เปา ตอร์เรส
เปา ฟรันซิสโก ตอร์เรส (สเปน: Pau Francisco Torres; เกิด 16 มกราคม ค.ศ. 1997) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กให้กับแอสตันวิลลา สโมสรในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติสเปน สโมสรอาชีพเปา ตอร์เรส เกิดในบิยาร์เรอัล จังหวัดกัสเตยอน แคว้นบาเลนเซีย เขาเข้าร่วมทีมเยาวชนของบิยาร์เรอัล สโมสรในบ้านเกิด เมื่ออายุเพียง 5 ปี ก่อนที่เมื่อเขาอายุ 19 ปี เขาจะถูกดันขึ้นสู่ทีมสำรองของสโมสรซึ่งขณะนั้นลงเล่นอยู่ในเซกุนดาดิบิซิออน เบ โดยเขาได้ลงเล่นครั้งแรกในวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2016 ในนัดที่พวกเขาออกไปเยือนอูเอ กูร์นัลยา โดยทีมของเขาแพ้ด้วยคะแนน 1–0[2] ก่อนที่เขาจะทำประตูแรกได้ในวันที่ 8 ตุลาคม ปีเดียวกัน ในนัดเหย้ากับบาดาโลนา เป็นประตูขึ้นนำ 1–0 ก่อนที่จะจบลงด้วยการเสมอกัน 2–2[3] หลังจากเขาลงเล่น 17 นัดจาก 18 นัดแรกของฤดูกาลที่บิยาร์เรอัล เบ แข่งขัน ในวันที่ 20 ธันวาคม เขาได้ถูกเรียกตัวขึ้นไปลงเล่นกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมโกปาเดลเรย์ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง กับเซเด โตเลโด โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวลงเล่นแทนบิกตอร์ รุยซ์ ในนาทีที่ 80 โดยผลจบลงด้วยการเสมอกัน 1–1 รวมผลสองนัดชนะไปด้วยคะแนน 4–1[4] ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่เกิดในบิยาร์เรอัลที่ลงเล่นให้กับสโมสรเป็นคนแรกในรอบ 13 ปี[5] ในนัดถัดมาในอีก 21 วันถัดมา เขากลับไปลงเล่นกับทีมสำรองอีกครั้งและทำ 1 ประตู ช่วยให้ทีมเอาชนะอูเอ กูร์นัลยา 4–2 โดยเป็นประตูสุดท้ายของเขาที่ทำให้กับบิยาร์เรอัล เบได้ โดยตลอดฤดูกาลเขาลงเล่น 34 นัด จากที่บิยาร์เรอัล เบ แข่งขันทั้งหมด 38 นัด[6] ในฤดูกาลถัดมา เขาได้ถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลลาลิกา ก่อนที่จะได้ลงเล่นในนัดที่ 13 ของฤดูกาล ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ในนัดที่พวกเขาแพ้ให้กับเซบิยา 2–3 จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทนมานู ตริเกโรส ในนาทีที่ 84[7] ในอีก 10 วันถัดมา เขาได้ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีกเป็นครั้งแรก โดยเป็นเกมในรอบแบ่งกลุ่ม พบกับมัคคาบีเทลอาวีฟที่เอสตาดิโอเดลาเซรามิกา บิยาร์เรอัลแพ้ด้วยคะแนน 1–0[8] ตลอดฤดูกาลเขาลงเล่น 4 นัดให้กับทีมชุดใหญ่และอีก 31 นัดให้กับทีมสำรอง ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2018 เขาถูกยืมตัวให้ไปลงเล่นกับมาลากาในเซกุนดาดิบิซิออน[9] เขาได้ลงเล่นนัดแรกในวันที่ 18 สิงหาคม ในนัดเปิดฤดูกาลกับลูโก โดยยืนในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก คู่กับลุยส์ เอร์นันเดซ โดยได้ลงเล่นครบ 90 นาทีช่วยให้ทีมเอาชนะไปด้วยคะแนน 1–2[10] ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เขาทำประตูแรกให้กับมาลากาได้ในเกมลีกนัดที่ 12 พบกับโอซาซูนาที่เอลซาดาร์ เป็นประตูขึ้นนำ 0–1 ก่อนที่สุดท้ายจะถูกแซงเอาชนะไป 2–1[11] โดยตลอดฤดูกาลในทุกรายการเขาพลาดการลงเล่นเพียง 5 นัด[12] ช่วยให้ทีมเข้าสู่รอบเพลย์-ออฟเลื่อนชั้น ก่อนที่จะแพ้ให้กับเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา ในรอบรองชนะเลิศ[13] หลังหมดสัญญายืมตัวกลับมาลากา เปา ตอร์เรส ก็ได้ถูกเรียกกลับสู่บิยาร์เรอัล และได้เป็นสมาชิกของทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ ใน 20 นัดแรกที่บิยาร์เรอัลลงแข่งขันตัวเขาได้ลงเล่นครบทุกนาที[14] ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2019 เขาได้ต่อสัญญากับทีมออกไปจนถึงปี ค.ศ. 2024[15] ในอีกสามวันถัดมา เขาสามารถทำประตูแรกในลาลิกาได้ในนัดที่ออกไปเยือนเซอา โอซาซูนา เป็นประตูขึ้นนำ 0–1 ในนาทีที่ 5 ก่อนที่ทีมของเขาจะแพ้ไปด้วยคะแนน 2–1[16] ตลอดฤดูกาลเขาลงเล่นในนัดอย่างเป็นทางการ 38 นัดจากที่บิยาร์เรอัลลงเล่น 45 นัด พร้อมกับทำ 2 ประตู[17]ช่วยให้ทีมจบลำดับที่ห้าบนตารางคะแนนลาลิกา ซึ่งจะได้สิทธิ์ลงเล่นยูฟ่ายูโรปาลีกในฤดูกาลถัดไป ในฤดูกาล 2020–21 เขายังคงยึดตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก คู่กับราอุล อัลบิโอลได้อย่างต่อเนื่อง[18] ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 เขายังทำประตูให้กับบิยาร์เรอัลได้ในเกมลีกนัดที่ 8 กับเรอัลบายาโดลิด ช่วยให้ทีมเอาชนะไป 2–0[19] รวมถึงในวันที่ 13 ธันวาคม เขาทำประตูให้บิยาร์เรอัลขึ้นนำเรอัลเบติส 1–0 ที่เบนิโต บิยามาริน ก่อนที่จะถูกตีเสมอเป็น 1–1 และจบลงด้วยคะแนนนี้[20]ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2021 เขายังทำประตูได้ในเกมยูฟ่ายูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก พบกับดือนามอกือยิว ที่สนามโอลิมปิสกีเนชันแนลสปอตส์คอมเพล็กซ์ เป็นประตูขึ้้นนำ 1–0 ในนาทีที่ 30 ก่อนที่ทีมจะเอาชนะไป 2–0 รวมผลในนัดที่สองเป็น 4–0[21] หลังจากนั้น บิยาร์เรอัล ได้ผานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่กดัญสก์ ซึ่งเขาก็ได้ลงเล่นในนัดนี้โดยทั้งสองทีมได้เสมอกันใน 120 นาที 1–1 ทำให้ต้องดวลลูกโทษตัดสิน โดยเปา ตอร์เรสได้รับหน้าที่นี้เป็นคนที่ 10 หลังจาก 9 คนก่อนหน้านี้ของทั้งสองทีมทำเข้าประตูทั้งหมด ซึ่งเขาก็ทำประตูผ่านมือของดาบิด เด เฆอา เข้าไปสำเร็จเช่นกัน ก่อนที่ เด เฆอา จะดวลลูกโทษพลาด ทำให้บิยาร์เรอัลชนะในช่วงการดวลลูกโทษ 11–10[22]คว้าแชมป์รายการหลักเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และเป็นแชมป์แรกในระดับอาชีพของเปา ตอร์เรส ในวันพุธที่ 12 กรกฎาคม 2023 เปาเซ็นสัญญากับแอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 31.5 ล้านปอนด์ ตามรายงาน[23] ระดับทีมชาติตอร์เรส ได้รับการเรียกติดทีมชาติสเปนครั้งแรกในระดับรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เพื่อแข่งขันกระชับมิตรกับโรมาเนีย และออสเตรีย โดยเขาได้ลงเล่นครบ 90 นาทีในเกมกับออสเตรียโดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 3–0 ซึ่งเป็นนัดเดียวของเขาที่ลงเล่นให้กับสเปนในระดับเยาวชน[24] ในวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2019 โรเบิร์ต โมเรโน ได้เรียกเขาติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่เพื่อแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 กับนอร์เวย์และสวีเดน[25] เขาไม่ได้ลงเล่นในสองนัดนี้ ก่อนที่จะถูกเรียกตัวมาอีกรั้งในเดือนถัดมาเพื่อแข่งขันกับ มอลตาและโรมาเนีย โดยได้ลงเล่นในนัดกับมอลตาในวันที่ 15 พฤศจิกายน จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทนเซร์ฆิโอ ราโมส ในนาทีที่ 61 และทำประตูได้ในนาทีต่อมาเป็นประตูขึ้นนำ 3–0 ดานิ โอลโม ยังทำประตูได้ในเกมแรกของเขาในเกมนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่นักเตะทีมชาติสเปนทำประตูได้ในนัดแรกของเขาพร้อมกันสองประตูก่อนที่สเปนจะเอาชนะไป 7–0 ที่รามอนเดการ์รันซา ในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2020 เขายังได้ลงเล่นเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงครั้งแรกในเกมยูฟ่าเนชันส์ลีก กับเยอรมนี โดยยืนตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับเซร์ฆิโอ ราโมส โดยทั้งสองทีมเสมอกันไป 1–1[26] ในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 ลุยส์ เอนริเก ได้เรียกเปา ตอร์เรสเป็น 1 ใน 24 นักเตะทีมชาติสเปนเพื่อแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบสุดท้าย[27] สถิติอาชีพสโมสร
ทีมชาติ
ประตูในนามทีมชาติ
เกียรติประวัติบิยาร์เรอัล สเปน อายุไม่เกิน 23 ปี
สเปน
ส่วนบุคคล อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|