ไทยแอร์เอเชีย SET:AAV เป็นบริษัทร่วมทุนสายการบินราคาประหยัดของประเทศมาเลเซีย แอร์เอเชีย กับ เอเชีย เอวิเอชั่น ของประเทศไทย ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศของแอร์เอเชียจากกรุงเทพมหานคร และเมืองอื่น ๆ ในประเทศไทย
ประวัติ
ในอดีต มีเพียงสายการบินแห่งชาติเท่านั้น ที่สามารถบินเส้นทางหลักๆ อาทิเช่น กรุงเทพ-เชียงใหม่ ด้วยการบินตรงแบบไม่จอดแวะพักที่ไหน ส่วนสายการบินอื่นๆ ที่จะทำเส้นทางบินไปเชียงใหม่จะต้องมีการหยุดพัก เช่นบางกอกแอร์เวย์ส จะต้องจอดแวะพักที่สนามบินสุโขทัย และ โอเรียนท์เอ็กซเพรสแอร์ (โอเรียนท์ไทย) ต้องไปจอดแวะพักที่สนามบินอู่ตะเภาก่อน จนกระทั่งรัฐบาลไทยได้เปิดเสรีการบินในปี พ.ศ. 2545 ทำให้สายการบินเอกชนอื่นที่มิใช่การบินไทยสามารถบินเส้นทางหลักทับกับสายการบินแห่งชาติได้ จึงทำให้มีสายการบินต้นทุนต่ำเกิดขึ้น
บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 19 กันยายน 2546[6] ประกอบธุรกิจสายการบินราคาประหยัดของประเทศไทยภายใต้ชื่อ ไทยแอร์เอเชีย ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554 บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2549) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในประเทศไทยถือหุ้นไทยแอร์เอเชียในสัดส่วนร้อยละ 51[7] และ AirAsia Berhad (ผ่าน AirAsia Investment ที่ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในประเทศมาเลเซียถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49 ทั้งนี้ สัดส่วนการถือหุ้นใน บจ. ไทยแอร์เอเชีย ของ บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 55 ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ประชาชนของ บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น และการเสนอขายหุ้นสามัญ เพิ่มทุนของ บจ. ไทยแอร์เอเชีย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและสัดส่วนการถือหุ้นของ AirAsia Berhad ลดลงเหลือร้อยละ 45 ปัจจุบัน บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีทุนจดทะเบียนจำนวน 435,555,600 บาท
สายการบินไทยแอร์เอเชียนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของการเดินทางภายใต้แนวคิด “ใคร ใคร...ก็บินได้” ซึ่งท้าทายความเชื่อเดิมๆ ที่มองว่าการโดยสารเครื่องบินเป็นการเดินทางเฉพาะกลุ่ม ยากและราคาแพง โดยอาศัยต้นแบบแนวคิดของสายการบินราคาประหยัดที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ ที่นำเสนออัตราค่าโดยสารที่ประหยัดคู่กับบริการที่จำเป็นในการเดินทาง และจ่ายเพิ่มสำหรับบริการเสริมพิเศษที่ต้องการ ที่สามารถทำให้สายการบินไทยแอร์เอเชียเปลี่ยนประสบการณ์การบินให้มีความง่าย สะดวกสบาย สนุกสนานในราคาประหยัดสำหรับผู้โดยสารทุกคน ทั้งนี้สายการบินไทยแอร์เอเชียให้บริการการเดินทางโดยชั้นบินเพียงชั้นเดียวจากฝูงบินที่ประกอบไปด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320 เพียงรุ่นเดียว โดยมีรายได้จากการให้บริการขนส่งผู้โดยสารแบบประจำ และจากการให้บริการเสริม อาทิ การลงทะเบียนสัมภาระ การเลือกที่นั่ง การสำรองที่นั่งและการเปลี่ยนแปลงการสำรองที่นั่ง การขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าบนเครื่องบิน เป็นต้น
สายการบินไทยแอร์เอเชียเริ่มต้นจากการมีเครื่องบินโบอิ้ง 737-300 จำนวน 2 ลำ ให้บริการเที่ยวบินแบบไม่มีการเชื่อมต่อ (Point-to-point) จากศูนย์ปฏิบัติการการบินกรุงเทพมหานคร โดยให้บริการเส้นทางบินเชิงพาณิชย์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2547 ในเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต, กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ-เชียงใหม่[8] และขยายเส้นทางบินเพิ่มเติมไปยังจุดหมายปลายทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 สายการบินไทยแอร์เอเชีย มีเครือข่ายเส้นทางบินครอบคลุม 44 เมืองใน 10 ประเทศในทวีปเอเชีย แบ่งเป็นจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศ 24 แห่งและจุดหมายปลายทางในประเทศ 20 แห่ง ปัจจุบันบริการด้วยฝูงเครื่องบินแอร์บัส A320 ใหม่จำนวน 53 ลำ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 มี.ค. 2559) โดยมีจำนวน 180 ที่นั่งต่อลำ ให้บริการผู้โดยสารกว่า 14,849,422 ล้านคนในปี 2558 และกว่า 70 ล้านคนจนถึงปัจจุบัน
เส้นทางการบิน
สายการบินไทยแอร์เอเชีย เน้นให้บริการเส้นทางบินระยะใกล้ไปยังท่าอากาศยานที่อยู่ในและใกล้เคียงกับบริเวณที่มีประชากรหนาแน่นและจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว ซึ่งโดยปกติอยู่ในรัศมีไม่เกิน 3,500 กิโลเมตร และระยะเวลาของเที่ยวบินไม่เกิน 4 ชั่วโมงจากศูนย์ปฏิบัติการการบินของ บจ. ไทยแอร์เอเชีย แต่ละแห่งซึ่งจะทำให้สายการบินไทยแอร์เอเชีย สามารถเข้าถึงประชากรในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และจีนได้มากขึ้น ทั้งนี้ บจ.ไทยแอร์เอเชีย ให้บริการเที่ยวบินแบบไม่มีการเชื่อมต่อ (Point-to-point) โดยไม่มีเที่ยวบินที่จอดเครื่องบินค้างคืนที่ท่าอากาศยาน (ยกเว้นการจอดเครื่องบินค้างคืนในท่าอากาศยานที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการการบินของ บจ. ไทยแอร์เอเชีย) ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการส่งวิศวกรไปประจำการ หรือจากการที่ต้องเก็บอะไหล่เครื่องบินไว้นอกท่าอากาศยานที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการการบินของ บจ. ไทยแอร์เอเชีย รวมถึงจากการที่ต้องจ่ายเบี้ยเลี้ยงหรือค่าที่พักสำหรับนักบินและลูกเรือที่พักค้างคืนในจุดหมายปลายทางที่ไม่ใช่ศูนย์ปฏิบัติการการบินของบจ. ไทยแอร์เอเชีย อีกด้วย
ปัจจุบัน สายการบินไทยแอร์เอเชีย (FD) ประกอบกิจการโดยมีศูนย์ปฏิบัติการการบิน 6 แห่งในประเทศไทย ได้แก่
- ศูนย์ปฏิบัติการการบินกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) เริ่มให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองในปี 2547 ต่อมาย้ายไปทำการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในปี 2549 ตามการปิดท่าอากาศยานดอนเมือง และได้ย้ายกลับมายังท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
- ศูนย์ปฏิบัติการท่าอากาศยานภูเก็ต เริ่มให้บริการในปี 2552
- ศูนย์ปฏิบัติการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เริ่มให้บริการในปี 2554
- ศูนย์ปฏิบัติการท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ เริ่มให้บริการในปี 2557[9]
- ศูนย์ปฏิบัติการท่าอากาศยานอู่ตะเภา เริ่มให้บริการในปี 2558
- ศูนย์ปฏิบัติการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เริ่มให้บริการในปี 2562
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการท่าอากาศยานหาดใหญ่ ได้เริ่มให้บริการในปี 2559 แต่ได้ยกเลิกไป ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562
- ไทยแอร์เอเชียได้ทำการบินไปยังจุดหมายปลายทางดังต่อไปนี้
ดูเพิ่มเติมที่ : เส้นทางการบินของสายการบินกลุ่มแอร์เอเชีย
เส้นทางการบินในอดีต
ฝูงบิน
ข้อมูลเมื่อ พฤศจิกายน 2567[update], ไทยแอร์เอเชียให้บริการเครื่องบินดังต่อไปนี้:[10]
ฝูงบินในอดีต
อุบัติเหตุ
- 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3320 บินจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานอุบลราชธานี ขณะลงจอด เกิดยางล้อหลังขวาระเบิดขึ้น นักบินสามารถควบคุมเครื่องบินให้จอดได้อย่างปลอดภัย[13]
- 7 ตุลาคม พ.ศ. 2549 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3151 บินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส หลังจากออกบินไปได้ไม่นาน เกิดระบบความดันอากาศในห้องโดยสารขัดข้อง กัปตันตัดสินใจบินกลับมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อแก้ไขปัญหา เที่ยวบินล่าช้า 3 ชั่วโมง[14]
- 17 มีนาคม พ.ศ. 2553 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3321 กำหนดบินจากท่าอากาศยานอุบลราชธานี ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เกิดความผิดพลาดขณะเตรียมจะนำเครื่องบินขึ้น เจ้าหน้าที่หอบังคับการบินแจ้งเตือนไม่ให้ขับเข้าพื้นรันเวย์ส่วนที่ปิดซ่อมแซม นักบินเบรกกะทันหัน แต่ไม่ทัน เครื่องบินเข้าไปในพื้นที่ที่ปิดซ่อมรันเวย์ และต้องใช้รถลากเครื่องบินถอยหลังออกมา[15]
- 30 เมษายน พ.ศ. 2555 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3201 กำหนดบินจากท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เวลา 08.40 น. ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบบไฟฟ้าของเครื่องบินขัดข้อง ต้องซ่อมและตรวจสอบ เที่ยวบินล่าช้า 7 ชั่วโมง[16]
- 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3167 เครื่องบินแอร์บัส เอ320-216 ทะเบียน HS-ABB[17] บินจากท่าอากาศยานภูเก็ต ไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ หลังจากออกบินไปได้ไม่นาน เกิดบินชนนก ซากนกเข้าไปในเครื่องยนต์ จึงบินกลับมาท่าอากาศยานภูเก็ตเพื่อตรวจสอบความเสียหาย เที่ยวบินล่าช้าประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง[18]
- 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3188 บินจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ขณะบินลดระดับความสูงลงเพื่อเตรียมลงจอดที่นครศรีธรรมราช ปีกด้านซ้ายชนนกได้รับความเสียหาย ต้องซ่อมปีกเครื่องบิน ทำให้เที่ยวบินถัดไปที่จะต้องบินกลับดอนเมืองต้องล่าช้าออกไป 2 ชั่วโมงครึ่ง[19][20][21]
- 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3189 บินจากท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนเครื่องออกบินพบไฟสัญญาณเตือนติดในห้องนักบิน 1 จุด จึงต้องแก้ไขและตรวจสอบระบบการทำงานของเครื่องบิน ปรากฏว่าไม่พบปัญหาอื่นใดนอกจากไฟเตือนค้าง เที่ยวบินล่าช้า 3 ชั่วโมง[22]
- 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3187 เครื่องบินแอร์บัส เอ320-216 ทะเบียน HS-ABQ บินจากท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง ขณะบินขึ้นจากสนามบินนครศรีธรรมราช เวลา 16.30 น. ปีกชนกับฝูงนกได้รับความเสียหาย นักบินตัดสินใจบินลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานภูเก็ต และได้เปลี่ยนเป็นเครื่องบินอีกลำหนึ่งแทนโดยบินจากดอนเมืองมารับผู้โดยสาร เที่ยวบินล่าช้า 4 ชั่วโมงครึ่ง[20][21][23][24]
- 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3188 บินจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ขณะลดระดับความสูงลงเตรียมจะลงจอด เวลา 08.00 น. ใบพัดปีกด้านซ้ายได้ชนกับนกกระยางตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ทำให้ใบพัดปีกด้านซ้ายได้รับความเสียหายเล็กน้อย ต้องซ่อมปีกเครื่องบิน เที่ยวบินถัดไปที่จะต้องบินกลับดอนเมืองต้องล่าช้าออกไป 2 ชั่วโมงครึ่ง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นกับไทยแอร์เอเชียที่นครศรีธรรมราชถึง 3 ครั้งในปีเดียวกัน เกิดจากพื้นที่โดยรอบสนามบินมีนกอาศัยอยู่มาก และในขณะนั้นทางท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถาวร[20][21]
- 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3254 บินจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานขอนแก่น นักบินพบความผิดปกติในห้องเก็บสัมภาระ จึงบินกลับมาลงจอดที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อตรวจสอบ เที่ยวบินล่าช้า 1 ชั่วโมง[25]
- 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3398 บินจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนครพนม นักบินพบปัญหาทางเทคนิคบางอย่าง จึงบินกลับมาที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และเปลี่ยนเป็นเครื่องบินอีกลำหนึ่งบินแทน เที่ยวบินล่าช้า 3 ชั่วโมง[26]
- 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3568 บินจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด นักบินพบปัญหาทางเทคนิคบางอย่าง จึงบินกลับมาที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และเปลี่ยนเป็นเครื่องบินอีกลำหนึ่งบินแทน เที่ยวบินล่าช้า 2 ชั่วโมงครึ่ง[27]
- 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3259 กำหนดบินออกจากท่าอากาศยานขอนแก่น เวลา 20.40 น. ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เครื่องบินขัดข้อง จึงเปลี่ยนเป็นเครื่องบินอีกลำหนึ่งแทนโดยบินจากดอนเมืองมารับผู้โดยสาร และบินออกจากขอนแก่นได้เมื่อเวลา 23.40 น. (เที่ยวบินล่าช้า 3 ชั่วโมง)[28]
- 2 มกราคม พ.ศ. 2560 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3256 เครื่องบินแอร์บัส เอ320-216 ทะเบียน HS-ABB กำหนดบินออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานขอนแก่น ขณะลงจอด ส่วนปลายท้ายเครื่องบินกระแทกกับรันเวย์ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่เครื่องบินได้รับความเสียหาย ต้องซ่อม การซ่อมเสร็จสมบูรณ์และเครื่องบินลำดังกล่าวสามารถกลับมาบินได้ตามปกติในวันที่ 21 มีนาคมปีเดียวกัน[29]
- 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3032 เครื่องบินแอร์บัส เอ320-216 ทะเบียน HS-ABI บินจากท่าอากาศยานภูเก็ต ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง หลังลงจอดเสร็จและกำลังเคลื่อนที่ไปยังหลุมจอด เวลา 19.10 น. เครื่องบินขัดข้อง วิ่งต่อไปไม่ได้ ต้องใช้รถลากลากเครื่องบินไปยังหลุมจอด[30] เพื่อให้ผู้โดยสารเดินออกจากเครื่องบินได้ตามปกติ และได้แก้ไขเครื่องบินจนแล้วเสร็จทันเวลาเที่ยวบินถัดไป
- 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 104 เครื่องบินแอร์บัส เอ320-216 ทะเบียน HS-BBC บินจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ ไปท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ขณะลงจอดที่อู่ตะเภา เวลา 21.27 น. ล้อแตะพื้นแล้วเกิดยางล้อหลังซ้ายระเบิดขึ้น นักบินสามารถควบคุมเครื่องบินให้หยุดได้อย่างปลอดภัยบนรันเวย์ แต่ไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปยังหลุมจอดได้ ทางสนามบินจึงปิดรันเวย์ชั่วคราวเพื่อลากเครื่องบินออกไปจากรันเวย์จนแล้วเสร็จ และเปิดรันเวย์ได้อีกครั้งเวลา 2.30 น. ของวันถัดไป[31][32]
- 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 608 เครื่องบินแอร์บัส เอ320-216 ทะเบียน HS-BBK บินจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานพนมเปญ ขณะออกบินขึ้นได้ไม่นานเกิดความขัดข้องที่ส่วนปีกด้านซ้าย สปอยเลอร์ที่ปีกเกิดค้าง ไม่ปิดพับลงไป จึงบินกลับดอนเมืองและเปลี่ยนเป็นเครื่องบินอีกลำหนึ่งบินแทน เที่ยวบินล่าช้า 2 ชั่วโมง 20 นาที[33]
- 13 มีนาคม พ.ศ. 2561 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 761 เครื่องบินแอร์บัส เอ320-251 นีโอ ทะเบียน HS-CBG บินจากท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊า ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง ระหว่างบินเกิดมีสัญญาณแจ้งเตือนที่ห้องนักบินว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นที่เครื่องยนต์และปีกเครื่องบิน กัปตันจึงลงจอดฉุกเฉิน พร้อมผู้โดยสาร 147 คนและลูกเรืออีก 11 คน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ได้อย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 12:40 น. และสายการบินได้นำเครื่องบินอีกลำหนึ่งมารับผู้โดยสารเดินทางต่อ ทั้งนี้ผู้โดยสารได้มาถึงดอนเมืองล่าช้ากว่ากำหนดเวลาเดิมประมาณ 3 ชั่วโมง[34]
- 20 เมษายน พ.ศ. 2562 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 3111 เครื่องบินแอร์บัส เอ320-216 ทะเบียน HS-ABN เส้นทางจากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เกิดเหตุเครื่องบินขัดข้อง สายการบินได้เปลี่ยนลำโดยสลับนำเครื่องบินอีกลำหนึ่ง ทะเบียน HS-BBA ของเที่ยวบินถัดไปเปลี่ยนมารับผู้โดยสารของเที่ยวบินนี้แทน รวมแล้วเที่ยวบินล่าช้ากว่ากำหนดเวลาเดิม 2 ชั่วโมง 35 นาที ส่วนลำเดิมที่ขัดข้องก็ได้แก้ไขแล้วเสร็จและใช้บินเที่ยวบินใหม่แทน[35]
- 5 กันยายน พ.ศ. 2562 – ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 178 เครื่องบินแอร์บัส เอ320-216 ทะเบียน HS-BBT บินจากท่าอากาศยานนานาชาติเวลานา หรือท่าอากาศยานมาเล ประเทศมัลดีฟส์ ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เกิดเหตุเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งขัดข้องขณะขึ้นบินออกจากมัลดีฟส์ นักบินจึงได้บินวนกลับมาจอดที่มัลดีฟส์อีกครั้งอย่างปลอดภัย[36][37]
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
เกษตรและ อุตสาหกรรมอาหาร | ธุรกิจการเกษตร | |
---|
อาหารและเครื่องดื่ม | |
---|
|
---|
สินค้าอุปโภคบริโภค | แฟชั่น | |
---|
ของใช้ในครัวเรือน และสำนักงาน | |
---|
ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ | |
---|
|
---|
ธุรกิจการเงิน | ธนาคาร | |
---|
เงินทุนและหลักทรัพย์ | |
---|
ประกันภัยและประกันชีวิต | |
---|
|
---|
วัตถุดิบและ สินค้าอุตสาหกรรม | ยานยนต์ | |
---|
วัสดุอุตสาหกรรม และเครื่องจักร | |
---|
กระดาษและวัสดุการพิมพ์ | |
---|
ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ | |
---|
บรรจุภัณฑ์ | |
---|
เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ | |
---|
|
---|
อสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง | วัสดุก่อสร้าง | |
---|
พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ | |
---|
บริการรับเหมาก่อสร้าง | |
---|
|
---|
ทรัพยากร | พลังงานและสาธารณูปโภค | |
---|
เหมืองแร่ | |
---|
|
---|
บริการ | พาณิชย์ | |
---|
การแพทย์ | |
---|
สื่อและสิ่งพิมพ์ | |
---|
การท่องเที่ยวและสันทนาการ | |
---|
บริการเฉพาะกิจ | |
---|
ขนส่งและโลจิสติกส์ | |
---|
|
---|
เทคโนโลยี | เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร | |
---|
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ | |
---|
|
---|
|
|
---|
บริการเต็มรูปแบบ | |
---|
ต้นทุนต่ำ | |
---|
ภูมิภาคและเช่าเหมาลำ | |
---|
ขนส่งสินค้า | |
---|
อดีต | |
---|
อนาคต | |
---|