พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2
เนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 (อังกฤษ : Nebuchadnezzar II , ; อักษรรูปลิ่มบาบิโลน : Nabû-kudurri-uṣur ,[ c] หมายถึง "นาบู คุ้มครองผู้สืบทอดของข้า"; ฮีบรูไบเบิล : נְבוּכַדְנֶאצַּר [ d] Nəḇūḵaḏneʾṣṣar ) หรือสะกดเป็น เนบูคัดเรซซาร์ที่ 2 (Nebuchadrezzar II ) เป็นกษัตริย์องค์ที่สองแห่งจักรวรรดิบาบิโลนใหม่ ผู้ครองราชย์ตั้งแต่การสวรรคตของแนโบโพแลสซาร์ พระราชบิดา ใน 605 ปีก่อน ค.ศ. จนกระทั่งสวรรคตใน 562 ปีก่อน ค.ศ. ตามประวัติศาสตร์รู้จักกันในพระนาม เนบูคัดเนสซาร์มหาราช เนื่องโดยทั่วไปถือเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิ เนบูคัดเนสซาร์ยังคงมีชื่อเสียงจากการทัพในลิแวนต์ โครงการก่อสร้างในบาบิโลน เมืองหลวง ของพระองค์ รวมถึงสวนลอยบาบิโลน และมีบทบาทในประวัติศาสตร์ชาวยิว เนบูคัดเนสซาร์เป็นพระมหากษัตริย์ ที่ครองราชย์นานที่สุดในราชวงศ์บาบิโลน โดยปกครองไป 43 ปี ในช่วงที่สวรรคต พระองค์กลายเป็นหนึ่งในผู้ปกครองที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก
แหล่งข้อมูล
ข้อมูลอักษรรูปลิ่ม ในช่วงระหว่าง 594 ถึง 557 ปีก่อน ค.ศ. ที่ครอบคลุมรัชสมัยพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 และผู้ครองราชย์ถัดจากพระองค์อีก 3 พระองค์ ได้แก่ อาเมล-มาร์ดุก , เนริกลิสซาร์ และลาบาชี-มาร์ดุก มีน้อยมาก การขาดแหล่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลอันน่าเสียดายตรงที่แม้ว่าเนบูคัดเนสซาร์ครองราชย์ยาวนานที่สุด แต่กลับเป็นที่รู้จักอย่างแน่ชัดน้อยกว่ารัชสมัยของกษัตริย์บาบิโลนใหม่เกือบทั้งหมด แม้ว่าสามารถกู้คืนแหล่งที่มาอักษรรูปลิ่มจำนวนหยิบมือ โดยเฉพาะพงศาวดารบาบิโลน ที่ยืนยันเหตุการณ์บางส่วนในรัชสมัยของพระองค์ เช่น ความขัดแย้งกับราชอาณาจักรยูดาห์ ส่วนเหตุการณ์อื่น ๆ อย่างการทำลายล้างพระวิหารของซาโลมอน เมื่อ 586 ปีก่อน ค.ศ. และการทัพอื่น ๆ ที่เนบูคัดเนสซาร์อาจควบคุม ไม่ปรากฏในเอกสารอักษรรูปลิ่มเท่าที่มีอยู่
ดังนั้น การบูรณะประวัติศาสตร์ในช่วงนี้จึงมักยึดตามแหล่งข้อมูลทุติยภูมิในภาษาฮีบรู กรีก และละติน เพื่อตรวจสอบว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในขณะนั้น นอกจากนี้ยังมีแผ่นจารึกจากบาบิโลนด้วย แม้ว่าจะใช้แหล่งข้อมูลที่เขียนโดยผู้เขียนในภายหลัง แต่ข้อมูลหลายแหล่งเขียนขึ้นหลังสมัยเนบูคัดเนสซาร์ไปหลายศตวรรษ และมักสะท้อนทัศนคติทางวัฒนธรรมของตนเองต่อเหตุการณ์และบุคคลที่กล่าวถึง ทำให้เกิดปัญหาในตัวมันเอง โดยทำให้เส้นแบ่งระหว่างประวัติศาสตร์และจารีตประเพณีจางลง แต่นั่นเป็นเพียงแนวทางเดียวที่เป็นไปได้ในการรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรัชสมัยของเนบูคัดเนสซาร์
ภูมิหลัง
พระนาม
อิฐโคลนไหม้จากบาบิโลน ที่แสตมป์ด้วยพระนามและตำแหน่งของพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์
พระนามของพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 ในภาษาแอกแคด คือ Nabû-kudurri-uṣur หมายถึง "นาบู คุ้มครองผู้สืบทอดของข้า" ทางวิชาการสมัยก่อนมักตีความพระนามนี้เป็น "นาบู ผู้ปกป้องเขตแดน" เนื่องจากคำว่า kudurru สามารถหมายถึง 'ของเขต' หรือ 'เส้น' นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่สนับสนุนการตีความเป็น 'ผู้สืบทอด' มากกว่า 'ขอบเขต' ไม่มีเหตุผลใดที่เชื่อว่าชาวบาบิโลนตั้งใจให้พระนามนี้ตีความยากหรือมีความหมายสองนัย
บรรพบุรุษและพระชนม์ชีพช่วงต้น
รัชสมัย
สิ่งสืบทอด
การประเมินโดยนักประวัติศาสตร์
เนื่องจากแหล่งข้อมูลมีไม่เพียงพอ ทำให้การประเมินลักษณะนิสัยและสภาพในรัชสมัยของเนบูคัดเนสซาร์โดยนักประวัติศาสตร์มีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละช่วงเวลา โดยทั่วไปถือว่าพระองค์ได้รับการยกย่องเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติที่สุดของจักรวรรดิบาบิโลนใหม่
ในธรรมเนียมยิวและพระคัมภีร์
ภาพพิมพ์แกะไม้ แสดงพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 สลักโดย Georg Pencz ช่างแกะสลัก ช่างวาดภาพ และช่างพิมพ์ชาวเยอรมันในคริสต์ศตวรรษที่ จากชุดภาพพิมพ์แกะไม้ชื่อ ทรราชในพันธสัญญาเก่า (Tyrants of the Old Testament)
คัมภีร์ไบเบิลมักจดจำพระองค์ในฐานะผู้ทำลายพระวิหารซาโลมอน ในกรุงเยรูซาเลมและเป็นผู้เริ่มต้นยุคเชลย (ยุคที่ชาวยิวตกเป็นเชลยของบาบิโลน) หนังสือเยเรมีย์เรียกพระองค์ว่า "ผู้ทำลายประชาชาติ"[ 18] พระองค์ยังเป็นบุคคลสำคัญที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือดาเนียล
ตามบันทึกที่ปรากฏในหนังสือดาเนียล ระบุว่า วันหนึ่ง ขณะที่พระองค์ทอดพระเนตรกรุงบาบิโลนจากบนดาดฟ้าของวัง พระองค์ก็ตรัสว่า "ดูเมืองที่เราสร้างสิ สวยงามอะไรอย่างนี้ เราคือผู้ยิ่งใหญ่!" ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นว่า "เนบูคัดเนสซาร์! เจ้าไม่ได้ปกครองอาณาจักรนี้แล้ว" พระเจ้า ได้ริบรอนอำนาจและสติปัญญาของเนบูคัดเนสซาร์ เนบูคัดเนสซาร์ทำตัวเหมือนสัตว์และถูกเนรเทศจากวังไปอยู่กับสัตว์ในป่า ผมของเนบูคัดเนสซาร์ยาวเหมือนขนนกอินทรีและเล็บของเขายาวเหมือนกรงเล็บของนก เมื่อครบเวลาเจ็ดกาล (มักถูกตีความเป็นเจ็ดปี) เนบูคัดเนสซาร์ก็กลับมาเป็นปกติ พระเจ้าให้เขากลับมาครองบัลลังก์บาบิโลนอีกครั้ง (เชื่อว่าเรื่องนี้มาจากความแค้นของชาวยิวที่ถูกพระองค์ทำลายอาณาจักรยูดาร์และลดขั้นให้เป็นทาส)
หมายเหตุ
↑ เนื่องจากจารึกบนแผ่นศิลาสลักโดยเนบูคัดเนสซาร์ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าพระองค์คือกษัตริย์ที่ได้รับการพรรณนาไว้ ศิลาจารึกนี้เป็นหนึ่งในสี่ภาพเขียนร่วมสมัยที่เป็นที่รู้จักของเนบูคัดเนซซาร์ โดยอีก 3 ภาพเป็นภาพแกะสลักบนหน้าผาในเลบานอน ซึ่งมีสภาพแย่กว่าภาพบนศิลาจารึกมาก ซิกกูแรตเอเตเมนอันกิคาดว่าเป็นแรงบันดาลใจต่อหอคอยบาเบลในพระคัมภีร์ จึงเป็นที่มาของชื่อ 'ศิลาจารึกหอคอยบาเบล'
↑ พระราชบิดาทรงแต่งตั้งเนบูคัดเนสซาร์ให้เป็นนักบวชชั้นสูงแห่งวิหารเออันนา ที่อูรุก เมื่อ 626/625 ปีก่อน ค.ศ. สันนิษฐานว่าพระองค์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักบวชชั้นสูงเมื่อทรงพระเยาว์มาก โดยพิจารณาว่าพระองค์สวรรคตในเวลากว่า 60 ปีต่อมา ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าชาวบาบิโลนมีสิทธิ์บวชเป็นนักบวชได้เมื่อใด แต่มีบันทึกว่านักบวชชาวบาบิโลนที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งมีอายุ 15 หรือ 16 ปี
↑ สัญลักษณ์อักษรรูปลิ่มคือ AG.NÍG.DU-ÙRU
↑ This is the Hebrew spelling in 13 cases; in 13 other cases, the Hebrew spelling is one of the following:נְבֻכַדְנֶאצַּר Nəḇuḵaḏneʾṣṣar − with בֻ ḇu instead of בוּ ḇū . In 2 Kings 24:1&10 and 25:1&8, 1 Chronicles 5:41 (a.k.a. 6:15), and Jeremiah 28:11&14.נְבוּכַדְנֶצַּר Nəḇūḵaḏneṣṣar – without א ʾ , like the usual Aramaic spelling. In Ezra 1:7 and Nehemiah 7:6.נְבֻכַדְנֶצַּר Nəḇuḵaḏneṣṣar – with בֻ instead of בוּ and without א , like the Aramaic spelling used in Daniel 3:14, 5:11, and 5:18. In Daniel 1:18 and 2:1.נְבוּכַדְנֶצּוֹר Nəḇūḵaḏneṣṣōr – without א and with צּוֹ (ṣ)ṣō instead of צַּ (ṣ)ṣa , cf. note d. In Ezra 2:1.נְבוּכַדנֶאצַּר Nəḇūḵaḏneʾṣṣar – without the shva quiescens . In Jeremiah 28:3, and Ester 2:6.
อ้างอิง
↑ เยเรมีย์ 4:7 พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011
บรรณานุกรม
Elayi, Josette (2018). The History of Phoenicia . Lockwood Press. doi :10.2307/j.ctv11wjrh . ISBN 978-1937040819 . JSTOR j.ctv11wjrh . S2CID 198105413 .
Ephʿal, Israel (2003). "Nebuchadnezzar the Warrior: Remarks on his Military Achievements" . Israel Exploration Journal . 53 (2): 178–191. JSTOR 27927044 .
George, Andrew R. (2011). "A Stele of Nebuchadnezzar II" . CUSAS . 17 : 153–169.
Jursa, Michael (2007). "Die Söhne Kudurrus und die Herkunft der neubabylonischen Dynastie" [The Sons of Kudurru and the Origins of the New Babylonian Dynasty]. Revue d'assyriologie et d'archéologie orientale (ภาษาเยอรมัน). 101 (1): 125–136. doi :10.3917/assy.101.0125 .
Popova, Olga (2015). "The Royal Family and its Territorial Implantation during the Neo-Babylonian Period" . KASKAL . 12 (12): 401–410. doi :10.1400/239747 .
Porten, Bezalel; Zadok, Ran; Pearce, Laurie (2016). "Akkadian Names in Aramaic Documents from Ancient Egypt" . Bulletin of the American Schools of Oriental Research . 375 (375): 1–12. doi :10.5615/bullamerschoorie.375.0001 . JSTOR 10.5615/bullamerschoorie.375.0001 . S2CID 163575000 .
Sack, Ronald H. (1978). "Nergal-šarra-uṣur, King of Babylon as seen in the Cuneiform, Greek, Latin and Hebrew Sources" . Zeitschrift für Assyriologie und Vorderasiatische Archäologie . 68 (1): 129–149. doi :10.1515/zava.1978.68.1.129 . S2CID 161101482 .
Sack, Ronald H. (1983). "The Nabonidus Legend" . Revue d'Assyriologie et d'archéologie orientale . 77 (1): 59–67. JSTOR 23282496 .
Sack, Ronald H. (2004). Images of Nebuchadnezzar: The Emergence of a Legend (2nd Revised and Expanded ed.). Selinsgrove: Susquehanna University Press. ISBN 1-57591-079-9 .
Waerzeggers, Caroline; Jursa, Michael (2008). "On the Initiation of Babylonian Priests" . Zeitschrift für Altorientalische und Biblische Rechtsgeschichte . 14 : 1–38.
Wallis Budge, Ernest Alfred (1884). Babylonian Life and History . London: Religious Tract Society. OCLC 3165864 .
Wiseman, Donald J. (1983). Nebuchadrezzar and Babylon: The Schweich Letters . Oxford: Oxford University Press. ISBN 978-0197261002 .
Wiseman, Donald J. (2003) [1991]. "Babylonia 605–539 B.C." . ใน Boardman, John; Edwards, I. E. S.; Hammond, N. G. L.; Sollberger, E.; Walker, C. B. F. (บ.ก.). The Cambridge Ancient History: III Part 2: The Assyrian and Babylonian Empires and Other States of the Near East, from the Eighth to the Sixth Centuries B.C. (2nd ed.). Cambridge University Press. ISBN 0-521-22717-8 .
ข้อมูลเว็บ
บุคคล สถานที่ เหตุการณ์ ในสื่อ
วรรณกรรม ละครเวที ภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม ประติมากรรม
เกี่ยวข้อง ต้นฉบับ
นานาชาติ ประจำชาติ ประชาชน อื่น ๆ