กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่
กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ (เกิด 30 ธันวาคม พ.ศ. 2490)[1] เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ 2 สมัย อดีตกรรมการบริหารพรรคความหวังใหม่ และอดีตประธานกรรมการจัดงานประชุมนานาชาติ 1990 JCI ASPAC Chiangmai Conference [2] ประวัติกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2490 เป็นธิดาของนายเฉลิม และนางคำแปง โกไศยกานนท์ มีพี่น้อง 5 คน สมรสกับ ธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่ มีธิดา 2 คน คือ ร้อยเอกหญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และ แสงตะวัน ณ เชียงใหม่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตะวันพันดารา จำกัด การศึกษา
งานด้านการเมืองกิ่งกาญจน์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคความหวังใหม่ สองสมัย ได้แก่ การเลือกตั้ง พ.ศ. 2538 และการเลือกตั้ง พ.ศ. 2539 [3] แต่ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2544 ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ได้รับแต่งตั้งเป็นประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร [4] ต่อมาได้ย้ายเข้าสังกัดพรรคไทยรักไทย พร้อมกับสมาชิกส่วนใหญ่ของ พรรคความหวังใหม่ ในปี พ.ศ. 2545 ถึงแม้ เจ้าธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จะมีความเกี่ยวข้องเป็นญาติกัน [5] แต่ก็มีความขัดแย้งในทางการเมืองระหว่าง กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ กับ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ โดยรอยร้าวได้เริ่มก่อตัวขึ้นในปี พ.ศ. 2548 [6] ก่อนจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2548 กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ และ ร้อยเอกหญิง ดร.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ บุตรสาว ได้ตัดสินใจย้ายออกจากพรรคไทยรักไทย สมัครเข้าสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเกิดความขัดแย้งกับ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ในการจัดวางตัวผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ [7] ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ. 2550 กิ่งกาญจน์ ได้ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยได้รับมอบอำนาจให้วางตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่เชียงใหม่ ซึ่ง พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ และอดีตนายกรัฐมนตรี มีผลต่อการตัดสินใจในการย้ายพรรคในครั้งนี้ ผลการเลือกตั้ง กิ่งกาญจน์ และกลุ่มผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครจาก พรรคพลังประชาชน เกือบทั้งหมด กิ่งกาญจน์ ได้วางมือทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี ก่อนที่จะได้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 โดยการสนับสนุนของ เจ้าธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่ และ พรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจาก เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ พรรคเพื่อไทย [8] กิ่งกาญจน์ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งในการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 3 เชียงใหม่ พ.ศ. 2556 ในนามพรรคประชาธิปัตย์[9] โดยแข่งขันกับ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จากพรรคเพื่อไทย แต่ก็พ่ายแพ้การเลือกตั้ง [10] กิ่งกาญจน์ ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 สังกัดพรรคพลังประชารัฐ[11] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[12] ต่อมาในปี 2566 ได้ย้ายเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ[13] และลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เชียงใหม่เขต 4 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง งานด้านสังคมกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ เคยเป็นประธานชมรมลูกเสือชาวบ้านจังหวัดเชียงใหม่[14] และเป็นประธานอนุกรรมการปรับปรุงสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ รวมทั้งเป็นประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสันทรายวิทยาคม และโรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ และเคยได้รับมอบหมายให้เป็นประธานกรรมการจัดงานประชุมนานาชาติ 1990 JCI ASPAC Chiangmai Conference เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
|