เจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟ ดยุกแห่งเวสเตร์บอตเติน
เจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟ ดยุกแห่งเวสเตร์บอตเติน (22 เมษายน ค.ศ. 1906 – 26 มกราคม ค.ศ. 1947) เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้ากุสตาฟที่ 6 อดอล์ฟแห่งสวีเดน กับเจ้าหญิงมาร์กาเรตแห่งคอนน็อต และเป็นพระราชชนกในสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน และเป็นพระมาตุลาในสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และสมเด็จพระราชินีอันเนอ-มารีแห่งกรีซ พระประวัติเจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟเป็นพระราชบุตรพระองค์ใหญ่จากทั้งหมดห้าพระองค์ ในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์จะเรียกพระองค์อย่างลำลองว่า เอดมุนด์ เสกสมรสกับเจ้าหญิงซิบิลลาแห่งซัคเซิน-โคบวร์คและโกทา พระธิดาในเจ้าชายคาร์ล เอดูอาร์ท ดยุกแห่งซัคเซิน-โคบวร์คและโกทา และเป็นพระราชปนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 19-20 ตุลาคม ค.ศ. 1932 มีพระโอรส-ธิดาด้วยกัน 5 พระองค์ ได้แก่
สิ้นพระชนม์เจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟ ดยุกแห่งเวสเตร์บอตเติน สิ้นพระชนม์จากเหตุเครื่องบินพระที่นั่งตกเมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 1947 ณ สนามบินเคสทรุป โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก[1] พร้อมพระสหายสองคนขณะกำลังเดินทางกลับสต็อกโฮล์มหลังทรงล่าสัตว์และเข้าเฝ้าเจ้าฟ้าหญิงยูเลียนา มกุฎราชกุมารีแห่งเนเธอร์แลนด์กับเจ้าชายแบร์นฮาร์ดแห่งเนเธอร์แลนด์ พระองค์โดยสารเครื่องบินเคแอลเอ็มที่ล่าช้าจากอัมสเตอร์ดัมลงที่โคเปนเฮเกน แล้วทรงต่อเครื่องไปสต็อกโฮล์มด้วยเครื่องดักลาส ดีซี-3 ครั้นเมื่อเครื่องบินออกและขึ้นไต่ระดับได้ 50 เมตร เครื่องก็สูญเสียการทรงตัวและดิ่งพสุธา ทำให้ผู้โดยสาร 16 คน และลูกเรือ 6 คนเสียชีวิต ซึ่งรวมไปถึงพระองค์และเกรซ มัวร์ นักแสดงและนักร้องหญิงอเมริกัน[1] จากการสอบสวนพบว่าเป็นความผิดพลาดของกัปตันที่เลินเล่อไม่ปลดกัสต์ล็อก (Gust lock) จนทำให้เครื่องเร่งไม่ขึ้นและตก[2] ความสนพระทัย
พระองค์เป็นนักกีฬาขี่ม้า เคยลงแข่งกีฬาขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางในโอลิมปิกฤดูร้อน 1936 แต่ทรงตกรอบก่อนถึงรอบสุดท้าย หลังจากนั้นก็ทรงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสวีเดนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1933 จนกระทั่งสิ้นพระชนม์[3][4]
พระองค์ทรงเข้าร่วมเป็นลูกเสือสำรองและสามัญ พระองค์รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ ณ อุทยานกิลเวล ประเทศอังกฤษ เมื่อมีการก่อตั้งกองลูกเสือขึ้นในสวีเดน พระองค์ได้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะลูกเสือ เป็นผู้นำลูกเสือสวีเดนในการชุมนุมลูกเสือโลกครั้งที่ 5 ในปี ค.ศ. 1937 และทรงเข้าร่วมงานชุมนุมลูกเสือวิสามัญโลก ในปี ค.ศ. 1938 ทั้งนี้ทรงดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการลูกเสือโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1938 จนกระทั่งสิ้นพระชนม์[5][6] อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|