เทพมรณะ
เทพมรณะ หรือ บลีช (ญี่ปุ่น: ブリーチ; โรมาจิ: Burīchi; ทับศัพท์: ในชื่ออังกฤษว่า Bleach) เป็นผลงานการ์ตูนญี่ปุ่นของไทโตะ คุโบะ ตีพิมพ์ลงนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ในประเทศญี่ปุ่น ระหว่างเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2544 ถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 ส่วนในประเทศไทยนั้นถูกตีพิมพ์ในนิตยสารบูม โดยมีสำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีและดีวีดีโดยบริษัทโรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เนื้อเรื่องคุโรซากิ อิจิโกะ เด็กมัธยมปลายอายุ 15 ปีผู้มีความสามารถมองเห็นวิญญาณ วันหนึ่งเขาได้พบกับยมทูตหญิงชื่อ คุจิกิ ลูเคีย ในขณะที่เธอกำลังตามล่าฮอลโลว์ตัวหนึ่งและพลาดให้กับฮอลโลว์ตัวนั้น ลูเคียจึงเสนอให้อิจิโกะถ่ายโอนส่วนหนึ่งของแรงดันวิญญาณ (ญี่ปุ่น: Spirit Pressure; โรมาจิ: 霊圧; ทับศัพท์: Reiatsu) ของเธอไป แต่ลูเคียกลับพลาดปล่อยให้แรงดันวิญญาณถูกดูดไปจนหมด อุราฮาร่า คิสึเกะ จึงแนะนำให้ใช้ร่างเทียมเพื่อฟื้นพลังและเพื่อให้อิจิโกะเข้าช่วยงานเจ้าหล่อนในการเป็นยมทูตแทนระหว่างที่เธอพักฟื้นพลังอยู่ในโลกมนุษย์ ตลอดเวลาที่ลูเคียพักฟื้นพลัง ลูเคียใช้ชีวิตเป็นนักเรียนในโรงเรียนเดียวกับอิจิโกะและได้พบกับ ซาโดะ "แช้ด" ยาสึโทระ อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ และอิชิดะ อุริว ควินซีคนสุดท้ายในฐานะเพื่อนร่วมชั้น แต่ทว่าความผิดปกติของอิจิโกะที่กลายเป็นยมทูต ทำให้อุริวประกาศตนเป็นศัตรู และท้าแข่งกำจัดฝูงฮอลโลว์กับอิจิโกะ เหตุการณ์ในครั้งนั้นพลังฟูลบริงเกอร์ของซาโดะ และอิโนะอุเอะตื่นขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว และทั้งสี่ก็เอาชนะฝูงฮอลโลว์ได้อย่างยากเย็น เวลาแห่งความสนุกผ่านไป 6 เดือน โซลโซไซตี้สามารถจับแรงดันวิญญาณของลูเคียที่หายไปได้ จึงได้ส่ง คุจิกิ เบียคุยะ และ อาบาราอิ เร็นจิ มาพาตัวลูเคียกลับไปรับโทษข้อหาหลบหนีการปฏิบัติหน้าที่ที่โซลโซไซตี้ ก่อนจะพบว่าจริง ๆ แล้วลูเคียเสียพลังยมทูตให้อิจิโกะไปซึ่งถือเป็นโทษหนักในโซลโซไซตี้ เบียคุยะจึงตัดโซ่กรรมและวิญญาณหลักของอิจิโกะ ทำให้พลังยมทูตของลูเคียที่อยู่ในตัวอิจิโกะหายไป อุราฮาระจึงจัดโปรแกรมฝึกพิเศษให้อิจิโกะนำพลังยมทูตของตัวเองที่ถูกซ่อนอยู่ในส่วนลึกสุดของวิญญาณกลับมา ในขณะเดียวกัน ชิโฮอิน โยรุอิจิ แมวปริศนาที่ตัวตนที่แท้จริงคืออดีตหัวหน้าหน่วยลงทัณฑ์ของโซลโซไซตี้ ได้เสนอให้ซาโดะและอิโนะอุเอะฝึกพลังของตัวเองเพื่อใช้ในการบุกโซลโซไซตี้ และทำนองเดียวกันอุริวก็แอบฝึกใช้ถุงมือเสริมพลังควินซีเพื่อใช้ในการนี้โดยเฉพาะ เมื่อการฝึกแล้วเสร็จอุราฮาระจึงเปิดประตูผ่านโลกให้พวกอิจิโกะเดินทางไปโซลโซไซตี้ได้อย่างปลอดภัย เมื่อถึงที่นั่นทั้ง 4 คนได้เข้าต่อสู้กับ 13 หน่วยพิทักษ์อย่างหนักหน่วงเพื่อขัดขวางการประหารลูเคียจากข้อหาที่ส่งมอบพลังวิญญาณให้บุคคลอื่น การเคลื่อนไหวของพวกอิจิโกะในเซย์เรย์เทย์ ทำให้เกิดคดีที่ ไอเซ็น โซสึเกะ หนึ่งในหัวหน้าหน่วยของ 13 หน่วยพิทักษ์ถูกลอบสังหารกลางเมือง คดีนี้ทำให้ 13 หน่วยพิทักษ์เกิดความปั่นป่วนอย่างหนัก และพวกอิจิโกะที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้ต้องถูกจับเข้าห้องขังในฐานะนักโทษ ด้วยความช่วยเหลือของโยรุอิจิ อิจิโกะสามารถล้มการประหารลูเคียและเอาชนะเบียคุยะได้สำเร็จ แต่การต่อสู้ระหว่างอิจิโกะและเบียคุยะกลับทำให้พลังลึกลับบางอย่างที่อยู่ในตัวอิจิโกะตื่นขึ้นพร้อมกันด้วย เหตุการณ์ทั้งหมดในเซย์เรย์เทย์ทำให้ไอเซ็นตัดสินใจเผยตัวตนที่แท้จริง และเผยแผนการทั้งหมดที่ตนวางไว้ ไอเซ็นวางแผนที่จะชิง โฮเงียคุ วัตถุพิเศษที่จะทำให้เส้นแบ่งเขตพลังวิญญาณของยมทูตและฮอลโลว์พังทลายลง แลกกับการได้รับพลังที่เหนือกว่ายมทูตและฮฮล์โลว์มาครอบครอง วัตถุนี้ถูกสร้างขึ้นโดย อุราฮาระ คิสึเกะ แต่มันอันตรายมากเกินกว่าที่สติปัญญาของเขาจะทนมันไหว อุราฮาระจึงใช้วิธีการแทรกซึมเข้าดวงวิญญาณและฝังโฮเงียคุไว้ในร่างวิญญาณตนหนึ่ง ซึ่งวิญญาณตนนั้นคือ คุจิกิ ลูเคีย แต่ทว่าคุจิกิลูเคียกลับหายตัวไปในโลกมนุษย์ ไอเซ็นจึงเข้าสังหารวังกลาง 46 ห้อง ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นศาลสูงสุดที่คอยควบคุมทุกสิ่งอย่างในโซลโซไซตี้ลงทั้งหมด และออกคำสั่งส่งยมทูตและหน่วยไล่ล่าออกตามหาลูเคียในโลกมนุษย์จนพบตัวสำเร็จ พริบตาที่พบตัวไอเซ็นจึงออกคำสั่งให้เบียคุยะ และเร็นจิพาตัวกลับมารับโทษประหาร ไอเซ็นตั้งใจใช้โซเคียคุทำให้วิญญาณลูเคียระเหิดไป เพื่อที่จะได้ชิงโฮเงียคุมาเป็นของตัวเอง แต่เมื่อการประหารล่มไอเซ็นจึงใช้วิธีแทรกซึมเข้าดวงวิญญาณแบบเดียวกับที่อุราฮาระทำ และเขาก็ชิงโฮเงียคุได้สำเร็จ ก่อนแปรพักตร์ไปเป็นศัตรูและอาศัยอยู่ในลาสนอร์เช่ส์ ป้อมปราการแห่งใหม่ที่เขาสร้างขึ้นใน ฮูเอโกมุนโด้ โลกของเหล่าฮอลโลว์ และสร้างกองทัพฮอล์โลว์ถอดหน้ากาก "อาร์รันคาร์" เพื่อหวังทำลายโซลโซไซตี้ให้พังพินาศ หลายเดือนหลังจากนั้น ฮิราโกะ ชินจิ ชายปริศนาได้ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าอิจิโกะเพื่อแนะนำตัวว่าเขาคือไวเซิร์ด และอิจิโกะคือหนึ่งในพวกของเขา ซึ่งจริงๆ แล้วพวกไวเซิร์ด คือกลุ่มยมทูตที่ถูกไอเซ็นใช้เป็นหนูทดลองการกลายสภาพเป็นฮอลโลว์เมื่อ 110 ปีก่อน แม้การทดลองของไอเซ็นจะล้มเหลว แต่อุราฮาระกลับทำให้พวกฮิราโกะสามารถกลายเป็นไวเซิร์ดได้สำเร็จ ฮิราโกะเสนอวิธีการสยบพลังบางอย่างที่เรียกว่าฮอลโลว์ในตัวอิจิโกะ แต่อิจิโกะขอปฏิเสธที่จะเข้าเป็นพวกและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ไม่นานหลังจากนั้นอาร์รันคาร์กลุ่มแรกถูกส่งมายังโลกมนุษย์เพื่อมาดูลาดเลาและคอยสังเกตการณ์อิจิโกะ แต่อุลคิโอร่าหนึ่งในอารันคาร์ที่เดินทางมาได้ตัดสินว่าอิจิโกะเป็นเพียงขยะที่ไม่ควรค่าแก่การสังหาร ไอเซ็นจึงปล่อยให้อิจิโกะมีชีวิตไปพลางก่อน อิจิโกะสิ้นหวังกับพลังยมทูตที่บัดนี้เหมือนไม่ใช่พลังของตัวเอง จึงได้ละทิ้งหน้าที่ตัวแทนยมทูตและเก็บตัวเงียบนานแรมเดือน โซลโซไซตี้ที่บัดนี้ถูกควบคุมโดย ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุงิ หัวหน้าใหญ่ของ 13 หน่วยพิทักษ์เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงได้ส่งลูเคีย เร็นจิ รวมถึงยมทูตอีก 4 คนคือ มาดาราเมะ อิกคาคุ, อายาเซกาว่า ยูมิจิกะ, มัตสึโมโต้ รันงิคุ และฮิสึกายะ โทชิโร่ มาอยู่ประจำเมืองคาราคุระเพื่อคอยคุ้มกันโลกมนุษย์จากการบุกของเหล่าอารันคาร์และไอเซ็น ระหว่างนั้นเองเก็นริวไซได้คอยสืบหาเบาะแสของไอเซ็นจากที่ซ่อนตัวในวังกลาง 46 ห้อง จนได้รู้ความจริงว่าเป้าหมายที่แท้จริงของไอเซ็น คือการสร้างกุญแจราชันย์ โอเค็น กุญแจที่สามารถนำทางไปยังวังแห่งราชันย์ที่ซ่อนอยู่ในโซลโซไซตี้ได้ และวัตถุดิบคือเมืองคาราคุระพร้อมผู้คนและวิญญาณบนโลกมนุษย์ทั้งเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้ไอเซ็นทำตามแผนได้สำเร็จและสามารถต่อกรกับพวกอารันคาร์ได้ อิจิโกะจึงยอมขอความช่วยเหลือจากเหล่าไวเซิร์ดในการคุมพลังฮอลโลว์ แช้ดขอความช่วยเหลือจากอุราฮาระในการฝึกใช้พลังเพิ่มเติม อุราฮาระจึงขอให้เร็นจิช่วยใช้บังไคฝึกพลังให้ อิโนะอุเอะเองก็เดินทางไปยังโซลโซไซตี้เพื่อฝึกพลังกับลูเคียที่นั่น อุริวได้รับข้อเสนอจากริวเค็นเพื่อฟื้นพลังควินซีที่เขาเสียไปในระหว่างการต่อสู้ในโซลโซไซตี้ให้ แต่ระหว่างที่พวกอิจิโกะฝึกอย่างหนัก และโซลโซไซตี้เองก็วางแผนรับมือไอเซ็นอยู่นั้น ไอเซ็นได้เดินเกมบุกโลกมนุษย์อีกครั้งโดยส่งกองทัพอารันคาร์มาทั้งหมด 5 ตน ทั้ง 5 เข้าถล่มพวกอิจิโกะอย่างหนักหน่วง แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น อุลคิโอร่าดักโจมตีอิโนะอุเอะระหว่างทางที่กำลังเดินทางกลับโลกมนุษย์ และบังคับให้เธอเดินทางไปฮูเอโกมุนโด้ไปด้วยกัน อิโนะอุเอะไม่มีทางเลือกเลยยอมเดินทางไปด้วย เก็นริวไซที่รู้เรื่องจึงตัดสินให้อิโนะอุเอะคือผู้ทรยศ ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือทุก ๆ อย่าง และเรียกหน่วยฮิสึกายะกลับมาเตรียมความพร้อมก่อนสงครามฤดูหนาวจะเริ่มต้น อิจิโกะไม่มีทางเลือกจึงไปขอให้อุราฮาระเปิดประตูผ่านโลกไปยังฮูเอโกมุนโด้ให้ อิจิโกะ ซาโดะ และอุริว ทั้งสามคนจึงเดินทางไปฮูเอโกมุนโด้เพื่อชิงตัวอิโนะอุเอะกลับมาด้วยกัน ระหว่างที่กำลังเดินทางไปลาสนอร์เช่ส์ อิจิโกะได้พบกับเนล อาร์รันคาร์เด็กที่อาสาพาไปลาสนอร์เช่ส์ให้ รวมถึงลูเคียและเร็นจิได้เดินทางตามมาสมทบภายหลังด้วย และแล้วสงครามในลาสนอร์เช่ส์ก็เริ่มต้นขึ้น พวกอิจิโกะต่างต่อสู้กับเอสปาด้าตนแล้วตนเล่า จนในที่สุดก็ปราชัยให้กับเหล่าเอสปาด้ากันเกือบทั้งหมด พริบตาที่อิจิโกะกำลังจะพ่ายแพ้ต่อเอสปาด้า ซาราคิ เคมปาจิ ก็ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าเขา ซาราคิบอกว่าเก็นริวไซออกคำสั่งให้ยมทูต 8 คนบุกเข้าฮูเอโกมุนโด้ เพื่อช่วยอิจิโกะชิงตัวอิโนะอุเอะกลับมาและคอยจัดการเหล่าเอสปาด้าจากข้างใน แต่ทว่านั่นคือกลลวงของไอเซ็นที่จะขังกลุ่มตัวแทนยมทูตไว้ในฮูเอโกมุนโด้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีหัวหน้าหน่วยติดเบ็ดด้วยอีก 4 คน ด้วยกำลังของ 13 หน่วยพิทักษ์ที่หายไปเกินครึ่ง ทำให้ไอเซ็นตัดสินใจบุกเมืองคาราคุระทันที เก็นริวไซที่รู้แผนการทั้งหมดของไอเซ็นจึงได้สั่งให้อุราฮาระเตรียมการให้เมืองคาราคุระเป็นสนามรบ โซลโซไซตี้ใช้วิธีการสร้างเมืองคาราคุระของปลอมขึ้นที่เมืองลูคอนและใช้เท็นไกเค็ตจูย้ายเมืองปลอมมาสลับกับเมืองจริงบนโลกมนุษย์ ไอเซ็นที่รู้เรื่องจึงตัดสินใจที่จะฆ่าเหล่ายมทูตทั้งหมดที่นี่ก่อนบุกเข้าโซลโซไซตี้เพื่อทำลายเมืองคาราคุระและโซลโซไซตี้ไปพร้อม ๆ กัน อิจิโกะที่สามารถพิชิตอุลคิโอร่าได้จึงถูกเบียคุยะส่งกลับมาเข้าร่วมศึกที่โลกมนุษย์ เพราะอิจิโกะคือไพ่ตายหนึ่งเดียวที่จะสามารถโค่นไอเซ็นลงได้ด้วยการที่เขาไม่เคยเห็นการปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณของไอเซ็นมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว อิจิโกะเข้าต่อสู้กับไอเซ็นอย่างหนักแต่ก็ต้องพ่ายไป อิจิมารุจึงสั่งให้อิจิโกะหนีจากสงครามนี้ไปก่อนจะบุกเข้าโซลโซไซตี้เพื่อทำตามประสงค์ อิจิโกะทำตัวไม่ถูกว่าจะไปทางไหนต่อก็ถูกคุโรซากิ อิชชิน อดีตยมทูตผู้เป็นพ่อเตือนสติ และให้เข้าไปปกป้องเมืองคาราคุระที่อยู่ข้างในโซลโซไซตี้เสีย แต่ระหว่างทางที่ไปโซลโซไซตี้ อิชชินได้สั่งให้อิจิโกะเข้าไปถามหาพลังขั้นสุดท้ายจากดาบฟันวิญญาณของตน อิจิโกะใช้เวลาที่ได้รับพิชิตดาบฟันวิญญาณของตนได้สำเร็จ และได้รับเคล็ดวิชาที่จะใช้เผด็จศึกกับไอเซ็นมาครอง และแล้วการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของอิจิโกะกับไอเซ็นจึงเริ่มขึ้น อิจิโกะจึงปลดปล่อยพลังขั้นสุดท้ายที่ต้องแลกกับพลังทั้งหมดของตัวเองเพื่อเอาชนะไอเซ็นให้จงได้ แต่สุดท้ายพลังที่ปล่อยไปกลับล้มเหลว ไอเซ็นฟื้นฟูเต็มสภาพแบบใกล้เคียงความเป็นอมตะ พริบตาที่ไอเซ็นกำลังจะพิชิตชัย เขาก็ถูกผนีกที่อุราฮาระวางไว้เข้าผนีกร่างกายของตัวเองจนไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป หลายวันผ่านไปทุกอย่างเริ่มกลับเข้าสู่สภาพเดิม แต่สำหรับอิจิโกะกระบวนการสูญเสียพลังยมทูตได้เริ่มขึ้น อิจิโกะจึงเดินทางกลับบ้านเพื่อใช้ชีวิตตามปกติโดยมีลูเคียมาส่ง และเมื่อพลังหายไปจนหมด เขาก็ไม่สามารถมองเห็นวิญญาณได้อีกเลย สองปีต่อมา อิจิโกะ เด็กหนุ่มมัธยมปลายปี 3 วัย 17 ที่ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป ได้รับการติดต่อจากชายปริศนาที่ชื่อว่า งินโจ คูโก ให้อิจิโกะมาเข้าร่วมองค์กร เอ็กซ์คิวชัน เพื่อฝึกให้อิจิโกะเป็นฟูลบริงเกอร์คนใหม่ แต่แท้จริงแล้วนั่นคือแผนที่จะขโมยพลังวิญญาณของอิจิโกะที่เป็นไวเซิร์ดเพื่อมาพัฒนาให้พลังของฟูลบริงเกอร์ก้าวกระโดดขึ้นไปจากเดิมอีกขั้น อิจิโกะเสียใจที่ถูกหักหลังและสิ้นหวังกับทุกสิ่งที่เขารู้มา พริบตาที่ความสิ้นหวังจบลง ดาบปริศนาก็แทงทะลุร่างอิจิโกะ ทำให้อิจิโกะได้รับพลังยมทูตกลับคืนตามคำสั่งเก็นริวไซ งินโจวเห็นท่าไม่ดีจึงได้อธิบายความลับของ "ตราตัวแทนยมทูต" ว่าแท้จริงแล้วอุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์สำหรับติดตามตัวบุคคลที่เป็นยมทูตโดยไม่ได้รับอนุมัติจากโซลโซไซตี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนการของ อุคิทาเกะ จูจิโร่ หัวหน้าหน่วยที่ 13 ที่ใช้อุปกรณ์นี้คอยติดตามตัวเพื่อควบคุมให้งินโจว ผู้ซึ่งเป็นตัวแทนยมทูตรุ่นแรกให้อยู่ใต้อำนาจของตน งินโจวที่รู้เรื่องจึงทำลายอุปกรณ์ทิ้งและหลบหนีหายไปในโลกมนุษย์ อุคิทาเกะรู้ดีว่าถ้ามอบตราตัวแทนให้อิจิโกะไว้ งินโจวจะต้องติดต่ออิจิโกะแน่ และตนจะให้โซลโซไซตี้ใช้โอกาสนี้ฆ่าทั้งงินโจวและอิจิโกะลงพร้อมกัน แต่ด้วยเหตุการณ์ไอเซ็นทำให้เก็นริวไซตัดสินใจไม่ฆ่าอิจิโกะ แต่ให้คอยสังเกตการณ์ว่าอิจิโกะจะทำอย่างไรถ้าได้รู้ความจริง พริบตาที่ทุกคนเห็นอิจิโกะตั้งท่าสู้กับความมุ่งมั่นของงินโจว ทุกคนจึงน้อบรับคำตัดสินและถอนภารกิจสังหารงินโจวกับอิจิโกะลง ปล่อยให้อิจิโกะจัดการกับงินโจวตามลำพัง และอิจิโกะก็ทำได้สำเร็จและยอมรับตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง หลายเดือนหลังจากนั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ความเคลื่อนไหวผิดปกติในโซลโซไซตี้และฮูเอโกมุนโด้ กำลังจะนำพาทั้งสามโลกเข้าสู่สงครามสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความตายไม่รู้จบ และความจริงสุดท้ายของอิจิโกะก็จะปรากฎขึ้นต่อหน้าทุกคน โลกและมิติเขตแดน
อาวุธและอุปกรณ์ดาบฟันวิญญานดาบที่มีหลากหลายแบบตามกำลังและพลังที่แอบแผงในร่างและมีการพัฒนาการไปได้อีกหลายระดับ เรียนชื่อของดาบที่แปลงสภาพจากแรงดันวิญญาณว่าซัมปาคุโต (ดาบฟันวิญญาณ) อาวุธที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับเหล่ายมทูต ซัมปาคุโตจะแตกต่างจากดาบธรรมดา ตรงที่ดาบแต่ละเล่มนั้นสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้สามแบบ คือ
ตัวละครสื่อบันเทิงนอกจากนี้ เทพมรณะได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน สองอนิเมะโอวีเอ สี่อภาพยนตร์ ละครเพลง วิดีโอเกม และการ์ดเกม โดยภาพยนตร์การ์ตูนถูกทำเป็นสองภาค ภาคแรก เทพมรณะ ออกอากาศทางสถานีทีวีโตเกียว ในประเทศไทยฉายที่ช่อง ทรู สปาร์ค ลิขสิทธิ์ดีวีดีและวีซีดีในประเทศไทยโดย โรส มีเดีย เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ปัจจุบันได้เปลี่ยนผู้ถือลิขสิทธิ์เป็นต่างประเทศ เพื่อออกฉายผ่านทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาทิ เน็ตฟลิกซ์ อ้ายฉีอี้ ปีลีปีลี ทรูไอดี แอมะซอน ไพร์ม วิดีโอ โดยที่มีเสียงพากย์ไทยในแพลตฟอร์ม ทรูไอดี ที่ใช้เสียงพากย์ของช่องทรูสปาร์ค และ แอมะซอน ไพร์ม วิดีโอ ที่ใช้เสียงพากย์ของโรส มีเดียทั้งหมด และภาคที่ 2 เทพมรณะ: สงครามเลือดพันปี ออกอากาศทางสถานีทีวีโตเดียวเช่นกัน ในไทยถือลิขสิทธิ์โดยผู้ถือลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ โดยออกฉายผ่านทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่นกัน ทั้งนี้ในภาค สงครามเลือดพันปี ได้มีการจัดทำเสียงพากย์ไทยโดย บริษัท เอฟฟ์ จำกัด หรือการ์ตูน คลับ โดยใช้นักพากย์เดิมของ โรส มีเดีย บางส่วน ร่วมกับนักพากย์ของการ์ตูน คลับ รายชื่อตอนในอนิเมะเทพมรณะเพลงเปิด-ปิดในอนิเมะเทพมรณะบลีช เทพมรณะ (2547-2555)เพลงเปิด (OPENING)
เพลงปิด (ENDING)
บลีช เทพมรณะ: สงครามเลือดพันปี (2565-ปัจจุบัน)เพลงเปิด (OPENING)
เพลงปิด (ENDING)
* สำหรับตอนที่ 13 เพลง Saihate ฉบับเต็มจะถูกฉายเฉพาะในเวอร์ชันฉาย 1 ชั่วโมง (ตอนที่ 12-13) ที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ถ้ารับชมจากนอกประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเวอร์ชันที่ใช้ OST: Number One - Bankai โดย Shiro Sagisu เป็นเพลงปิดเลย ภาพยนตร์
ละครเวที / ละครเพลงเทพมรณะ มีการแสดงในรูปแบบของละครเพลงโดยใช้ชื่อว่า ร็อก มิวสิเคิล บลีช ญี่ปุ่น: ロックミュージカル ブリーチ; โรมาจิ: rokku myūjikaru Burīchi อังกฤษ: Rock Musical Bleach นวนิยาย
รายการอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิคำคมมีคำคมเกี่ยวกับ เทพมรณะ |