ลุยส์ ดิอัซ
ลุยส์ เฟร์นันโด ดิอัซ มารูลันดา (สเปน: Luis Fernando Díaz Marulanda; เกิด 13 มกราคม ค.ศ. 1997) เป็นนักฟุตบอลชาวโคลอมเบีย ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายในลิเวอร์พูล และ ทีมชาติโคลอมเบีย ดิอัซเริ่มต้นอาชีพกับสโมสรบาร์รังกิยาในลีกระดับสองของโคลอมเบีย ก่อนที่จะย้ายไปยูนิออร์ ซึ่งเขาพาทีมชนะเลิศกาเตโกริอาปริเมรา อา กับโกปาโกลอมเบียและซูเปร์ลิกาโกลอมเบียนาอย่างละหนึ่งสมัย ต่อมาใน ค.ศ. 2019 เขาได้ย้ายไปร่วมทีมโปร์ตูด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร เขาพาโปร์ตูชนะเลิซปรีไมราลีกา, ตาซาดึปูร์ตูกัล และซูแปร์ตาซากังดีดูดึออลีไวราอย่างละหนึ่งสมัย นอกจากนี้ เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดที่ชนะเลิศดับเบิลแชมป์ในประเทศเมื่อปี 2020 ดิอัซลงเล่นให้แก่ทีมชุดใหญ่ของโคลอมเบียเป็นครั้งแรกในปี 2018 เขาได้ลงเล่นในระดับชาติมากกว่า 30 นัด และมีส่วนช่วยให้ทีมจบอันดับที่ 3 ในโกปาอาเมริกา 2021 ซึ่งเขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำในฐานะผู้ทำประตูสูงสุดในรายการ ร่วมกับลิโอเนล เมสซิ ของอาร์เจนตินา สโมสรอาชีพโปร์ตู
ลิเวอร์พูลในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 ดิอัซทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 3-1[4] ต่อมา ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 อีเอฟแอลคัพ 2022 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 11-10 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพ สมัยที่ 9 ได้สำเร็จ[5] ต่อมา ในวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2022 ดิอัซทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาฟัลเมอร์ 2-0[6] ต่อมา ในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2022 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021–22 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ดิอัซทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในชุดของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบนฟิกา จากโปรตุเกส 3-1[7] ต่อมา ในวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2022 ดิอัซทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 4-0[8] ต่อมา ในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ดิอัซทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บิยาร์เรอัล จากสเปน 3-2 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ บิยาร์เรอัล 5-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[9] ต่อมา ในวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 ดิอัซทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 1-1 ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ[10] ต่อมา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ แอสตันวิลลา ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 3-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[11] ในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คอมมิวนิตีชีลด์ สมัยที่ 16 ได้สำเร็จ[12] ต่อมา ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2022 ดิอัซทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022–23 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ คริสตัลพาเลซ 1-1 ต่อมา ในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2023 ดิอัซทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 4-3[13] ในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2023 ดิอัซทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-1[14] ต่อมา ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2023 ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2023–24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E ดิอัซทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ลัสค์ 3-1[15] ต่อมา ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E ดิอัซทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลัสค์ 4-0[16] ในวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2024 เอฟเอคัพ รอบ 3 ดิอัซทำประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 4 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[17] ต่อมา ในวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 2024 ฟุตบอลลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ดิอัซยิงประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ฟูลัม 1-1 ที่เครเวนคอตทิจ 1-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟูลัม 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลลีกคัพ ได้สำเร็จ[18] ต่อมา ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2024 ดิอัซทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชลซี 4-1[19] ต่อมา ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 ดิอัซทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบิร์นลีย์ 3-1[20] ต่อมา ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 ดิอัซทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลูตันทาวน์ 4-1[21] ต่อมา ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2024 ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ดิอัซทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สปาร์ตาปราฮา 5-1[22] ต่อมา ในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2024 ดิอัซทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 2-1[23] ในวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2024 ดิอัซทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024–25 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบรนต์ฟอร์ด 2-0[24] ต่อมา ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2024 ดิอัซยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 3-0[25] ต่อมา ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2024 ดิอัซยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[26] ต่อมา ในวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 2024 ฟุตบอลลีกคัพ รอบ 4 ดิอัซยิงประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบีย ที่สนามกีฬาฟัลเมอร์ 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลลีกคัพ ได้สำเร็จ[27] ต่อมา ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 2024 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2024–25 รอบลีก ดิอัซทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซิน จากเยอรมัน 4-0[28] ชีวิตส่วนตัวดิอัซมีบรรพบุรุษเป็นชาววายูอู ทำให้เขาเป็นชาวโคลอมเบียพื้นเมืองคนแรกที่เป็นตัวแทนของประเทศ[29] เฆซุส น้องชายของเขา ก็เป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ[30] ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2023 ดิอัซหมั้นกับเกรา ปอนเซ แฟนสาว[31] ในวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2023 ซิเลนิส มารูลันดา แม่ของดิอัซ กับลุยส์ มานูเอล "มาเน" ดิอัซ พ่อของเขา ถูกลักพาตัวโดยคนติดอาวุธบนมอเตอร์ไซค์ที่ปั๊มน้ำมันในบ้านเกิด บาร์รันกัส[32] ภายหลังตำรวจช่วยแม่เขาได้ โดยประกาศ "การค้นหาทางทหารครั้งใหญ่" เพื่อค้นหาพ่อของเขา กุสตาโบ เปโตร ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ประกาศว่า "ได้มีการส่งกำลังประชาชนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว" และในวันถัดมา นายพล William Rene Salamanca ประกาศรางวัลสูงถึง 200 ล้านเปโซสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของพ่อของดิอัซ[33] ปีถัดมา ดิอัซไม่ปรากฏตั้งในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกปะทะนอตทิงแฮมฟอเรสต์โดยที่ดีโยกู ฌอตา เพื่อนร่วมทีม ชูเสื้อของดิอัซระหว่างฉลองการทำประตู[34] ผู้ลักพาตัวปล่อยตัวพ่อของเขาในวันที่ 9 พฤศจิกายน[35] สถิติอาชีพสโมสร
ทีมชาติ
เกียรติประวัติยูนิออร์
โปร์ตู
ลิเวอร์พูล รางวัลส่วนตัว
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ ลุยส์ ดิอัซ
|