Share to:

 

ยามางาตะ อาริโตโมะ

ยามางาตะ อาริโตโมะ
山縣 有朋
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนที่ 3
ดำรงตำแหน่ง
8 พฤศจิกายน 1898 – 19 ตุลาคม 1900
กษัตริย์จักรพรรดิเมจิ
ก่อนหน้าโอกูมะ ชิเงโนบุ
ถัดไปอิโต ฮิโรบูมิ
ดำรงตำแหน่ง
24 ธันวาคม 1889 – 6 พฤษภาคม 1891
กษัตริย์จักรพรรดิเมจิ
ก่อนหน้าคูโรดะ คิโยตากะ
ถัดไปมัตสึกาตะ มาซาโยชิ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด14 มิถุนายน ค.ศ. 1838
ฮางิ ญี่ปุ่น
เสียชีวิต1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1922 (83 ปี)
โอดาวาระ จักรวรรดิญี่ปุ่น
รางวัลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ว่าวทองคำ (ชั้น 1)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัย (สายสะพาย)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดอกเบญจมาศ
ลายมือชื่อ
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ญี่ปุ่น
สังกัด กองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น
ประจำการ1868–1905
ยศ จอมพล
ผ่านศึกสงครามโบชิง
กบฏซัตสึมะ
สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 1
สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น
ยามางาตะ อาริโตโมะ
ชื่อภาษาญี่ปุ่น
คันจิ山縣 有朋
ฮิรางานะやまがた ありとも
คาตากานะヤマガタ アリトモ
การถอดเสียง
โรมาจิYamagata Aritomo

จอมพล ดยุก ยามางาตะ อาริโตโมะ (ญี่ปุ่น: 山縣 有朋โรมาจิYamagata Aritomo) หรือ ยามางาตะ เคียวซูเกะ เป็นจอมพลแห่งกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายกรัฐมนตรีสองสมัย และประธานคณะองคมนตรีในสมเด็จพระจักรพรรดิ เขาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่วางรากฐานด้านการทหารและการเมืองในช่วงต้นของญี่ปุ่นยุคใหม่ และเขาได้รับสมญาว่า เป็นบิดาแห่งการทหารญี่ปุ่น

ประวัติ

ในยุคที่ตระกูลโทกูงาวะ ยังคงกุมอำนาจทหารส่วนใหญ่ของประเทศ ยามางาตะ เกิดในตระกูลซามูไรระดับล่าง ในเมืองฮางิ ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้นโชชู (ปัจจุบันคือจังหวัดยามางูจิ) เขาเข้าศึกษาที่โรงเรียนเอกชน โชกาซนจูกุ ซึ่งที่นี่ เขาเป็นแนวร่วมใต้ดินในการต่อต้านอำนาจของรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ เขาได้เป็นหัวหน้าของขบวนการ คิเฮไต ซึ่งเป็นกองกำลังขนาดเล็กๆ ต่อมาในช่วงสงครามโบชิง ปี 1867-1868 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปเมจิ เขาจึงได้รับการบรรจุเป็นทหารโดยอยู่ฝ่ายองค์จักรพรรดิ

หลังจากที่ฝ่ายพระจักรพรรดิสามารถโค่นล้มอำนาจของตระกูลโทกูงาวะ ยามางาตะและ ไซโง สึงูมิชิ ได้รับเลือกเป็นตัวแทนรัฐบาลพระจักรพรรดิไปเยือนยุโรป ในปี 1869 เพื่อศึกษาระบบการทหารในยุโรป เช่นเดียวกับคนญี่ปุ่นคนอื่นๆ ยามางาตะสนใจมีความสนใจต่อความสำเร็จของปรัสเซีย (เยอรมนี) ในการเปลี่ยนตนเองจากรัฐเกษตรกรรมเป็นรัฐอุตสาหกรรมและการทหารชั้นนำของโลกเป็นอย่างมาก ตัวเขาเองยังรับเอาแนวคิดทางการเมืองแบบปรัสเซียแบบจักรวรรดินิยมเข้ามาด้วย เป็นแนวคิดที่ว่าประเทศควรขยายกำลังทหารไปยังต่างแดนโดยมีรัฐบาลอำนาจนิยมอยู่ที่แผ่นดินแม่ ดังนั้นแล้ว เมื่อเขากลับมายังญี่ปุ่น เขาจึงเรียกร้องให้มีการจัดตั้งระบบเหล่าทัพของญี่ปุ่นขึ้นมา ซึ่งทำให้ในปี 1873 เขาได้รับแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสงคราม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดตั้ง กองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น


Kembali kehalaman sebelumnya