอัฐิหม่อมหลวงบัว กิติยากร ทรงกราบ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระวิมานพระสยามเทวาธิราช พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระสยามเทวาธิราช ทรงกราบ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชาพระพุทธรูปเทวรูปเทวดานพเคราะห์ ต่อจากนั้น ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ ทรงกราบ พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา จำนวน 91 รูป และพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ จำนวน 5 รูป เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565 รวมจำนวน 96 รูป ถวายพรพระ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพโรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระราชาคณะ นอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระราชวงศ์ องคมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประเคนจนครบ 96 รูป เสร็จแล้ว พระมงคลสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ขึ้นนั่งยังธรรมาสน์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์ พระราชทานเจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปปักที่จงกลธรรมาสน์ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระมงคลสุทธิวงศ์ ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง สังคหวัตถุกถา จบแล้ว สมเด็จพระราชาคณะ นำถวายพระพรคาถาพิเศษ เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แด่พระมงคลสุทธิวงศ์ และทรงประเคนผ้าไตร ย่ามที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พร้อมจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพโรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระราชาคณะ ต่อจากนั้น ทรงประเคนผ้าไตร ย่ามที่ระลึก ฯ และจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ 96 รูป ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่เครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทนวินิจฉัย ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ[3] รัฐพิธีรัฐบาลไทยได้เตรียมการจัดรัฐพิธี เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสำหรับภาคประชาชน รัฐบาลไทยได้กำหนดขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ตลอดปี พ.ศ. 2565 โดยมีกิจกรรมสำคัญ เช่น
ตราสัญลักษณ์ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีฯ ออกแบบโดย นายเกียรติศักดิ์ สุวรรณพงศ์ จิตรกรชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มจิตรกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ประกอบด้วยอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. อยู่ภายในกรอบรูปหัวใจพื้นสีฟ้า อักษร "ส" สีฟ้าเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ อักษร "ก" สีขาว เป็นสีเดชของวันพระราชสมภพ อักษรทั้งสองอยู่ในกรอบมาลัยเกลียวร้อยดอกมะลิเป็นรูปหัวใจ สื่อถึงการร้อยเรียงดวงใจอย่างแน่นแฟ้นกลมเกลียว ถวายพระผู้ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจพสกนิกรไทยทั้งชาติ และผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐต่อลูก คือ ชาวไทยทุกหมู่เหล่าให้พ้นทุกข์ยาก พื้นกรอบเป็นสีชมพู ซึ่งเป็นสีแห่งศรีของวันพระราชสมภพ การให้สีดูละมุนละไม สื่อความเป็นผู้หญิงและพระเมตตา ส่วนด้านบนของตราเป็นพระมหามงกุฎภายในประดิษฐานพระแสงจักรและพระแสงตรี สื่อถึงราชวงศ์จักรี ขนาบด้วยพระสัปตปฎลเศวตฉัตร ซึ่งเป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง รูปลายหงส์ประคองฉัตร หมายถึง พระสิริโฉมสง่างามสูงค่าดังหงส์ ลวดลายไทย สื่อให้เห็นพระปรีชาด้านศิลปวัฒนธรรม พระราชทานกำเนิดศิลปาชีพ และทรงส่งเสริมเอกลักษณ์ชาติไทยให้แพร่หลายในไทยและต่างประเทศ เลขไทย ๙๐ ภายใต้มาลัยหัวใจ สื่อถึงเลขมงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา[8] สิ่งที่ระลึกสถานที่
เหรียญและเข็ม
ดูเพิ่มอ้างอิง
|