อ็องเรียต มารีแห่งฝรั่งเศส
อ็องเรียต มารีแห่งฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: Henriette Marie de France; 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1609 — 10 กันยายน ค.ศ. 1669) เป็นพระราชินีแห่งอังกฤษ พระราชินีอ็องเรียต มารีพระราชสมภพเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1609 ที่พระราชวังลูฟวร์ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าอ็องรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส และพระนางมารีอา เด เมดีชี[1] ต่อมาเป็นพระราชินีในพระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1625 ถึงวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1649 พระราชินีอ็องเรียต มารีสวรรคตเมื่อ 10 กันยายน ค.ศ. 1669 ที่วังแห่งโคลอมบ์ ฝรั่งเศส พระบรมศพตั้งอยู่ที่มหาวิหารแซ็ง-เดอนี กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พระราชินีอ็องเรียต มารีเป็นพระราชินีแห่ง ราชอาณาจักรอังกฤษ ราชอาณาจักรสกอตแลนด์ และราชอาณาจักรไอร์แลนด์ โดยการเสกสมรสกับพระเจ้าชาลส์ และเป็นพระราชมารดาในพระมหากษัตริย์สองพระองค์ คือ พระเจ้าชาลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ และ พระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ และเป็นพระอัยกีในพระเจ้าวิลเลียมที่ 3, สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 2 และสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์ เบื้องต้นพระราชินีอ็องเรียต มารีเป็นพระราชธิดาองค์สุดท้องของพระเจ้าอ็องรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส และพระอัครมเหสีองค์ที่สองพระนางมาเรีย เด เมดีชี ในฐานะที่เป็นพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ เจ้าหญิงอ็องเรียต มารีจีงทรงดำรงตำแหน่งเป็น “เจ้าหญิงสืบสายพระโลหิต” เป็นพระขนิษฐาองค์เล็กของ พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส พระเจ้าอ็องรีพระราชบิดาถูกปลงพระชนม์โดยฟร็องซัว ราวายัก (François Ravaillac) ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1610 เมื่อเจ้าหญิงอ็องเรียต มารีมีพระชนมายุได้เพียงไม่ถึงพรรษา เจ็ดปีต่อมาในปี ค.ศ. 1617 พระมารดาก็ทรงถูกขับจากราชสำนัก เจ้าหญิงอ็องเรียต มารีทรงได้รับการเลี้ยงดูอย่างโรมันคาทอลิก ทรงเสกสมรสโดยฉันทะ (Marriage by proxy) กับพระเจ้าชาลส์ที่ 1 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1625 ไม่นานก่อนที่พระเจ้าชาลส์ที่ 1 จะขึ้นครองราชบัลลังก์อังกฤษ แต่การแต่งงานของทั้งสองพระองค์ไม่เป็นที่นิยมกันในอังกฤษเพราะการที่เจ้าหญิงอ็องเรียต มารีทรงเป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก การเสกสมรสเจ้าหญิงอ็องเรียต มารีทรงเสกสมรสด้วยพระองค์เองกับพระเจ้าชาลส์ที่ 1 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1625 เมื่ออายุ15 ปี แต่การที่ทรงเป็นโรมันคาทอลิกทำให้ไม่สามารถที่จะได้รับการราชาภิเษกกับพระสวามีได้ในพิธีแองกลิคัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองพระองค์เมื่อเริ่มแรกเป็นไปอย่างเย็นชา พระราชินีอ็องเรียต มารีทรงนำผู้ติดตามจำนวนหลายคนมาจากฝรั่งเศสซึ่งล้วนแต่เป็นโรมันคาทอลิกและแต่ละคนต่างก็ใช้เงินเก่งจนต้องพระราชทรัพย์จำนวนมากในการบำรุงรักษาสตรีเหล่านั้น กล่าวกันว่าในที่สุดพระเจ้าชาลส์ก็ทรงทนไม่ได้ จึงทรงส่งข้าราชบริพารของพระราชินีกลับฝรั่งเศส เหลือไว้แต่เพียงอนุศาสนาจารย์ และนางสนองพระโอษฐ์อีกสองคน เดิมพระเจ้าชาลส์ตั้งพระทัยที่จะเสกสมรสกับมาเรีย แอนนาแห่งสเปน พระราชธิดาของพระเจ้าเฟลิเปที่ 3 แห่งสเปน แต่ไม่สำเร็จซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพระองค์กับเจ้าหญิงอ็องเรียต มารีเมื่อเริ่มแรกไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อทรงพบกันครั้งใดก็ทรงมีปากมีเสียงกันและแยกจากกัน ไม่ได้พบพระพักตร์กันเป็นอาทิตย์ เจ้าหญิงอ็องเรียต มารีไม่โปรดจอร์จ วิลเลิร์ส ดยุกที่ 1 แห่งบักกิงแฮม คนโปรดของเจ้าชาลส์ในทันทีที่ทรงพบ แต่หลังจากดยุกแห่งบักกิงแฮมสิ้นชีวิตในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1628 ความสัมพันธ์ระหว่างสองพระองค์ก็ค่อยกระเตื้องขึ้นและในที่สุดก็ทรงมีความรักต่อกันอย่างลึกซึ้ง การที่ไม่ทรงยอมเลิกเป็นโรมันคาทอลิกทำให้ไม่เป็นที่พึงพอใจของข้าราชสำนักผู้มีอำนาจเช่นวิลเลียม ลอด อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี และ ทอมัส เวนท์เวิร์ธ เอิร์ลแห่งสตราฟฟอร์ดที่ 1 แต่พระเจ้าชาลส์ที่ 1 เองทรงมีความเอนเอียงไปทางโรมันคาทอลิก สงครามกลางเมืองอังกฤษพระราชินีอ็องเรียต มารีทรงเพิ่มความมีบทบาทในความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1630 ไม่โปรดข้าราชสำนักพิวริตัน เมื่อสงครามการเมืองเริ่ม พระราชินีอ็องเรียต มารีก็ทรงพยายามหาทุนสนับสนุนพระสวามีจากฝ่ายโรมันคาทอลิกในยุโรป เช่น จากสมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 หรือจากฝรั่งเศส ซึ่งทำให้ทางฝ่ายอังกฤษผู้สนับสนุนพระเจ้าชาลส์ไม่พอใจ นอกจากนั้นยังทรงมีความเห็นพระทัยต่อผู้นับถือโรมันคาทอลิก เช่น การทรงจัดเร็คเควียมภายในชาเปลส่วนพระองค์ที่วังซอมเมอร์เซ็ทให้กับหลวงพ่อริชาร์ด เบลาท์เมื่อปี ค.ศ. 1638 ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1642 เมื่อความขัดแย้งเริ่มต้นในอังกฤษพระราชินีอ็องเรียต มารีประทับอยู่ที่ฝรั่งเศส เพื่อจะหาทุนสนับสนุนฝ่ายกษัตริย์ (Royalist) และไม่ได้เสด็จกลับอังกฤษจนกระทั่งปี ค.ศ. 1643 เมื่อทรงขึ้นฝั่งอังกฤษก็ทรงมาพร้อมกับกองทหารที่บริดลิงตันในยอร์กเชอร์ เพื่อมาสมทบกับกองทหารฝ่ายกษัตริย์ของอังกฤษทางตอนเหนือ และทรงตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ยอร์ก พระราชินีอ็องเรียต มารีประทับอยู่กับกองทหารทางเหนืออยู่หลายเดือนก่อนที่เสด็จลงมาพบกับพระเจ้าชาลส์ที่อ็อกฟอร์ด การที่สถานะการณ์ของพระเจ้าชาลส์ทรุดลงหลังจากการแทรกแซงของสกอตแลนด์ และการที่พระเจ้าชาลส์ไม่ทรงยอมรับข้อตกลงของรัฐบาลในการสงบศึก ทำให้พระราชินีอ็องเรียต มารีเสด็จหนีไปฝรั่งเศสพร้อมกับพระโอรสในปี ค.ศ. 1644 พระเจ้าชาลส์ถูกสำเร็จโทษในปี ค.ศ. 1649 ทิ้งพระราชินีอ็องเรียต มารีให้ฐานะที่เกือบไม่มีทรัพย์สินใดใดเหลือ อ้างอิง
ดูเพิ่ม
|