รัฐเซาท์แคโรไลนา
เซาท์แคโรไลนา (อังกฤษ: South Carolina, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈsaʊθ ˌkær əˈlaɪ nə/) เป็นรัฐของสหรัฐ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ติดต่อกับมหาสมุทรแอตแลนติก ชื่อของรัฐตั้งตั้งตามชื่อของ พระเจ้าชาลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ โดยคำว่า กาโรลุส (Carolus) เป็นภาษาละตินของคำว่า ชาลส์ (Charles) ประชากรในรัฐมี 4,198,068 (ข้อมูล พ.ศ. 2547) เมืองหลวงของรัฐชื่อโคลัมเบีย และเมืองสำคัญอื่นคือชาร์ลสตัน ลักษณะภูมิประเทศบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก มีลักษณะเป็นแอ่งต่ำของรัฐ เป็นที่ราบชายฝั่ง ประกอบไปด้วยตะกอนต่าง ๆ ที่มีการผสมกันระหว่างดินและทราย เป็นทางยาว พื้นที่นี้เหมะแก่การเพาะปลูกและทำการเกษตรกรรมต่าง ๆ ถึงแม้ว่าบางส่วนอาจจะมีลักษณะเป็นหนองน้ำ บริเวณนี้ยังมีบึงน้ำเค็มและปากแม่น้ำที่เหมาะแก่การสร้างท่าเรือที่เมืองยอร์ชทาวน์และชาร์ลสตันทางตะวันตกของที่ราบชายฝั่งเป็นบริเวณที่เรียกว่า แซนด์ฮิลล์ บริเวณนี้เป็นส่วนที่เหลือของ ชายฝั่งในอดีตที่เป็นภูเขาทรายเมื่อตอนแผ่นดินได้จมลงไปหรือระดับน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้น บริเวณที่อยู่ตีนเขาซึ่งเป็นส่วนที่เหลือมาจากการกัดกร่อนของภูเขา มันเต็มไปด้วยเนินเขา และก้อนหิน ทำให้มีพื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั่นที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูก ปัจจุบันนี้จึงได้มีการปลูกป่าแทน ทางส่วนตะวันออกเฉียงใต้ของตีนเขาเป็นส่วนที่เรียกว่า Fall line ซึ่งเป็นจุดบรรจบของตีนเขาและพื้นที่ราบ และณ บริเวณนี้ ยังเป็นจุดที่แม่น้ำได้ไหลไปยังบริเวณพื้นที่ราบ ทำให้บริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีการนำพลังงานน้ำมาใช้เพื่อเป็นการผลิตพลังงานไฟฟ้าให้กับเมืองต่าง ๆ เช่น เมืองหลวงของรัฐโคลัมเบีย บริเวณส่วนเหนือของรัฐเป็นจุดที่สูงที่สุดของรัฐ ประกอบด้วยสันเขาของเทือกเขาบลูริดจ์ ซึ่งมีบางส่วนอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา และรัฐจอร์เจีย ภูเขานี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอปพาเลเชียน ซึ่งจุดสูงสุดของรัฐ มีความสูง 1085 เมตร และในบริเวณนี้มีแม่น้ำแชตทูกา ซึ่งเป็นเขตแดนธรรมชาติระหว่างรัฐเซาท์แคโรไลนา กับรัฐนอร์ทแคโรไลนา และรัฐจอร์เจีย รัฐเซาท์แคโรไลนา เป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวบ่อยครั้งซึ่งเกิดขึ้นบ่อยที่สุดในบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 1886 ที่เมืองชาลส์ตัน มีขนาดประมาณ 7.2 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 60 คน และสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ของเมืองถูกทำลาย ลักษณะภูมิอากาศรัฐเซาท์แคโรไลนามีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น แต่เขตทางตอนเหนือของรัฐจะมีลักษณะอากาศแบบนี้น้อยกว่าส่วนที่อยู่ติดชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกในช่วงหน้าร้อนแถบชายฝั่งของเซาท์แคโรไลนาจะมีอากาศที่ร้อนและชื้นในเวลากลางวัน มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30-33 °C ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐ และจะมีอากาศที่เย็นลงในตอนกลางคืนซึ่งอุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 21 °C รัฐเซาท์แคโรไลนาเป็นรัฐที่มีหิมะตกแต่ไม่มากนัก โดยหิมะที่ตกโดยเฉลี่ยจะมีความสูงประมาณ 1 นิ้ว ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่มีพื้นที่ใดในรัฐนี้ที่มีหิมะตกเกิน 6 นิ้ว หรือโดยประมาณ 15 เซนติเมตร รัฐเซาท์แคโรไลนาเป็นรัฐที่อยู่ในเขตพายุไต้ฝุ่น ซึ่งจะประสบกับฤดูมรสุมในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนถึง พฤศจิกายน โดยจะมีช่วงที่พายุเข้ามาหนักที่สุดในตอนปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนตุลาคม เฉลี่ยแล้วจะมีวันประมาณ 50 วัน ที่รัฐจะอยู่ภายใต้พายุฝน ประวัติศาสตร์รัฐเซาท์แคโรไลนาแต่เดิมเคยมีชาวอินเดียนเผ่ายามาชีอาศัยอยู่ขณะที่สเปนและฝรั่งเศสต่างล้มเหลวในการตั้งถิ่นฐานเมื่อปี 1526 และ 1562 ตามลำดับ ต่อมาในปี 1663 พระเจ้าชาลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ ได้พระราชทานกรรมสิทธิ์แก่ราชบริพารใกล้ชิด 8 คนแล้วนักล่าอาณานิคมอังกฤษก็มาถึงในปี 1670 และแบ่งอาณานิคมออกเป็นแคโรไลนาเหนือและใต้ในปี 1713 ความจำเป็นของแรงงานทาสในการทำไร่ฝ้ายและยาสูบ ทำให้เซาท์แคโรไลนาทำสงครามกับรัฐที่ต้องการเลิกล้มระบบทาส ทำให้แคโรไลนาเป็นรัฐแรกที่ประกาศแยกตัวออกมาจากสหพันธรัฐ ในปี 1860 นำไปสู่สงครามกลางเมืองอเมริกา ณ ป้อมฟอร์ตซัมเทอร์บนท่าเรือชาลส์ตัน ตลอดช่วง 10 ปีหลังสงคราม เซาท์แคโรไลนาปกครองโดยนักการเมืองจากรัฐทางเหนือที่ได้รับคะแนนเสียงจากคนผิวดำ รัฐนี้กลับมาอยู่ในสหพันธรัฐอีกครั้งในปี 1868 เศรษฐกิจการค้าของรัฐเซาท์แคโรไลนาในปี 2004 สำนักงานวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจของอเมริกา ได้ทำการสรุปมาว่า รัฐเซาท์แคโรไลนามีรายได้รวมทั้งหมดประมาณ 136 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นประมาณร้อยละ 81 ของรายได้เฉลี่ย สินค้าส่งออกหลักของรัฐเซาท์แคโรไลนาในภาคเกษตรกรรม คือ ยาสูบ สัตว์ปีก เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากการทำฟาร์ม ถั่วเหลือง หมู ส่วนสินค้าส่งออกในภาคอุตสาหกรรมคือ สิ่งทอชั้นดี ผลิตภัณฑ์เคมี ผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องจักรทางอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|