แบรด พิตต์
วิลเลียม แบรดลีย์ พิตต์ (อังกฤษ: William Bradley Pitt; เกิด 18 ธันวาคม ค.ศ. 1963) เป็นนักแสดงและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชาวอเมริกัน ผู้ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลออสการ์, รางวัลแบฟตา และรางวัลลูกโลกทองคำสองครั้ง สำหรับการแสดงของเขา นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลออสการ์สองครั้ง, รางวัลแบฟตาสองครั้ง และรางวัลลูกโลกทองคำอีกสามครั้ง ในฐานะผู้อำนวยการสร้างภายใต้บริษัทผลิตภาพยนตร์ แพลนบีเอนเตอร์เทนเมนต์ ด้วย พิตต์ได้รับการยอมรับครั้งแรกจากบทนักโบกรถคาวบอยในภาพยนตร์การเดินทางเรื่อง มีมั่งไหมผู้ชายดี ๆ สักคน (1991) บทบาทนำครั้งแรกของเขาเป็นภาพยนตร์ดราม่าที่มีทุนสร้างสูงอย่าง สายน้ำลูกผู้ชาย (1992) และ ตำนานสุภาพบุรุษหัวใจชาติผยอง (1994) และภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง เทพบุตรแวมไพร์ หัวใจรักไม่มีวันตาย (1994) เขายังได้รับการชื่นชมจากการแสดงในภาพยนตร์อาชญากรรมระทึกขวัญเรื่อง เซเว่น เจ็ดข้อต้องฆ่า (1995) และภาพยนตร์ไซไฟเรื่อง 12 มังกี้ส์ 12 ลิงมฤตยูล้างโลก (1995) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ พิตต์ยังแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ไฟท์ คลับ ดิบดวลดิบ (1999) และภาพยนตร์โจรกรรมเรื่อง คนเหนือเมฆปล้นลอกคราบเมือง (2001) รวมถึงภาพยนตร์ภาคต่อ 2 มงกุฎ ปล้นสุดโลก (2004) และ 13 เซียนปล้นเหนือเมฆ (2007) ความสำเร็จเชิงพาณิชย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาได้แก่ คนเหนือเมฆปล้นลอกคราบเมือง (2001), ทรอย (2004), นายและนางคู่พิฆาต (2005), มหาวิบัติสงคราม Z และ กาลครั้งหนึ่งใน...ฮอลลีวู้ด (2019) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่สองและรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ผลงานอื่น ๆ ของพิตต์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ได้แก่ เบนจามิน บัตตัน อัศจรรย์ฅนโลกไม่เคยรู้ (2008) และ เกมล้มยักษ์ (2011) เขายังเป็นผู้อำนวยการสร้างในภาพยนตร์เรื่อง ภารกิจโหด แฝงตัวโค่นเจ้าพ่อ (2006) และ ปลดแอก คนย่ำคน (2013) โดยทั้งสองเรื่องได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตลอดจน ต้นไม้แห่งชีวิต (2011), เกมล้มยักษ์ และ เกมฉวยโอกาสรวย (2015) ซึ่งล้วนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม พิตต์จึงกลายเป็นนักแสดงคนที่สองที่ได้รับรางวัลออสการ์ทั้งสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมและภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในฐานะบุคคลสาธารณะ พิตต์ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในผู้อิทธิพลที่สุดและผู้ทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมบันเทิงของสหรัฐ เป็นเวลาหลายปีที่เขาถูกยกให้เป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกจากสื่อต่าง ๆ และชีวิตส่วนตัวของเขากลายเป็นเรื่องที่ได้รับการเผยแพร่ในวงกว้าง เขาหย่าร้างกับนักแสดงหญิง เจนนิเฟอร์ อนิสตัน และแองเจลินา โจลี พิตต์มีบุตรทั้งหมดหกคนกับโจลี โดยสามคนเป็นบุตรบุญธรรมจากต่างประเทศ ชีวิตช่วงแรกพิตต์เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 1963 ที่ชอว์นี รัฐโอคลาโฮมา พ่อของเขาชื่อ วิลเลียม อัลวิน พิตต์ เป็นเจ้าของบริษัทขนส่งรถบรรทุก แม่ของเขา เจน เอตตา (สกุลเดิม ฮิลล์เฮาส์) เป็นที่ปรึกษานักเรียน[2][3] หลังจากนั้นไม่นานครอบครัวย้ายไปที่สปริงฟิลด์ รัฐมิสซูรี ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับพี่น้องที่อายุน้อยกว่าชื่อ ดักลาส มิตเชลล์ (เกิด ค.ศ. 1966) และ จูลี นีล (เกิด ค.ศ. 1969)[4] พิตต์เติบโตมาในครอบครัวคริสต์ศาสนิกชนที่อนุรักษ์นิยม[5][6] เขาถูกเลี้ยงดูแบบสหคริสตจักรแบปทิสต์ใต้ (Southern Baptist Convention) และต่อมา "ผันผวนระหว่างลัทธิอไญยนิยมและอเทวนิยม"[7] ซึ่งภายหลังเขากลับมาศรัทธาความเชื่อทางเจตภาพ[8] พิตต์ยังอธิบายสปริงฟิลด์ว่าเป็น "ประเทศมาร์ก ทเวน ประเทศเจสซี เจมส์" ที่เติบโตมากับ "เนินเขาและทะเลสาบจำนวนมาก"[9] พิตต์เข้าเรียนที่โรงเรียนคิกอะบูไฮสกูล ซึ่งเขาเป็นสมาชิกของทีมกอล์ฟ ว่ายน้ำ และเทนนิส[10] หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม พิตต์ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมิสซูรี สาขาวารสารศาสตร์โดยเน้นที่การโฆษณา ใน ค.ศ. 1982[11] เมื่อใกล้สำเร็จการศึกษา พิตต์ไม่พร้อมที่จะตั้งหลักปักฐาน เขาหลงรักภาพยนตร์และได้กล่าวว่าเป็น "ประตูสู่โลกที่แตกต่างสำหรับผม" และเนื่องจากรัฐมิสซูรีไม่ใช่แหล่งที่ผลิตภาพยนตร์ เขาจึงตัดสินใจไปในที่ภาพยนตร์ถูกผลิตขึ้น[12][13] พิตต์ออกจากมหาวิทยาลัยและย้ายไปยังลอสแองเจลิส โดยเรียนการแสดงและทำงานจิปาถะอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสองสัปดาห์[14] เขากล่าวถึงแกรี โอลด์แมน, ฌอน เพนน์ และมิกกีย์ รูร์ก ว่าเป็นวีรบุรุษการแสดงในช่วงแรกของเขา[15] ชีวิตส่วนตัวตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 ถึงต้นทศวรรษ 1990 พิตต์คบหากับนักแสดงร่วมของเขาหลายคน ซึ่งรวมถึงรอบิน กิฟเวนส์ (เฮดออฟเดอะคลาส),[16] จิล เชลัน (จิตสยอง หลอนซ่อนตาย)[16] และจูเลียต ลูวิส (เทพบุตรคนเดือด และ ฆาลิฟอร์เนีย)[17] หลังจากนั้น พิตต์ยังสานสัมพันธ์และหมั้นกับกวินเน็ธ พัลโทรว์ นักแสดงร่วมจากเรื่อง เซเว่น เจ็ดข้อต้องฆ่า ซึ่งทั้งคู่คบหากันตั้งแต่ ค.ศ. 1994 ถึง 1997[16] ใน ค.ศ. 1998 พิตต์ได้พบกับเจนนิเฟอร์ อนิสตัน จากซีรีส์เรื่อง เฟรนส์ ทั้งคู่สมรสกันเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2000 ในพิธีส่วนตัวที่แมลิบู[18] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2005 พิตต์และอนิสตันประกาศว่าพวกเขาตัดสินใจแยกทางกัน สองเดือนต่อมาอนิสตันฟ้องหย่าโดยเธอกล่าวถึงความแตกต่างของทั้งคู่ที่เข้ากันไม่ได้[19] แม้จะมีรายงานจากสื่อว่าพิตต์และอนิสตันมีความสัมพันธ์ที่รุนแรง พิตต์กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 ว่าเขาและอนิสตัน "เป็นห่วงซึ่งกันและกัน" และเสริมว่าทั้งคู่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของกันและกัน[20] ระหว่างการฟ้องหย่าของพิตต์ ความสัมพันธ์ของเขากับแอนเจลีนา โจลี นักแสดงร่วมจากเรื่อง นายและนางคู่พิฆาต ดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชน โจลีและพิตต์ระบุว่าพวกเขาตกหลุมรักกันในกองถ่าย[21][22] และเขายืนยันว่าไม่มีการนอกใจอนิสตันในระหว่างที่ทั้งคู่คบกันแน่นอน[21] ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2005 หนึ่งเดือนหลังจากที่อนิสตันฟ้องหย่า ปาปารัสซีได้ถ่ายภาพของพิตต์ โจลีและแมดด็อกซ์ลูกชายของเธอที่ชายหาดในประเทศเคนยา โดยสื่อต่างตีความภาพว่าเป็นหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างพิตต์และโจลี ตลอด ค.ศ. 2005 ทั้งสองได้พบเจอกันบ่อยมากขึ้น จนทำให้สื่อบันเทิงต่างขนานนามทั้งคู่ว่า "แบรนเจลีนา"[23] เมื่อวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2006 โจลียืนยันกับนิตยสาร พีเพิล ว่าเธอตั้งครรภ์กับพิตต์ และยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นครั้งแรก พิตต์และโจลีประกาศการหมั้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 2012 หลังจากคบหากันได้ 7 ปี[24] ทั้งคู่สมรสกันในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2014 ในพิธีส่วนตัวที่ประเทศฝรั่งเศส[25] เมื่อวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 2016 โจลีฟ้องหย่าพิตต์โดยกล่าวถึงความแตกต่างที่เข้ากันไม่ได้[26] อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ แบรด พิตต์
|