เจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี
เจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี (เปอร์เซีย: اشرف پهلوی Ashraf Pahlavī; 26 ตุลาคม พ.ศ. 2462 — 7 มกราคม พ.ศ. 2559) เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี กับสมเด็จพระราชินีตาจญ์ อัล-โมลูก และเป็นพระขนิษฐาฝาแฝดของพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ชาห์องค์สุดท้ายแห่งอิหร่าน พระประวัติเจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี กับสมเด็จพระราชินีตาจ อัล-โมลูก ประสูติเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2462 ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน มีพระเชษฐภคินีคือเจ้าหญิงชามส์ พระเชษฐาฝาแฝดคือชาห์โมฮัมหมัด เรซา และพระอนุชาคือเจ้าชายอาลี เรซา โดยภายหลังพระเชษฐาฝาแฝดของพระองค์ได้เถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นชาห์แห่งอิหร่านและชาห์พระองค์สุดท้ายของอิหร่าน นอกจากนี้เจ้าหญิงอัชราฟสามารถรับสั่ง ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศสได้ เสกสมรสเจ้าหญิงอัชราฟ ทรงเสกสมรสทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งแรก เจ้าหญิงอัชราฟได้เสกสมรสกับกับอาลี กอวัม ชาวชีราส ประเทศอิหร่าน ทั้งคู่มีโอรส 1 องค์ คือ ชาห์ราม กอวัม แต่เจ้าหญิงได้ทรงหย่า พระโอรสของเจ้าหญิงจึงใช้พระราชสกุลปาห์ลาวี-นียา [1] ต่อมาเจ้าหญิงได้เสกสมรสอีกครั้งกับอะหมัด ชาฟิก ชาวอียิปต์ โดยทั้งคู่มีพระบุตร 2 พระองค์ คือ ชาห์ริยาร์ ชาฟิก และอาซาเดห์ ชาฟิก และท้ายที่สุด เจ้าหญิงก็เสกสมรสกับเมห์ดี บูเชห์รี แต่ไม่มีพระบุตร อย่างไรก็ตามเจ้าหญิงอัชราฟยังประทับลี้ภัยในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ส่วนเมห์ดี บูเชห์รีนั้น พำนักอยู่ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทั้งคู่จึงมิค่อยได้มีโอกาสได้พบกัน ในปี 2523 จูดี เคลเมสรุด (Judy Klemesrud) นักหนังสือพิมพ์จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ ได้มาสัมภาษณ์เจ้าหญิงอัชราฟ เจ้าหญิงตรัสว่า "ฉันไม่ใช่แม่ที่ดี เพราะในชีวิตของฉัน ฉันไม่เคยทำให้ลูก ๆ มีความสุขเลย"[2] สิ้นพระชนม์เจ้าหญิงอัชราฟสิ้นพระชนม์ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 สิริพระชันษา 96 ปี[3] ทั้งนี้รอเบิร์ต เอฟ. อาร์เมา (Robert F. Armao) ที่ปรึกษาส่วนพระองค์ ให้การว่าสาเหตุแห่งการสิ้นพระชนม์คือ "ความชราภาพ" และกล่าวว่า เจ้าหญิงสิ้นพระชนม์อย่างสงบในลักษณะบรรทม ณ พระตำหนักแห่งหนึ่งในยุโรปและไม่บ่งว่าเป็นประเทศใด โดยให้เหตุผลด้านความปลอดภัยในครอบครัวของพระองค์[4] งานพระนิพนธ์เจ้าหญิงอัชราฟ ปาห์ลาวี มีพระปรีชาสามารถในด้านการนิพนธ์หนังสือ โดยเจ้าหญิงได้นิพนธ์หนังสือไว้ 3 เล่ม โดย 2 เล่มแรก ตีพิมพ์ที่ประเทศอังกฤษ และอีก 1 เล่ม ตีพิมพ์ที่ประเทศฝรั่งเศส คือ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |