Share to:

 

หม่อมเจ้าสุมนมาลย์ จิรประวัติ

หม่อมเจ้าสุมนมาลย์ จิรประวัติ
หม่อมเจ้า ชั้น 4
ประสูติ14 เมษายน พ.ศ. 2431
สิ้นชีพตักษัย21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2483 (51 ปี)
พระสวามีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช (2447—2457)
พระบุตรหม่อมเจ้านิทัศนาธร จิรประวัติ
หม่อมเจ้าขจรจิรพันธ์ จิรประวัติ
ราชวงศ์จักรี
พระบิดาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
พระมารดาหม่อมเอม โสณกุล ณ อยุธยา

หม่อมเจ้าสุมนมาลย์ จิรประวัติ (14 เมษายน พ.ศ. 2431 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2483) เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา ประสูติแต่หม่อมเอม โสณกุล ณ อยุธยา

พระประวัติ

หม่อมเจ้าสุมนมาลย์ มีพระนามลำลองว่า ท่านหญิงกลางเป็นพระธิดาองค์รองในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา ประสูติแต่หม่อมเอม โสณกุล ณ อยุธยา (สกุลเดิม กุณฑลจินดา; ธิดาหลวงวรศักดาพิศาล (ตาล กุณฑลจินดา)) เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2431 มีเจ้าพี่เจ้าน้องรวม 12 องค์

หลังจากที่หม่อมเจ้าประวาศสวัสดี เชษฐภคินีของหม่อมเจ้าสุมนมาลย์ ซึ่งเป็นชายาองค์แรกในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ได้สิ้นชีพตักษัยลง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดชจึงเสกสมรสใหม่กับหม่อมเจ้าสุมนมาลย์ เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2447 มีพระโอรสด้วยกัน 2 องค์ คือ

หม่อมเจ้าสุมนมาลย์เสด็จไปประทับที่เกาะกูดเพื่อทำสวน และประชวรพระโรคมะเร็งที่พระถัน หม่อมเจ้านิทัศนาธร ผู้เป็นโอรสจึงส่งแพทย์ออกไปตรวจ ได้รับคำแนะนำให้เสด็จกลับมาทรงรักษาที่กรุงเทพฯ หม่อมเจ้านิทัศนาธรจึงเสด็จไปรับพระมารดากลับมาทางเรือ ขณะเสด็จกลับกรุงเทพฯ หม่อมเจ้าสุมนมาลย์ทรงกระโดดน้ำและสิ้นชีพตักษัย โดยทรงเขียนจดหมายมีข้อความว่าทรงอยู่ไปก็ลำบาก[2]

หม่อมเจ้าสุมนมาลย์สิ้นชีพตักษัยเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2482 (แบบปัจจุบันคือ พ.ศ. 2483) สิริชันษา 51 ปี

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. กิติวัฒนา (ไชยันต์) ปกมนตรี, หม่อมราชวงศ์. สายพระโลหิตในพระพุทธเจ้าหลวง. กรุงเทพฯ : ดีเอ็มดี, พ.ศ. 2551. 290 หน้า. ISBN 978-974-312-022-0
  2. https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:185503 หน้า 156 และ 159
  3. พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญ เก็บถาวร 2017-02-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เล่ม 44 หน้า 2576 วันที่ 20 พฤศจิกายน 2470
  4. "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบันฝ่ายใน (หน้า ๑๑๕๔)" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-20. สืบค้นเมื่อ 2020-12-01.
Kembali kehalaman sebelumnya