เกรียงยศ สุดลาภา
นายเกรียงยศ สุดลาภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดกรุงเทพมหานครและนายทะเบียนสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ รองประธานคณะกรรมการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารงานรูปแบบพิเศษสภาผู้แทนราษฎรอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง) อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ถาวร เสนเนียม) อดีตรองโฆษกกรุงเทพมหานคร ในสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหลังจากเกิดรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เกรียงยศได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท) โดยแต่งตั้งให้เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ ดูแลทางด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น ประวัตินายเกรียงยศ สุดลาภา เกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2509 เป็นบุตรของนายเชาวน์วัศ สุดลาภา อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนที่ 7 และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และด้านครอบครัวเกรียงยศ สุดลาภา มีบุตรชาย 2 คน คือพราวด์ พลชย สุดลาภา และพร้อม ณภดล สุดลาภาบุตรที่เกิดกับอทิตา สุธาดารัตน์ (หย่า) ในปัจจุบันคู่สมรสใหม่กับ พิมพ์พีรฎา กิจเพิ่มพูล นายเกรียงยศ สุดลาภา เรียนจบการศึกษาระดับชั้นประถมที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ระดับมัธยมศีกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล กทม.และ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กทม. และจากนั้นศึกษาปริญญาตรีที่ Catholic Central High School, Grand Rapids, Michigan ประเทศสหรัฐอเมริกา และจบระดับปริญญาโทด้าน Art and Media management ที่ Columbia College Chicago เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาและปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MPA) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ (GSPA NIDA) เมื่อปี พ.ศ. 2544 งานการเมืองนายเกรียงยศ สุดลาภา เข้าเวทีการเมืองครั้งแรกโดยการได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รองโฆษกกรุงเทพมหานคร (ดูแลด้านกิจการกรุงเทพมหานคร) ในสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเคยสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบแบ่งเขตในเขตเลือกตั้งที่ 6 กรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ได้เพียงลำดับที่ 4 และได้ลงเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อในนามพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งในปีพ.ศ. 2554 อยู่ในลำดับที่ 68 [1] ในปี พ.ศ. 2551 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ[2] นายเกรียงยศ สุดลาภา เป็นผู้หนึ่งที่ได้รับการเสนอชื่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมแทนนายทิวา เงินยวง ในการเลือกตั้งซ่อม เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553 แต่สุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์ มีมติให้นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ เป็นตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้ง[3] ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์[4] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และในวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558 นายเกรียงยศ สุดลาภา ได้รับการแต่งตั้งโดย คสช.ให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)[5] และดำรงตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ)ให้ดูแลทางด้านการปกครองท้องถิ่นในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท) และในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยพลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แต่งตั้งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 กำกับดูแลสำนักการศึกษา สำนักวัฒนธรรม กีฬาและท่องเที่ยว สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล สำนักงานการต่างประเทศ สำนักพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร สำนักการคลัง ของกรุงเทพมหานคร นายเกรียงยศ ย้ายไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ[6] และได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายทะเบียนพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการประชุมใหญ่วิสามัญ พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ปัจจุบันได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ดูแลงานพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานคณะกรรมการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารงานราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
|