Share to:

 

แอมริก ลาปอร์ต

แอมริก ลาปอร์ต
ลาปอร์ตขณะเล่นให้กับอันนัศร์ ในปี 2023
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม แอมริก ลาปอร์ต
วันเกิด (1994-05-27) 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 (30 ปี)
สถานที่เกิด อาแฌ็ง, ฝรั่งเศส
ส่วนสูง 1.89 m (6 ft 2 in)
ตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็ก
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
อันนัศร์
หมายเลข 27
สโมสรเยาวชน
2000–2009 ซูว์อาแฌ็ง
2009–2010 บายอน
2010–2011 อัตเลติกเดบิลบาโอ
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2011–2012 บัสโกเนีย 33 (2)
2012 อัตเลติกเดบิลบาโอ เบ 8 (0)
2012–2018 อัตเลติกเดบิลบาโอ 161 (7)
2018–2023 แมนเชสเตอร์ซิตี 192 (9)
2023– อันนัศร์ 51 (4)
ทีมชาติ
2011 ฝรั่งเศส อายุไม่เกิน 17 ปี 11 (1)
2011–2012 ฝรั่งเศส อายุไม่เกิน 18 ปี 9 (0)
2012–2013 ฝรั่งเศส อายุไม่เกิน 19 ปี 12 (1)
2013–2016 ฝรั่งเศส อายุไม่เกิน 21 ปี 19 (1)
2021– สเปน 39 (2)
เกียรติประวัติ
ตัวแทนของ ธงชาติสเปน สเปน
ยูฟ่าเนชันส์ลีก
รองชนะเลิศ อิตาลี 2021
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2022
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2021

แอมริก ลาปอร์ต (ฝรั่งเศส: Aymeric Laporte; เกิด 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1994) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กให้กับอัลนาสเซอร์และทีมชาติสเปน

ลาปอร์ตเป็นนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส (เชื้อสายบาสก์) คนที่สองถัดจากบิเชนเต ลิซาราซู (Bixente Lizarazu) ที่เล่นให้กับสโมสรอัตเลติกเดบิลบาโอ[1]

ระดับทีมชาติ

ฝรั่งเศส

ลาปอร์ต เป็นตัวแทนของฝรั่งเศส ในระดับอายุไม่เกิน 17 ปี, 18 ปี ,19 ปี และ 21 ปี[2][3] เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมรองชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ในปี ค.ศ. 2013 หลังพ่ายแพ้ต่อเซอร์เบีย 0–1 ในรอบชิงชนะเลิศ ที่ลิทัวเนีย และได้รับเลือกให้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมของการแข่งขัน[4]

วันที่ 24 มีนาคม 2016 ในรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี 2017 รอบคัดเลือกที่พบกับสกอตแลนด์ซึ่งจัดขี้นที่อ็องเฌ ลาปอร์ตถูกนำตัวออกจากสนามเนื่องจากกระดูกน่องขวาหักและข้อเท้าขวาหลุดทำให้เขาต้องพักตลอดฤดูกาล[5] โดยก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคม 2015 เขาให้สัมภาษณ์ว่าเขาจะเลือกเล่นให้กับสเปน หากไม่ถูกฝรั่งเศสเรียกติดทีมไปแข่งขันยูโร 2016[3]

เดือนสิงหาคม 2016 ลาปอร์ตได้เริ่มต้นกระบวนการที่ทำให้เขามีสิทธิ์ในการลงเล่นให้กับสเปนตามความต้องการของยูเลน โลเปเตกี ผู้จัดการทีมชาติสเปนคนใหม่[6] เดือนถัดมาเขาถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ในการแข่งฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกที่พบกับบัลแกเรียและเนเธอร์แลนด์ในเดือนตุลาคม[7] และเขาตัดสินใจที่จะไม่รับสัญชาติสเปนโดยจะลงเล่นให้กับฝรั่งเศสต่อไป[8] อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับการแข่งขันสองนัดข้างต้น

ในเดือนสิงหาคม 2019 เขาถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสในการแข่งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือกในนัดที่พบกับแอลเลเนียและอันดอร์รา[9] อย่างไรก็ตามสองวันหลังจากนั้นเขาได้รับบาดเจ็บจากการลงเล่นให้กับสโมสรทำให้ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการแข่งขันดังกล่าว

สเปน

เดือนพฤษภาคม 2021 คณะรัฐมนตรีสเปนได้มอบสัญชาติสเปนให้แก่ลาปอร์ตตามกระบวนการขั้นต้นของราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน จากนั้นฟีฟ่าได้รับรองการเปลี่ยนสัญชาติของเขาในสัปดาห์ถัดมาและอนุญาตให้เขาลงเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020[10] ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่า "การเล่นให้กับสเปนเป็นไปไม่ได้" และเขาจะไม่ยื่นขอถือสองสัญชาติ[11]

ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2021 ลาปอร์ตมีชื่อใน 24 คนของสเปน ในการแข่งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020[12] และในวันที่ 4 มิถุนายน เขาลงเล่นนัดแรกให้กับสเปนในเกมกระชับมิตรที่เสมอกับโปรตุเกส 0–0[13] เขาทำประตูแรกให้กับสเปนเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ที่ชนะสโลวาเกีย 5–0[14]

อ้างอิง

  1. Athletic Bilbao makes easy work of Hapoel IKS; Fox Sports, 29 November 2012
  2. "Laporte, convocado para la sub 21 por Francia" [Laporte, called up to France under-21]. Mundo Deportivo (ภาษาสเปน). Barcelona. 27 February 2014. สืบค้นเมื่อ 22 April 2014.
  3. 3.0 3.1 "Athletic Bilbao's Aymeric Laporte would consider Spain call". ESPN FC. 7 October 2015. สืบค้นเมื่อ 11 April 2016.
  4. "Technical report" (PDF). UEFA. pp. 18–19. สืบค้นเมื่อ 11 April 2016.
  5. De Menezes, Jack (25 March 2016). "Aymeric Laporte injury: Manchester City transfer plans dealt a blow as top target suffers fractured ankle". The Independent. London. สืบค้นเมื่อ 11 April 2016.
  6. Ortego, Enrique (30 August 2016). "Lopetegui 'ficha' a Laporte" [Lopetegui 'signs' Laporte]. Marca (ภาษาสเปน). Madrid. สืบค้นเมื่อ 18 September 2016.
  7. "Équipe de France: Laporte arrive, Fekir revient" [France team: Laporte arrives, Fekir returns]. Le Figaro (ภาษาฝรั่งเศส). Paris. 29 September 2016. สืบค้นเมื่อ 30 September 2016.
  8. "Aymeric Laporte: "Je pouvais prendre la nationalité espagnole, je ne l'ai pas fait"" [Aymeric Laporte: "I could take Spanish nationality, I did not do so"] (ภาษาฝรั่งเศส). BFM TV. 3 October 2016. สืบค้นเมื่อ 16 June 2017.
  9. "Laporte included in France squad for Euro 2020 qualifiers". Yahoo Sports. 29 August 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-10-04. สืบค้นเมื่อ 29 August 2019.
  10. "Report: Laporte can play for Spain at Euro 2020 after nationality approved". Agence France-Presse. 11 May 2021.
  11. Jones, Matt (16 December 2018). "Aymeric Laporte Says Playing for Spain 'Out of the Question' Amid France Absence". Bleacher Report.
  12. "Spain leave Sergio Ramos out of Euro 2020 squad and call up Aymeric Laporte". The Guardian. 24 May 2021. สืบค้นเมื่อ 24 May 2021.
  13. Jabbar, Nasir (2021-06-04). "Aymeric Laporte Produces Sublime Piece Of Defending On Spain Debut". SportBible (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-04.[ลิงก์เสีย]
  14. O'Brien, Sean (2021-06-23). "'Terrible' Slovakia gift Spain biggest Euros win as Laporte justifies switch". talkSPORT (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-06-23.

แหล่งข้อมูลอื่น

Kembali kehalaman sebelumnya