Share to:

 

มิกิโอะ อาโอกิ

มิกิโอะ อาโอกิ
青木 幹雄
ภาพถ่ายทางการ ค.ศ. 2000
รักษาการนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
ดำรงตำแหน่ง
3 เมษายน ค.ศ. 2000 – 5 เมษายน ค.ศ. 2000
กษัตริย์สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ
ก่อนหน้าเคโซ โอบูจิ
ถัดไปโยชิโร โมริ
ดำรงตำแหน่ง
5 ตุลาคม ค.ศ. 1999 – 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2000
นายกรัฐมนตรี
  • เคโซ โอบูจิ
  • โยชิโร โมริ
ก่อนหน้าฮิโรมุ โนนากะ
ถัดไปฮิเดนาโอะ นากางาวะ
สมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่น
ดำรงตำแหน่ง
8 กรกฎาคม ค.ศ. 1986 – 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2010
ก่อนหน้าฮิซาโอกิ คาเมอิ
ถัดไปคาซูฮิโกะ อาโอกิ
เขตเลือกตั้งจังหวัดชิมาเนะ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด8 มิถุนายน ค.ศ. 1934(1934-06-08)
ไทชะ จังหวัดชิมาเนะ จักรวรรดิญี่ปุ่น
เสียชีวิต11 มิถุนายน ค.ศ. 2023(2023-06-11) (89 ปี)
คาวาซากิ จังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น
พรรคการเมืองเสรีประชาธิปไตย
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวาเซดะ (ไม่จบ)

มิกิโอะ อาโอกิ (ญี่ปุ่น: 青木 幹雄, เฮปเบิร์น: Aoki Mikio; 8 มิถุนายน ค.ศ. 1934 – 11 มิถุนายน ค.ศ. 2023) เป็นนักการเมืองชาวญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีใน ค.ศ. 1999 ถึง 2000 และเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชั่วครู่หลังเคโซ โอบูจิเป็นโคม่า เขาเป็นทั้งสมาชิกและหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ในวุฒิสภาญี่ปุ่น

ชีวิตช่วงต้นและอาชีพ

มิกิโอะ อาโอกิเกิดในวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 1934 ที่ไทชะ จังหวัดชิมาเนะจากครอบครัวชาวประมงที่มั่งคั่ง หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาไทชะ จังหวัดชิมาเนะ อาโอกิก็เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ[1] เขาเข้าร่วม Oratorical Society และเป็นเลขานุการของสมาคม เขาเป็นเพื่อนกับโยชิโร โมริที่อยู่ในสมาคมนี้ด้วย[2][3]

สมาชิกนิติบัญญัติ

รักษาการนายกรัฐมนตรี

โอบูจิเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกในเดือนเมษายน ค.ศ. 2000 และเข้าสู่ภาวะโคม่า[4] อาโอกิจึงดำรงตำแหน่งรักษาการนายหรัฐมนตรี เมื่อเป็นที่กระจ่างแล้วว่าโอบูจิจะไม่ฟื้นขึ้นมา อาโอกิจึงได้พบกับผู้ปฏิบัติงานหลักของพรรคแอลดีพีในเวลานั้น ได้แก่: โยชิโร โมริ, ฮิโรมุ โนนากะ, ชิซูกะ คาเมอิ และมาซากูนิ มูรากามิ[5] ทั้งห้าคนต้องการให้แน่ใจว่าการสืบทอดตำแหน่งดำเนินไปอย่างรวดเร็ว จึงตกลงที่จะแต่งตั้งโมริเป็นประธานพรรคแอลดีพีคนต่อไป การตัดสินใจนี้ได้รับการรับรองในการประชุมใหญ่ของพรรค และโมริได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2000[5][6]

เดิมทีโมริยังคงดำรงตำแหน่งคณะรัฐมนตรีของโอบูจิทั้งคณะ รวมถึงอาโอกิด้วย แต่หลังปรับคณะรัฐมนตรีในเดือนธันวาคม เขาก็กลับมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคแอลดีพีในวุฒิสภาอีกครั้ง ทาเกชิตะเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2000[7]

เกษียณ

แม้ว่าในช่วงเวลาเกษียณ เขาก็ยังมีอิทธิพลอยู่ โดยเฉพาะในสภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภา และเฮเซเค็นกีวไก ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคฯ ใน ค.ศ. 2018 เขารับรองชิเงรุ อิชิบะต่อชินโซ อาเบะที่ยังดำรงตำแหน่ง และขอให้ฝ่ายเก่าของเขาทำแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตาม โทชิมิตสึ โมเตงิและคัตสึโนบุ คาโตได้รวบรวมสมาชิกกลุ่มเพื่อสนับสนุนอาเบะ ซึ่งประสบความสำเร็จ[8]

หลังฟูมิโอะ คิชิดะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี อาโอกิเคยรับประทานอาหารค่ำกับเขาหลายครั้งพร้อมกับอดีตนายกรัฐมนตรีโยชิโร โมริ รายงานระบุว่าพวกเขาปรึกษาหารือในเรื่องเกี่ยวกับบุคลากร[9]

อาโอกิเสียชีวิตหลังวันเกิดครบรอบ 89 ปีเพียงสามวันในวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2023[10]

อ้างอิง

  1. "Notable Alumni from Waseda University". School Lynk. สืบค้นเมื่อ 13 June 2023.
  2. "青木 幹雄". Kantei. Cabinet Public Affairs Office, Cabinet Secretariat. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 September 2021. สืบค้นเมื่อ 29 April 2023.
  3. Kobayashi, Kichiya (28 August 2015). "達人政治家の処世の極意 第十四回「青木幹雄」" (ภาษาญี่ปุ่น). Shukan Jitsuwa. สืบค้นเมื่อ 6 May 2023.
  4. Sims, Calvin (15 May 2000). "Keizo Obuchi, Premier Who Brought Stability as Japan's Economy Faltered, Dies at 62". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 19 November 2016.
  5. 5.0 5.1 Pekkanen, Robert (2 October 2018). Critical Readings on the Liberal Democratic Party in Japan: Volume 2. Brill Publishers. p. 756. ISBN 978-9004380530.
  6. French, Howard W. (4 April 2000). "With Japan's Premier in a Coma, Succession Moves Get Under Way". New York Times. สืบค้นเมื่อ 22 February 2010.
  7. Matthew Carlson, in Gaunder, Alisa (2011). Routledge Handbook of Japanese Politics. Taylor & Francis. pp. 75–77. ISBN 9781136818387.
  8. "参院竹下派、石破茂元幹事長を支持へ 吉田博美参院幹事長に対応一任" (ภาษาญี่ปุ่น). Sankei Shimbun. 31 July 2018. สืบค้นเมื่อ 6 May 2023.
  9. "首相が森、青木氏と会食 政権運営巡り意見交換か" (ภาษาญี่ปุ่น). Sankei Shimbun. 21 November 2022. สืบค้นเมื่อ 6 May 2023.
  10. "Mikio Aoki, Former Chief Cabinet Secretary, Dies at 89". Yomiuri Shimbun. 12 June 2023. สืบค้นเมื่อ 12 June 2023.
Kembali kehalaman sebelumnya