ยุพ ไฮน์เคิส
โยเซ็ฟ "ยุพ" ไฮน์เคิส (เยอรมัน: Josef "Jupp" Heynckes; เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1945) เป็นอดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ไฮน์เคิสเป็นผู้จัดการทีมคนที่สี่ ที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้ถึงสองสโมสรหลังจากเขาพา สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด เป็นแชมป์ฤดูกาล 1997–98 และสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก ฤดูกาล 2012–13 ประวัติยุพ ไฮน์เคิส เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 ในเมือง เมินเชนกลัดบัค ประเทศเยอรมนี โดยไฮน์เคิสเป็นลูกคนเดียวของ คุณพ่อและคุณแม่ของเขา โดยคุณพ่อมีอาชีพเป็น กัปตันเรือ ในท่าเรือแห่งหนึ่งในเขตย่านเมืองเมินเชนกลัดบัค และคุณแม่ของไฮน์เคิสทำอาชีพเป็นแม่ครัวของโรงแรมมฟริสสตาร์ออลไดรฟ์ ในเมือง เมินเชนกลัดบัค แล้วในปี ค.ศ. 1975 ไฮน์เคิสได้แต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่งในเมืองมิวนิก โดยมีลูกสองคน นักฟุตบอลมืออาชีพไฮน์เคิสเริ่มสนใจฟุตบอลตั้งแต่เด็ก โดยเขาเริ่มเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่วัย 18 ปี ในปี ค.ศ. 1963 ไฮน์เคิสได้ทำสัญญาฉบับแรกของเขากับสโมสรฟุตบอลโบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัคในบุนเดิสลีกา (ปัจจุบัน) โดยเขาได้เล่นในตำแหน่งกองหน้า ซึ่งไฮน์เคิสจะถูกวางไว้หน้าเป้าคนเดียว ไฮน์เคิสมีความคล่องตัวสูงและตัวสูงไม่เกิน 185 ซ.ม. จึงทำให้หลบหลีกนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหลังของทีมอื่นได้อย่างง่ายดาย แล้วในปี ค.ศ. 1967 ฮันโนเฟอร์ 96 ได้ขอยืมตัวไฮน์เคิสไปเล่นเป็นเวลา 3 ปี แล้วในปี ค.ศ. 1970 ไฮน์เคิสได้กับมาอยุ่กับเมินเชนกลัดบัค โดยการกลับมาในรอบนี้ ไฮน์เคิสได้ถูกวางตำแหน่งไว้หน้าเป้าคนเดียวเหมือนเดิม แต่คราวผู้จัดการทีมของเมินเชนกลัดบัคได้ปรับแผนใหม่โดยจะมีปีกซ้ายและปีกขวามาช่วยส่งบอลให้ไฮน์เคิส โดยไฮน์เคิสได้เป็นฮีโรของเมินเชนกลัดบัคหลายรอบ ในช่วง 1971-1977 เมินเชนกลัดบัคได้แชมป์ บุนเดิสลีกา 4 สมัย ยูฟ่าคัพ 3 สมัย และ เดเอ็ฟเบ-โพคาล 1 สมัย โดยเขาได้ลงเล่นให้กับเมินเชนกลัดบัคทั้งหมด 400 นัด ทำประตูไปได้ 292 ประตู ปัจจุบัน ไฮน์เคิสยังเป็นมือ 3 ของนักเตะในเมินเชนกลัดบัคทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรขึ้นมาที่ยิงประตูได้เยอะสุด แล้วในปี ค.ศ. 1978 ไฮน์เคิสในวัย 33 ปี ประกาศตนแขวนสตั๊ดไว้กับเมินเชนกลัดบัค โดยได้ออกมากล่าวก่อนที่จะเลิกเล่นเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพไว้ว่า ชีวิตของผมในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพคงมาหยุดไว้แค่นี้ เนื่องจากผมมีครอบครัวแล้ว ผมต้องดูและลูกและภรรยาและญาติ ๆ ของผม ผมทิ้งครอบครัวแล้วมาเลือกเล่นอาชีพนักฟุตบอลต่อก็คงไม่ได้ เพราะผมที่เป็นพ่อ ยังมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องทำในอนาคตข้างหน้า การติดทีมชาติไฮน์เคิสติดทีมชาติตั้งแต่วัย 22 ปี โดยเขาได้เล่นในฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีในชุดตัวจริง โดยไฮน์เคิสเล่นให้กับทีมชาติเยอรมนีมาทั้งหมด 39 นัด ในปี ค.ศ. 1972 ทีมชาติเยอรมนีคว้าแชมป์ยูโรมาครองได้โดยชนะฟุตบอลทีมชาติสหภาพโซเวียต ไปได้ 3-0 และในปี ค.ศ. 1974 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ทีมชาติเยอรมนีชนะฟุตบอลทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ไปได้ 2-1 โดยได้ไฮน์เคิสไม่ได้ทำประตูแต่มีส่วนช่วยในการส่งบอลให้เพื่อน โดยผลการติดทีมชาติทั้งหมดของไฮน์เคิส ลงเล่นทั้งหมด 66 นัด ทำประตูไปได้ 14 ประตู นัดสุดท้ายที่เขาได้ลงเล่นคือ ในปี ค.ศ. 1976 ที่เยอรมนีอุ่นเครื่องกับยูเครน โดยเยอรมนีชนะไป 4-2 ไฮน์เคิสได้ทำไป 2 ประตู ผู้จัดการทีมฟุตบอลโบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัคแล้วจากที่เขาได้เลิกเล่นฟุตบอลไปแล้วในปี ค.ศ. 1978 1 ปีให้หลังต่อมา ไฮน์เคิสได้กลับมาอยู่ในวงการฟุตบอลอีกครั้ง โดยเขาได้ออกมายืนยันกับทางสโมสรว่า เขากับภรรยาได้ตัดสินใจกันแล้วว่า เขากับภรรยาและลูกของเขาได้ย้ายบ้านมาอยู่ในเมืองเมินเชนกลัดบัค บ้านเก่าของไฮน์เคิส ภรรยาของเขาบอกไว้ว่า จะให้ไฮน์เคิสทำงานในวงการฟุตบอลต่อ เพื่อความสะดวกสบายของครอบครัวและความสุขของสามี แล้วหลังจากนั้นไฮน์เคิสก็ได้มาเป็นผู้จัดการทีมของโบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค โดยในปีแรก ไฮน์เคิสนำเมินเชนกลัดบัคจบอันดับ 5 ได้ไปเล่นยูโรปาลีกได้ แต่ก็ต้องตกรอบในโซนแบ่งกลุ่ม โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 ถึง ปี ค.ศ. 1987 ไฮน์เคิสไม่เคยนำทีมเมินเชนกลัดบัคจบอันดับที่ต่ำกว่าที่ 6 โดยตลอด แล้วในปี ค.ศ. 1987 ไฮน์เคิสได้ขอลาออกแล้วไปคุมสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก บาเยิร์นมิวนิก (ปี 1989-1991)ในปี ค.ศ. 1989 ไฮน์เคิสนำทีมเสือใต้ บาเยิร์นมิวนิก คว้าแชมป์บุนเดิสลีกา 2 สมัย และแชมป์เดเอฟอัลซูเปอร์คัพ 1 สมัย แล้วในปี ค.ศ. 1991 ไฮน์เคิสได้ไปคุมอัตเลติกเดบิลบาโอในลาลิกา ประเทศสเปน ต่อ อัตเลติกเดบิลบาโอในปี ค.ศ. 1992 ไฮน์เคิสได้มาคุมอัตเลติกเดบิลบาโอ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขามาคุทีมในลาลิกา ประเทศสเปน โดยในปีแรกที่เขาเข้ามาคุม ไฮน์เคิสนำอัตเลติกเดบิลบาโอจบในอันดับที่ 6 แล้วในปีทีสองในการคุมทีม ไฮน์เคิสนำอัตเลติกเดบิลบาโอจบในอันดับที่ 5 แล้วได้พาทีมอัตเลติกเดบิลบาโอไปเล่นในยูฟ่าคัพ เป็นครั้งที่ 12 ของสโมสร แต่เขาก็ขอลาออก หลังจากนั้นไปเขาก็ไปคุมไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟูร์ท สโมสรในประเทศบ้านเกิดของตน เรอัลมาดริดในปี ค.ศ. 1997 ไฮน์เคิสได้ถูกเชิญตัวจากสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด มานั่งในตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ โดยไฮน์เคิสเริ่มทำผลงานในการคุมทีมของเขาดีขึ้น โดยนำราชันชุดขาวได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้ในปี ค.ศ. 1997 โดยชนะสโมสรฟุตบอลยูเวนตุสจากประเทศอิตาลี ไปได้ 1-0 และได้แชมป์ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา โดยชนะสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา คู่แข่งประจำประเทศไป 5-3 ชัลเก 04ในปี ค.ศ. 2003 ไฮน์เคิสได้ย้ายมาคุมชัลเก 04 ในบุนเดิสลีกา ประเทศเยอรมนี โดยครั้งนี้ไฮน์เคิสนำทีมชัลเก 04 ได้แชมป์ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ 2 สมัยติดกัน โดยในปี ค.ศ. 2003 ชนะเอสเฟาพาชิงจากประเทศออสเตรีย ไปได้ 2-0 และในปี ค.ศ. 2004 ชนะสโลวาน ลิเบอร์เรซ จากสาธารณรัฐเช็ก ไปได้ 3-1 บาเยิร์นมิวนิก (ปี 2011-2013)ไฮน์เคิสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมบาเยิร์นมิวนิกอีกครั้ง โดยในฤดูกาล 2011-12 บาเยิร์นมิวนิกปิดฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์ใน 3 รายการใหญ่ ได้แก่ จบอันดับ 2 ในบุนเดสลีกา และแพ้ในนัดชิงของเดเอ็ฟเบ-โพคาล ทั้งสองรายการต่อโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ ของ เยือร์เกิน คล็อพ และยังแพ้ในนัดชิงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอย่างน่าผิดหวังต่อเชลซีอีกด้วย[1] โดยในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2012 ไฮน์เคิสได้ทำสถิติคุมทีมในบุนเดสลีกาครบ 600 นัด ในฤดูกาลถัดไปบาเยิร์นมิวนิกจบฤดูกาลด้วยการชนะเลิศทั้งสามแชมป์ใหญ่[2] โดยได้อันดับ 1 ในบุนเดสลีกาพร้อมสร้างสถิติมากมายเช่น ได้แต้มมากที่สุด แต้มทิ้งห่างอันดับ 2 มากที่สุด และได้รับการการันตีแชมป์เร็วที่สุด รวมถึงยังแพ้ในลีกเพียง 1 นัด ในเวทียุโรปบาเยิร์นมิวนิกเอาชนะ บาร์เซโลน่าในรอบรองชนะเลิศและชนะโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 2-1 ในนัดชิงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รวมถึงชนะเลิศรายการบอลถ้วยเดเอ็ฟเบ-โพคาล ตำนานสโมสร ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ ได้ยกย่องบาเยิร์นมิวนิกในฤดูกาล 2012-13 ว่าเป็น "ทีมบาเยิร์นที่ดีที่สุด" ไฮน์เคิสได้ประกาศว่าตนจะไม่คุมทีมต่อไปในฤดูกาล 2013-2014 และสโมสรได้แต่งตั้งแป็ป กวาร์ดิออลา มาทำหน้าที่แทน เกียรติประวัตินักฟุตบอลระดับสโมสร
ระดับทีมชาติ
ผู้จัดการทีมบาเยิร์นมิวนิก
เรอัลมาดริด
ชาลาเก 04
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ ยุพ ไฮน์เคิส
|