บ้านปู
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: BANPU PUBLIC COMPANY LIMITED, ชื่อย่อ: BANPU)[2] เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ ธุรกิจไฟฟ้า และเทคโนโลยีพลังงาน ทั้งในและต่างประเทศมากว่า 30 ปี ในด้านการลงทุน สำรวจ พัฒนา และดำเนินการผลิตถ่านหินประเภทให้ความร้อน (Thermal Coal) ตลอดจนถ่านหินสำหรับอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก (Coking Coal) มีความเชี่ยวชาญทางด้านเหมืองถ่านหินแบบเปิดและเหมืองใต้ดิน บริษัทยังมีการพัฒนา Smart Energy Solution ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานธุรกิจใน 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ เป็นประธานกรรมการ นางสมฤดี ชัยมงคล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในการจัดอันดับ Forbes Global 2000 ประจำปี 2555 บ้านปูได้รับการจัดอันดับให้เป็น บริษัท มหาชนที่ 1707-ใหญ่ที่สุดในโลก[3]ประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้แก่ สินนท์ ว่องกุศลจิต "บ้านปู" เป็นผู้รับผิดชอบต่อการปล่อย แก๊สเรือนกระจก 0.11% ของอุตสาหกรรมทั่วโลกตั้งแต่ปี 2531 ถึง 2558 และเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนทำให้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มากที่สุดซึ่ง[4] มี "ความเสี่ยงต่อสุขภาพการดำรงชีวิตความมั่นคงทางอาหาร กับปริมาณความต้องการทางความมั่นคงของมนุษย์และการเติบโตทางเศรษฐกิจ”[5] ประวัติบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2526 ภายใต้ชื่อ บริษัท เหมืองบ้านปู จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท โดยบุคคลในตระกูล ว่องกุศลกิจและเอื้ออภิญญกุล มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าทำ สัญญาเช่าช่วงการทำเหมืองถ่านหินที่เหมืองบ้านปู (BP-1) อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและ อนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2532 บริษัทฯ ได้รับอนุมัติให้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2536 ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โดยเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)” ต่อมาบริษัทฯ ได้ขยายการทำเหมืองถ่านหินเพิ่มเติมทั้งใน ประเทศไทยและในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อดำเนินการผลิต และจำหน่ายถ่านหินทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายถ่านหินแล้ว บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจ ด้วยการรับจ้างขุดขนดินและถ่านหินให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สัญญาได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนกันยายน 2544) การผลิตและจำหน่ายแร่อุตสาหกรรม การให้บริการท่าเรือ (ซึ่งต่อมาบริษัทฯ ได้จำหน่ายธุรกิจท่าเรือและธุรกิจแร่) และการลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า และไอน้ำ ปัจจุบันบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจพลังงานทดแทน โดยมีการลงทุน ในประเทศไทย สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศมองโกเลีย สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา การประกอบธุรกิจปัจจุบันบริษัทฯ กำหนดกลยุทธ์การลงทุนเป็นแบบ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ผลิตและจัดจำหน่ายถ่านหิน โดยมีแหล่งผลิตอยู่ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประเทศออสเตรเลีย และสาธารณรัฐประชาชนจีน แก๊สธรรมชาติจากชั้นหินดินดาน (Shale Gas) มีแหล่งผลิตอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ในแหล่ง Marcellus Shale รัฐเพนซิลเวเนีย
Coal Trading หรือ การนำถ่านหินที่มีคุณภาพค่าความร้อนต่างกันมาผสมกัน ให้ได้คุณสมบัติใหม่และจัดจำหน่ายตรงตามความต้องการของลูกค้า
ธุรกิจไฟฟ้า ได้แก่ โรงไฟฟ้า BLCP โรงไฟฟ้าหงสาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (CHP) 3 แห่งในสาธารณรัฐประชาชนจีน (โจวผิง เจิ้งติ้ง และหลวนหนาน) และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจีนและญี่ปุ่น ข้อมูลการเงินของบริษัท[6]
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
แหล่งถ่านหิน
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |