Chemical element, symbol Ts and atomic number
เทนเนสซีน, 00 Ts เทนเนสซีน การอ่านออกเสียง [ 1] (TEN-ə -seen ) รูปลักษณ์ ไม่แน่ชัด อาจจะมีสีคล้ำโลหะ เลขมวล [294] เทนเนสซีนในตารางธาตุ
หมู่ group 17 (halogens) คาบ คาบที่ 7 บล็อก บล็อก-p การจัดเรียงอิเล็กตรอน [Rn ] 5f14 6d10 7s2 7p5 (predicted) [ 2] จำนวนอิเล็กตรอนต่อชั้น 2, 8, 18, 32, 32, 18, 7(คาดว่า)
สมบัติทางกายภาพ วัฏภาค ณ STP ของแข็ง (คาดว่า) [ 2] [ 3] จุดหลอมเหลว 623–823 K (350–550 °C, 662–1022 (คาดว่า) [ 2] °F) จุดเดือด 883 K (610 °C, 1130 (คาดว่า) [ 2] °F) ความหนาแน่น (ใกล้ r.t. ) 7.1–7.3 (extrapolated) [ 3] g/cm3 สมบัติเชิงอะตอม เลขออกซิเดชัน (−1), (+1 ), (+3 ), (+5) (predicted) [ 4] [ 2] รัศมีอะตอม empirical: 138 (คาดว่า) [ 3] pm รัศมีโคเวเลนต์ 156–157 (extrapolated) [ 3] pm สมบัติอื่น เลขทะเบียน CAS 54101-14-3 ประวัติศาสตร์ การค้นพบ สถาบันร่วมเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติโอ๊กริดจ์ (2010) ไอโซโทปของเทนเนสซีน ไม่มีหน้า แม่แบบ:กล่องข้อมูลไอโซโทปของเทนเนสซีน หมวดหมู่: เทนเนสซีน | แหล่งอ้างอิง
เทนเนสซีน (อังกฤษ : Tennessine ) เป็นธาตุ ในกลุ่มโลหะหลังทรานซิชัน ที่มีเลขอะตอม เท่ากับ 117 และมีสัญลักษณ์ Ts เคยมีชื่อชั่วคราวในระบบ IUPAC คือ "อูนอูนเซปเทียม" (สัญลักษณ์ธาตุ Uus) และมีชื่อชั่วคราวอีกชื่อตามพยากรณ์ของดมีตรี เมนเดเลเยฟ ว่า "เอกา-แอสทาทีน" (eka-astatine) ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 2010 โดยนักวิทยาศาสตร์ในโครงการการร่วมมือระหว่างรัสเซีย-อเมริกาที่เมืองดุบนา ประเทศรัสเซีย ต่อมาในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2016 IUPAC เสนอชื่อ เทนเนสซีน (tennessine; สัญลักษณ์ธาตุ Ts) เป็นชื่อทางการของธาตุนี้ ชื่อ "เทนเนสซีน" มาจากชื่อรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา [ 7]
ประวัติ
ก่อนการค้นพบ
ในปี 2004 ที่สถาบันร่วมวิจัยนิวเคลียร์ในเมืองดุบนา ประเทศรัสเซีย ได้มีการค้นคว้าเกี่ยวกับธาตุที่ 117 (หรือเรียกอีกอย่างว่า มี 117 โปรตอน ในนิวเคลียส ) โดยการฟิวชั่น กับเป้าหมายคือเบอร์คีเลียม (ธาตุที่ 97) และลำแสงแคลเซียม (ธาตุที่ 20)
ทีมวิจัยในรัสเซียตั้งใจที่จะใช้ไอโซโทปของแคลเซียม คือ แคลเซียม-48 มี 20 โปรตอน 28 นิวตรอน เป็นไอโซโทปที่มีนิวเคลียสน้ำหนักเบาที่สุดและเสถียร หรือ ใกล้เสถียร
อันดับสองคือ ซิงก์-68 ซึ่งหนักกว่าแคลเซียม-48 มาก ลำแสงแคลเซียม-48 ได้สร้างขึ้นที่รัสเซียโดยกระบวนการทางเคมี[ 8]
การค้นพบ
เป้าหมายเบอร์คีเลียมใช้ในการสังเคราะห์(อยู่ในสารละลาย )
ในปี 2550 ทีมวิจัยของสหรัฐอเมริกาได้กลับมาใช้เบอร์คีเลียมเป็นเป้าหมายอีกครั้งและทางทีมวิจัยรัสเซีย ก็ได้ติดต่อกับสหรัฐอเมริกา แล้ว การวิจัยครั้งนี้ทำให้เบอร์คีเลียมจำนวน 22 มิลลิกรัม พอที่จะดำเนินการทดลองได้ และ เบอร์คีเลียมได้ถูกส่งมาจากรัสเซียอย่างรวดเร็ว: ครึ่งชีวิต ของไอโซโทปเบอร์คีเลียมที่ใช้(เบอร์คีเลียม-249 )คือ 330 วัน และในฤดูร้อนปี 2551 มันก็ถูกส่งมาจากนิวยอร์กจนถึงมอสโกว
การวิจัยได้เริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนปี 2551 และ ในเดือนมกราคม ปี 2552, นักวิทยาศาสตร์ที่ Flerov Laboratory of Nuclear Reactions ได้เริ่มทำการยิงแคลเซียม-48 สู่ เบอร์คีเลียม-249 ในวันที่ 9 เมษายน ปี 2552 รายงานเกี่ยวกับการทดลองนี้ได้ระบุไว้ว่าประสบความสำเร็จ สามารถสร้างธาตุใหม่ขึ้นมา ดังสมการ
97
249
B
k
+
20
48
C
a
→
117
297
U
u
s
→
117
294
U
u
s
+
3
0
1
n
{\displaystyle \,_{97}^{249}\mathrm {Bk} +\,_{20}^{48}\mathrm {Ca} \,\to \,_{117}^{297}\mathrm {Uus} \to \,_{117}^{294}\mathrm {Uus} +3\;_{0}^{1}\mathrm {n} \;}
97
249
B
k
+
20
48
C
a
→
117
297
U
u
s
→
117
293
U
u
s
+
4
0
1
n
{\displaystyle \,_{97}^{249}\mathrm {Bk} +\,_{20}^{48}\mathrm {Ca} \,\to \,_{117}^{297}\mathrm {Uus} \to \,_{117}^{293}\mathrm {Uus} +4\;_{0}^{1}\mathrm {n} \;}
ก่อนที่จะผ่านการสังเคราะห์ของเทนเนสซีนนั้น การค้นพบไอโซโทปน้องสาวของเทนเนสซีนไม่มีเลย แต่หลังจากสังเคราะห์แล้วก็ค้นพบไอโซโทปน้องสาวแรก คือ อูนอูนเพนเทียม-289 หนึ่งในไอโซโทปน้องสาวของเทนเนสซีน และทาง JWP ได้จัดให้ธาตุนี้เป็นธาตุแทรนส์-โคเปอร์นิเซียม หรือ ธาตุหลังโคเปอร์นิเซียม
ชื่อ
ถ้าใช้การทำนายชื่อธาตุของเมนเดเลเวฟ เทนเนสซีนจะเป็นธาตุที่มีชื่อว่า เอคา-แอสทาทีน หรือ ดีวิ-ไอโอดีน ในปี ค.ศ. 1979 IUPAC ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งชื่อธาตุและทำให้ธาตุนี้มีชื่อว่า "อูนอูนเซปเทียม" (สัญลักษณ์ธาตุ Uus) ต่อมาในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2016 IUPAC เสนอชื่อ "เทนเนสซีน" (tennessine; สัญลักษณ์ธาตุ Ts) เป็นชื่อทางการของธาตุนี้ ชื่อ "เทนเนสซีน" มาจากชื่อรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา [ 7]
ประโยชน์
ประวัติการค้นพบและการศึกษา
แน่ชัดว่าสมบัติทางเคมี เช่น ความยาวพันธะเคมี ฯลฯ ถูกพยากรณ์ว่าต่างจากแนวโน้มตามธาตุในคาบเดียว เพราะตำแหน่งตามหมู่ตรงกับแฮโลเจน [ 9] อย่างไรก็ตาม เทนเนสซีนอาจแสดงสมบัติของธาตุกึ่งโลหะ น้อยกว่า
อ้างอิง
↑ Ritter, Malcolm (June 9, 2016). "Periodic table elements named for Moscow, Japan, Tennessee" . Associated Press. สืบค้นเมื่อ December 19, 2017 .
↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 2.7 Hoffman, Darleane C.; Lee, Diana M.; Pershina, Valeria (2006). "Transactinides and the future elements". ใน Morss; Edelstein, Norman M.; Fuger, Jean (บ.ก.). The Chemistry of the Actinide and Transactinide Elements (3rd ed.). Dordrecht, The Netherlands: Springer Science+Business Media . ISBN 978-1-4020-3555-5 . อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Haire" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 Bonchev, Danail; Kamenska, Verginia (1981). "Predicting the Properties of the 113–120 Transactinide Elements". J. Phys. Chem . 85 : 1177–1186.
↑ Fricke, Burkhard (1975). "Superheavy elements: a prediction of their chemical and physical properties" . Recent Impact of Physics on Inorganic Chemistry . Structure and Bonding. 21 : 89–144. doi :10.1007/BFb0116498 . ISBN 978-3-540-07109-9 . สืบค้นเมื่อ 4 October 2013 .
↑
Royal Society of Chemistry (2016). "Ununseptium" . rsc.org . Royal Society of Chemistry. สืบค้นเมื่อ 9 November 2016 . A highly radioactive metal, of which only a few atoms have ever been made.
↑
GSI (14 December 2015). "Research Program – Highlights" . superheavies.de . GSI. สืบค้นเมื่อ 9 November 2016 . If this trend were followed, element 117 would likely be a rather volatile metal. Fully relativistic calculations agree with this expectation, however, they are in need of experimental confirmation.
↑ 7.0 7.1 "IUPAC Is Naming The Four New Elements Nihonium, Moscovium, Tennessine, And Oganesson" . IUPAC. 2016-06-08. สืบค้นเมื่อ 2016-06-08 .
↑ Jepson, B. E.; Shockley, G. C. (1984). "Calcium hydroxide isotope effect in calcium isotope enrichment by ion exchange" . Separation Science and Technology . 19 (2–3): 173–181. doi :10.1080/01496398408060653 .
↑ "Trond Saue. Principles and Applications of Relativistic Molecular Calculations" (PDF) . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2007-06-28. สืบค้นเมื่อ 2007-10-24 .
อ้างอิง และแหล่งข้อมูลอื่น