Share to:

 

มิเกล เมริโน

มิเกล เมริโน
เมริโน กับเรอัลโซซิเอดัด ในปี ค.ศ. 2018
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม มิเกล เมริโน ซาซอน[1]
วันเกิด (1996-06-22) 22 มิถุนายน ค.ศ. 1996 (28 ปี)[2]
สถานที่เกิด ปัมโปลนา สเปน[2]
ส่วนสูง 1.88 เมตร (6 ฟุต 2 นิ้ว)[2]
ตำแหน่ง กองกลาง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
อาร์เซนอล
หมายเลข 23
สโมสรเยาวชน
เซเด อามิโก
โอซาซูนา
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2014 โอซาซูนาเบ 5 (0)
2014–2016 โอซาซูนา 63 (5)
2016–2017 โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 8 (0)
2017นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (ยืมตัว) 7 (0)
2017–2018 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 17 (1)
2018–2024 เรอัลโซซิเอดัด 125 (13)
2024– อาร์เซนอล 0 (0)
ทีมชาติ
2014–2015 สเปน อายุไม่เกิน 19 ปี 12 (1)
2016–2019 สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี 20 (4)
2021  สเปน โอลิมปิก 6 (1)
2020– สเปน 11 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 23:38, 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021

มิเกล เมริโน ซาซอน (สเปน: Mikel Merino Zazón; เกิดวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1996) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งกองกลางให้แก่อาร์เซนอล สโมสรในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติสเปน

สโมสรอาชีพ

โอซาซูนา

เมริโนเกิดในปัมโปลนา แคว้นนาวาร์ เขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับทีมเยาวชนของเซเด อามิโก ก่อนย้ายไปเซอา โอซาซูนา[3] ในปี ค.ศ. 2014 เขาได้ลงเล่นในระดับอาชีพกับทีมสำรองของสโมสรเป็นครั้งแรกในเตร์เซราดิบิซิออน[3]

ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2014 เมริโนลงสนามนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่ ในนัดเหย้าที่พวกเขาเอาชนะบาร์เซโลนา เบ 2–0 ในเซกุนดาดิบิซิออน[4] ในวันที่ 21 ธันวาคม เขาทำประตูแรกในระดับอาชีพได้สำเร็จช่วยให้ทีมของเขาเอาชนะอูเด ลัสปัลมัส 2–1 ที่กรันกานาเรีย[5]

เมริโนได้รับการลงทะเบียนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 โดยได้สวมเสื้อหมายเลข 8[6] เขาลงเล่นมากถึง 29 นัดพร้อมกับทำ 1 ประตู ช่วยให้โอซาซูนารอดตกชั้นอย่างหวุดหวิด

ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 เขาทำสองประตูช่วยให้โอซาซูนาเอาชนะเซเด นูมันเซีย 3–2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น ในวันที่ 8 มิถุนายน ในรอบรองชนะเลิศนัดแรก เขายังทำสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะฌิมนัสติก 3–1 ในอีก 3 วันต่อมาซึ่งโอซาซูนาต้องออกไปเยือนที่แคว้นกาตาลุญญา เขายังทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ให้แก่ฆาบิเอร์ ฟลัญโญ ช่วยให้ทีมเอาชนะ 2–3 รวมผลสองนัดชนะ 6–3[7] ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับฌิโรนา โดยเขาได้ลงเล่นทั้งสองนัด ช่วยให้ทีมเอาชนะในนัดแรกที่เอลซาดาร์ 2–1[8] และชนะในนัดที่สองที่มุนติลิบี 0–1 รวมผลสองนัดชนะ 3–1[9] ทำให้พวกเขาเลื่อนชั้นสู่ลาลิกาได้อีกครั้ง หลังตกชั้นลงมาในปี ค.ศ. 2014

ดอร์ทมุนท์

ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เมริโนได้เซ็นสัญญาร่วมทีมกับโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์เป็นเวลา 5 ปี โดยจะย้ายร่วมทีมในวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป ด้วยค่าตัว 3.8 ล้านยูโร[10] ในวันที่ 14 ตุลาคม เขาได้ลงเล่นในบุนเดิสลีกานัดแรก ในนัดที่เสมอกับแฮร์ทา เบเอ็สเซ 1–1 โดยลงเล่นครบ 90 นาทีในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก คู่กับมัททีอัส กินเทอร์[11]

ตลอดฤดูกาลเขาได้ลงเล่นเพียง 9 นัด โดย 8 นัดเกิดขึ้นในบุนเดิสลีกา และอีกหนึ่งนัดในเดเอ็ฟเบ-โพคาล ซึ่งลงเล่นเพียงนัดเดียวเป็นเวลา 19 นาทีในรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่เอาชนะชปอร์ทฟร็อยน์เดอล็อทเทอ 3–0 ซึ่งสุดท้ายทีมของเขาสามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้[12]

นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (ยืมตัว)

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2017 เมริโนย้ายร่วมทีมนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวระยะยาวซึ่งมีข้อตกลงตามเงื่อนไขที่บังคับให้ทีมต้องซื้อไปร่วมทีมถาวร หากลงเล่นตามจำนวนที่กำหนด[13][14][15]

เขาได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกนัดแรกในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ในนัดเหย้าที่แพ้ให้กับทอตนัมฮอตสเปอร์ 0–2 จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทนดไวต์ เกย์ล ในนาทีที่ 76[16]ในวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2017 เขาทำประตูแรกและเป็นประตูเดียวให้กับทีมได้ ช่วยให้ทีมเอาชนะคริสตัลพาเลซ 1–0 ในพรีเมียร์ลีก ที่เซนต์เจมส์พาร์ก ตลอดฤดูกาลเขาได้ลงเล่น 25 นัด ช่วยให้ทีมจบลำดับที่ 10 ของตารางพรีเมียร์ลีก[17]

เรอัลโซซิเอดัด

ในวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 เมริโนได้ย้ายร่วมทีมเรอัลโซซิเอดัด หลังสัญญาถาวรของเขากับนิวคาสเซิลเพิ่งเริ่มต้นเมื่อ 12 วันก่อน[18] ซึ่งไม่มีการเปิดเผยค่าตัวสำหรับการย้ายทีมครั้งนี้ แต่มีรายงานออกมาว่าอยู่ราว 12 ล้านยูโร[19] เขาได้ลงเล่นในลาลิกานัดแรกในวันที่ 188 สิงหาคม ในนัดที่เอาชนะบิยาร์เรอัล 2–1 ที่เอสตาดิโอเดลาเซรามิกา โดยได้ลงเล่น 59 นาที[20] ในวันที่ 21 กันยายน เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในเกมที่เอาชนะเอเซเด อูเอสกา 0–1 ที่เอลอัลโกรัซ[21] ในวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2021 เขายังได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลโกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2019–20 พบกับอัตเลติกบิลบาโอที่ลาการ์ตูฆา เขาได้ลงเล่นครบ 90 นาทีช่วยให้ทีมเอาชนะทีมร่วมแคว้นประเทศบาสก์ 0–1 ทำให้โซซิเอดัดชนะเลิศการแข่งขันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ค.ศ. 1987[22]

สถิติอาชีพ

สโมสร

ณ วันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2022[23]
Appearances and goals by club, season and competition
สโมสร ฤดูกาล ลีก ถ้วย ลีกคัพ ระดับทวีป อื่น ๆ รวม
ลีก ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
โอซาซูนา เบ 2013–14 เตร์เซราดิบิซิออน 5 0 5 0
รวม 5 0 5 0
โอซาซูนา 2014–15 เซกุนดาดิบิซิออน 29 1 0 0 29 1
2015–16 34 4 0 0 4[a] 3 38 7
รวม 63 5 0 0 67 8
โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 2016–17 บุนเดิสลีกา 8 0 1 0 0 0 0 0 9 0
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (ยืมตัว) 2017–18 พรีเมียร์ลีก 7 0 0 0 0 0 7 0
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 17 1 1 0 0 0 18 1
รวม 24 1 1 0 0 0 25 1
เรอัลโซซิเอดัด 2018–19 ลาลิกา 29 3 3 1 32 4
2019–20 36 5 7[b] 1 43 6
2020–21 26 2 1 0 8[c] 0 1[d] 0 36 2
2021–22 34 3 3 0 6[c] 1 43 4
รวม 125 13 14 2 14 1 1 0 154 16
รวมทั้งหมด 229 22 16 2 0 0 14 1 5 3 260 27
  1. ลงเล่นในเซกุนดาดิบิซิออน รอบเพลย์-ออฟ
  2. รวมถึงการลงเล่นในโกปาเดลเรย์ รอบชิงชนะเลิศ 2020 ซึ่งเลื่อนมาแข่งขันในปี ค.ศ. 2021)
  3. 3.0 3.1 ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีก
  4. Appearance(s) in Supercopa de España

ทีมชาติ

ณ วันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2022[24]
สเปน
ปี ลงเล่น ประตู
2020 6 0
2021 5 0
รวม 11 0

เกียรติประวัติ

สโมสร

ดอร์ทมุนท์

เรอัลโซซิเอดัด

ทีมชาติ

สเปน อายุไม่เกิน 19 ปี

สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี

สเปน โอลิมปิก

สเปน

สเปน

  • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: ชนะเลิศ 2024

ส่วนบุคคล

อ้างอิง

  1. "Updated squads for 2017/18 Premier League confirmed". Premier League. 2 February 2018. สืบค้นเมื่อ 15 February 2018.
  2. 2.0 2.1 2.2 "Mikel Merino". Eurosport. สืบค้นเมื่อ 20 September 2020.
  3. 3.0 3.1 Astráin, Fermín (17 March 2014). "Mikel Merino, noveno juvenil en debutar" [Mikel Merino, ninth youth player to debut]. Diario de Navarra (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 23 August 2014.
  4. "El equipo también responde" [The team also answer] (ภาษาสเปน). CA Osasuna. 23 August 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-03. สืบค้นเมื่อ 23 August 2014.
  5. "Osasuna asalta el Gran Canaria" [Osasuna take Gran Canaria]. Marca (ภาษาสเปน). 21 December 2014. สืบค้นเมื่อ 21 December 2014.
  6. "Mikel Merino llevará el dorsal 8 y Kenan Kodro, el 9" [Mikel Merino will have the number 8 jersey and Kenan Kodro, the 9]. Diario de Navarra (ภาษาสเปน). 31 January 2015. สืบค้นเมื่อ 3 February 2015.
  7. "Merino: "No sé si le saldré barato o caro al Borussia, me centro en jugar"" [Merino: "I don't know if Borussia will get me for a lot of money or not, I just play"]. Diario de Navarra (ภาษาสเปน). 22 May 2016. สืบค้นเมื่อ 8 June 2016.
  8. García, Gregorio (8 June 2016). "Osasuna toma ventaja, pero no sentencia" [Osasuna get the upper hand, but do not get job done]. Marca (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 8 June 2016.
  9. García, Gregorio (11 June 2016). "Y el primer finalista es... Osasuna" [And the first finalists are... Osasuna]. Marca (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 14 June 2016.
  10. "Borussia Dortmund verpflichtet Mikel Merino" [Borussia Dortmund acquire Mikel Merino] (ภาษาเยอรมัน). Borussia Dortmund. 15 February 2016. สืบค้นเมื่อ 15 February 2016.
  11. Brack, Tim (14 October 2016). "Merino überzeugt als Ballmagnet" [Merino gets job done as ball magnet] (ภาษาเยอรมัน). Sport1. สืบค้นเมื่อ 15 October 2016.
  12. DFB-Pokal, 2016/2017, Viertelfinale dfb.de สืบค้นเมื่อ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
  13. Valentine, Ben (28 July 2017). "Newcastle land Mikel Merino on loan from Borussia Dortmund". Goal. สืบค้นเมื่อ 28 July 2017.
  14. "Fix! Dortmunds Merino wechselt zu Newcastle" [Done! Dortmund's Merino moves to Newcastle] (ภาษาเยอรมัน). kicker. 28 July 2017. สืบค้นเมื่อ 28 July 2017.
  15. "Mikel Merino signs for Newcastle from Borussia Dortmund in permanent deal". BBC Sport. 13 October 2017. สืบค้นเมื่อ 13 October 2017.
  16. Newcastle 0-2 Tottenham bbc สืบค้นเมื่อ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
  17. Walker, Michael (21 October 2017). "Mikel Merino's late header gives Newcastle victory over Crystal Palace". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 18 July 2020.
  18. "Latest news: Mikel Merino joins Real Sociedad". Newcastle United F.C. 12 July 2018. สืบค้นเมื่อ 12 July 2018.
  19. Vicente, Álvaro (16 July 2018). "Mikel Merino: "Si Urrutia ha dicho que no hubo interés, no soy nadie para decir lo contrario"" [Mikel Merino: "If Urrutia has said that there was no interest, I am not one to say the opposite"]. El Correo (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 17 July 2018.
  20. "La Real Sociedad comienza la campaña venciendo en el Estadio de la Cerámica" [Real Sociedad start the campaign winning at the Estadio de la Cerámica] (ภาษาสเปน). La Liga. 18 August 2018. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  21. Egea, Pablo (21 September 2018). "Mikel Merino gives nine-man Real Sociedad victory away to Huesca". Marca (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 18 July 2020.
  22. "Merino lidera el éxito de un grupo joven y atrevido" (ภาษาสเปน). EL CORREO. 3 April 2021. สืบค้นเมื่อ 9 November 2021.
  23. ข้อมูลของ มิเกล เมริโน ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
  24. "Mikel Merino". EU-Football.info. สืบค้นเมื่อ 20 September 2020.
  25. Reidy, Paul (3 April 2021). "Athletic Club 0–1 Real Sociedad: result, summary, goal". Diario AS. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-19. สืบค้นเมื่อ 3 April 2021.
  26. Lowe, Sid (3 April 2021). "Real Sociedad beat Athletic to claim Copa del Rey and Basque glory". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 3 April 2021.
  27. Haslam, Andrew (19 July 2015). "Spain see off Russia for seventh Under-19 crown". UEFA. สืบค้นเมื่อ 20 July 2015.
  28. Begley, Emlyn (30 June 2019). "Spain U21 2–1 Germany U21". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 1 July 2019.
  29. "Germany U21 1–0 Spain U21". BBC Sport. 30 June 2017. สืบค้นเมื่อ 11 September 2019.
  30. "Tokyo Olympics 2021 medal count updates: who has won more? Tally by country, today, 7 August". Diario AS. 7 August 2021. สืบค้นเมื่อ 23 August 2021.
  31. "Spain 1–2 France". UEFA. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 12 October 2021.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  32. "Mikel Merino named Liga Adelante Player of the Month for June". La Liga. 28 June 2016. สืบค้นเมื่อ 29 June 2016.

แหล่งข้อมูลอื่น

Kembali kehalaman sebelumnya