ไผ่ ลิกค์
ไผ่ ลิกค์ (เกิด 20 เมษายน พ.ศ. 2521) ชื่อเล่น ไผ่ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชร และประธานสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกำแพงเพชร อดีตเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ประวัติไผ่ ลิกค์ เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2521 เป็นบุตรของนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กับนางปราณี ลิกค์ (นามสกุลเดิม: โชติรัชต์กุล) มีน้องชาย คือ นาย ภูผา ลิกค์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีนิเทศศาสตรบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อแรกสำเร็จการศึกษาได้กลับมาสานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว แต่ด้วยความที่ชอบเครื่องจักรและยานยนต์มาตั้งแต่เด็ก จึงได้คิดเริ่มขยายธุรกิจมายังแวดวงรถยนต์และเต๊นท์รถมือสอง ที่มาของชื่อ "ไผ่ วันพอยท์"นั้น ปรากฏชื่อเข้าร่วมแข่งขันอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตมากหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นรายการแข่งเซอร์กิต, แดร๊ก, ดริฟท์หรือยิมคาน่า โดยนายไผ่เป็นหนึ่งในนักแข่งของทีมวันพอยท์ จึงเป็นที่มาของฉายา ไผ่ วันพอยท์[1] งานการเมืองหลังจากที่บิดาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองพร้อมกับกลุ่มบ้านเลขที่ 111 ไผ่ จึงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ต่อมาปี พ.ศ. 2554 ลงสมัครอีกครั้งในนามพรรคเพื่อไทยและได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก โดยเอาชนะนายสุขวิชชาญ มุสิกุล บุตรชายนายปรีชา มุสิกุล จากพรรคประชาธิปัตย์ และเข้าดำรงตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ไผ่ ได้ย้ายมาสังกัด พรรคพลังประชารัฐ และได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 กระทั่งวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ[2] ในปี พ.ศ. 2565 เขาพร้อมกับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจำนวนหนึ่งซึ่งรวมตัวในนามกลุ่มธรรมนัสได้ย้ายไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย และเขารับตำแหน่งเลขาธิการพรรค แต่ในที่สุดในปี พ.ศ. 2566 สมาชิกกลุ่มดังกล่าวก็ย้ายกลับมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เช่นเดิม ในปี พ.ศ. 2566 มีกระแสข่าวว่า ไผ่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ แต่ในคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1 กลับไม่ปรากฏชื่อของเขาในตำแหน่งดังกล่าวแต่อย่างใด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2567 ในการปรับคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 2ไผ่ได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งเดิม แต่เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดปัญหา จึงทำให้ไผ่ตัดสินใจไม่รับตำแหน่งดังกล่าวและต้องส่งอรรถกร ศิริลัทธยากรมาแทนที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 2[3] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไผ่ ลิกค์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 3 สมัย คือ
ข่าวในสังคมไผ่ ลิกค์ ตกเป็นข่าวดังพาดหัวหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) เชิญตัวเข้าให้ข้อมูลถึงกรณีที่มารถลัมโบร์กีนี อะเวนตาโดร์ คันต้องสงสัย ที่นายไผ่ได้เกี่ยวข้องในการร่วมเป็นนายหน้ากับเพื่อนของตน ประสานให้ผู้ซื้อมาดูรถคันดังกล่าว นายไผ่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ในทางปรกติเมื่อมีความต้องการซื้อในสินค้าประเภทรถยนต์ที่ตนดำเนินธุรกิจอยู่ และตนเองมีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบสภาพรถซุปเปอร์คาร์ ตนจึงได้เสาะหาซุปเปอร์คาร์และได้ข้อสรุปจนมาแนะนำรถลัมบอร์กินี่รุ่นและราคาที่ใกล้เคียงกันให้เลือก 3 คัน ปัจจุบันแม้รถคันตามข่าวจะมีการเปลี่ยนมือกัน แต่ตนก็ยังไม่ได้รับค่านายหน้าหรือผลประโยชน์ใดใดตอบแทนแม้แต่น้อย สามารถตรวจสอบได้ ตนเพิ่งรู้จักชื่อนายไซซะนะและทราบว่ารถยนต์คันนี้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวพันกับขบวนการฟอกเงินและการค้ายาเสพติดก็เป็นเวลาเดียวกับคนทั้งประเทศในเวลานี้" นายไผ่กล่าว เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|