ยุทธการที่ตังหิน
ยุทธการที่ตังหิน (จีน: 東興之戰) หรือ ยุทธการที่ตงกวาน (จีน: 東關之役) เป็นการรบตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ค.ศ. 253 ระหว่างรัฐวุยก๊กและง่อก๊กในยุคสามก๊กของจีน ยุทธการสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะทางยุทธวิธีของง่อก๊ก ภูมิหลังในช่วงต้นปี ค.ศ. 211 ซุนกวนขุนศึกซึ่งภายหลังเป็นจักรพรรดิผู้ก่อตั้งรัฐง่อก๊ก ได้สั่งให้สร้างป้อมปราการป้องกันที่ยี่สู (濡須 หรูซฺวี; ทางเหนือของอำเภออู๋เหวย์ มณฑลอานฮุยในปัจจุบัน) เพื่อเตรียมการป้องกันการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นจากโจโฉที่เป็นขุนศึกอริ[3] ในปี ค.ศ. 230 จักรพรรดิซุนกวนทรงมีรับสั่งให้สร้างเขื่อนที่ตังหิน (東興 ตงซิง; ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครเฉาหู มณฑลอานฮุยในปัจจุบัน) เพื่อกักเก็บน้ำจากทะเลสาบเจาอ๋อ (巢湖 เฉาหู) ที่อยู่ใกล้เคียง[4] ซุนกวนสวรรคตในปี ค.ศ. 252 ซุนเหลียงพระโอรสขึ้นสืบราชบัลลังก์เป็นจักรพรรดิแห่งง่อก๊ก ในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม ค.ศ. 252 จูกัดเก๊กผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งง่อก๊กเริ่มงานก่อสร้างที่เขื่อนตังหิน โดยเพิ่มความยาวของเขื่อนจนเชื่อมกับเนินเขาที่อยู่ด้านหนึ่งของเขื่อน และให้สร้างป้อมปราการ 2 แห่งขึ้นตรงกลาง จูกัดเก๊กวางกำลังทหารประการ 1,000 นายในแต่ละป้อมปราการ และมอบหมายให้จวนตวน (全端 เฉฺวียน ตฺวาน) และเล่าเลียก (留略 หลิว เลฺว่) รักษาป้อมปราการทั้งสองแห่ง ส่วนตัวจูกัดเก๊กเองนำทหารที่เหลือกลับไป[5][6] โหมโรงวุยก๊กรู้สึกว่าถูกง่อก๊กลูบคมเมื่อง่อก๊กเริ่มรุกล้ำอาณาเขตของวุยก๊กโดยการก่อสร้างเขื่อนที่ตังหิน จูกัดเอี๋ยนขุนพลวุยก๊กเสนอแผนโต้ตอบง่อก๊กให้กับสุมาสูผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของวุยก๊ก สุมาสูยอมรับแผนของจูกัดเอี๋ยน[7] ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 252 หรือมกราคม ค.ศ. 253 ราชสำนักวุยก๊กมอบหมายให้อองซอง, บู๊ขิวเขียม, จูกัดเอี๋ยน และอ้าวจุ๋นเข้าโจมตีง่อก๊กจาก 3 ทิศทาง โดยอองซองจะเข้าโจมตีกังเหลง (江陵 เจียงหลิง) บู๊ขิวเขียมจะเข้าโจมตีบู๊เฉียง (武昌 อู่ชาง; ปัจจุบันคือนครเอ้อโจว มณฑลหูเป่ย์)[8] จูกัดเอี๋ยนและอ้าวจุ๋นจะนำกองกำลัง 70,000 นายไปยังตังหินเพื่อโจมตีป้อมปราการ 2 แห่งและทำลายเขื่อน[1][9] เมื่อข่าวการโจมตีของวุยก๊กมาถึงง่อก๊ก จูกัดเก๊กจึงนำกองกำลัง 40,000 นาย[2] ไปต้านข้าศึก[9] อ้าวจุ๋นสั่งให้ทหารสร้างสะพานลอยน้ำเพื่อไปยังเขื่อน แล้วแบ่งกองกำลังออกเป็น 2 กลุ่มย้อยเพื่อโจมตีป้อมปราการ 2 แห่ง แต่ป้อมปราการทั้งสองตั้งอยู่บนที่สูงและเข้าถึงยาก[10] เหล่าขุนพลง่อก๊กพูดว่า "เมื่อข้าศึกรู้ว่าท่านราชครู (จูกัดเก๊ก) มาที่นี่ด้วยตนเอง พวกเขาจะล่าถอยอย่างแน่นอนเมื่อเราไปถึงฝั่ง"[11] อย่างไรก็ตาม มีเพียงเตงฮองที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปโดยกล่าวว่า "ไม่ พวกเขาเคลื่อนไหวเอิกเกริกในอาณาเขตตน เตรียมการระดมพลใหญ่หลวงจากฮูโต๋และลกเอี๋ยง มีเหตุผลใดที่พวกเขาจะกลับไปมือเปล่าเล่า อย่าคิดว่าข้าศึกจะไม่ยกมา เราควรเตรียมพร้อมทำศึก"[12] เมื่อจูกัดเก๊กไปถึงตังหิน ได้มอบหมายให้เตงฮอง, เล่าเบา, ลิกี๋ และต๋องจูบัญชาการกองหน้า[13] และเคลื่อนกองกำลังไปทางตะวันตกตามภูมิประเทศที่เป็นภูเขา[14] เตงฮองเตือนว่า "เราเคลื่อนที่ช้าเกินไป หากข้าศึกยึดพื้นที่ที่เอื้ออำนวย ก็ยากจะจัดการพวกเขา" จากนั้นเตงฮองจึงนำทหาร 3,000 นายไปกับตน เดินผ่านเส้นทางที่แตกต่างจากกองกำลังหลักของทัพง่อก๊ก[15] ยุทธการเวลานั้นมีลมเหนือพัดหนัก เตงฮองและทหาร 3,000 นายมาถึงแนวหน้าภายใน 2 วันและเข้ายึดคันดินสฺวี (徐塘 สฺวีถาง) ในช่วงนั้นเป็นฤดูหนาวและมีหิมะตก เหล่านายทหารฝ่ายวุยก๊กไม่ได้ระแวดระวังแล้วรวมกลุ่มกันดื่มสุรา ดังนั้นแม้กำลังทหารของเตงฮองจะด้อยกว่า แต่เตงฮองก็ปลุกใจเหล่าทหารว่า "วันนี้เป็นวันที่เราจะได้รับตำแหน่งและบำเหน็จความชอบ!" จากนั้นจึงสั่งให้ทหารถอดเสื้อเกราะและหมวกเกราะ ทิ้งจี่และหอก ให้ถือเพียงโล่และอาวุธสั้นอย่างดาบ[16][17] เหล่าทหารวุยก๊กต่างหัวเราะเยาะที่เห็นการกระทำของทหารฝ่ายง่อก๊กเช่นนี้ และไม่เตรียมตัวพร้อมรบ เตงฮองและทหารเข้าต่อสู้อย่างกล้าหาญและทำลายค่ายของข้าศึกด้านหน้า ทันใดนั้นกองกำลังอื่น ๆ ของง่อก๊กนำโดยลิกี๋และคนอื่น ๆ ก็มาถึงและเข้าร่วมกับเตงฮองในการโจมตีค่ายข้าศึก[18] ทัพวุยก๊กตกตะลึงต่อการโจมตีดุดันกะทันหันของฝ่ายง่อก๊กจึงตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน ทหารวุยก๊กหลายคนแย่งกันข้ามสะพานลอยน้ำแต่ก็สะพานก็หักพังลงไป ทหารวุยก๊กตกลงไปในน้ำและเริ่มตะเกียกตะกายเหยียบกันเองเพื่อจะหาทางขึ้นฝั่ง[19] หวนแกเจ้าเมืองเล่ออาน (樂安) ถูกสังหารในที่รบ[20][21] ฮั่นจ๋งขุนพลง่อก๊กที่แปรพักตร์ไปเข้าด้วยวุยก๊กและนำกองหน้าวุยก๊กในยุทธการนี้ก็เสียชีวิตในยุทธการเช่นกัน จูกัดเก๊กตัดศีรษะของศพฮั่นจ๋งและส่งศีรษะไปถวายยังศาลของซุนกวน[22][23] ผลสืบเนื่องเมื่ออองซองและบู๊ขิวเขียมได้ยินความพ่ายแพ้ของฝ่ายวุยก๊กที่ตังหิน ทั้งสองก็เผาค่ายของคนและถอนทัพกลับไปเช่นกัน ย้อนกลับมาที่ราชสำนักวุยก๊ก ขุนนางหลายแย้งว่าแม่ทัพของวุยก๊กควรถูกลดขั้นหรือถูกปลดจากราชการฐานล้มเหลวในการบุก แต่สุมาสูกล่าวว่า "ข้าไม่ฟังกงซิว (公休; ชื่อรองของจูกัดเอี๋ยน) ผลจึงเป็นเช่นนี้ เป็นความผิดของข้าเอง ขุนพลทั้งหลายทำอะไรผิดเล่า" สุมาเจียวน้องชายของสุมาสูซึ่งเป็นผู้บัญชาการในการรบครั้งนี้ถูกถอดบรรดาศักดิ์[24][25] อีกด้านหนึ่ง ทัพง่อก๊กยึดยุทโธปกรณ์และปศุสัตว์จำนวนมากที่ทัพวุยก๊กทิ้งไว้และเดินทัพกลับอย่างมีชัย จูกัดเก๊กได้รับบรรดาศักดิ์หยางตูโหว (陽都侯) และได้รับการแต่งตั้งเป็นเป็นเจ้ามณฑล (牧 มู่) ของมณฑลเกงจิ๋วและยังจิ๋ว ได้ทอง 1,000 ชั่ง (斤 จิน), ม้าชั้นดี 200 ตัว และผ้าไหมและเสื้อผ้าอย่างละ 10,000 ม้วน[26] เตงฮองได้เลื่อนยศเป็นขุนพลกำจัดโจร (滅寇將軍 เมี่ยโค่วเจียงจฺวิน) และได้บรรดาศักดิ์ระดับดูถิงโหว (都亭侯)[27] บุคคลในยุทธการ
ในวัฒนธรรมประชานิยม
อ้างอิง
บรรณานุกรม
|