วิเชียร ฤกษ์ไพศาล
วิเชียร ฤกษ์ไพศาล หรือ นิค คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ อดีตดำรงตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานมิวสิค โปรดักชั่น และโปรโมชั่น บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) ประวัติวิเชียร เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมจากโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ระดับอุดมศึกษา สาขาการปกครอง จาก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ร่วมรุ่นกับ ศาสตราจารย์ ไชยันต์ ไชยพร) ในระหว่างศึกษาชั้นปี 2 อยู่ที่คณะรัฐศาสตร์ ได้ทดลองไปฝึกงานปลัดอำเภอที่อำเภอมุกดาหารซึ่งในสมัยที่ยังไม่ได้เป็นจังหวัด ใช้เวลาเพียง 20 วันก็พบและสรุปว่าไม่ใช่เส้นทางชีวิตที่แสวงหา ชีวิตการทำงานด้วยความที่ชอบศาสตร์ศิลปะมาตั้งแต่เด็ก เมื่อจบการศึกษาจึงไปเข้าร่วมก่อตั้งคณะละคร “มะขามป้อม”[1] เป็นคณะละครเร่ (Touring Theatre) มีชื่อทางการว่า “โครงการสื่อชาวบ้าน” (Micro Grassroots Media) สังกัดหน่วยงาน กศส. (กลุ่มประสานงานศาสนาเพื่อสังคม เป็น NGO ยุคแรก มีอาจารย์โคทม อารียา เป็นที่ปรึกษา ในสมัยที่ พระอาจารย์ไพศาล วิสาโลยังเป็นฆราวาสทำงานอยู่ที่กศส.นี้ด้วย แต่รับผิดชอบงานคนละด้าน) “มะขามป้อม” ในยุคแรกเป็นกลุ่มงานที่มุ่งทำสื่อสะท้อนเรื่องราวข้อมูลดีๆ เชิงสร้างสรรค์ส่งเสริมสังคม เข้าหาชาวบ้านแบบเรียบง่ายผ่านสื่อ การแสดง สไลด์ โปสเตอร์ แผ่นพับ โดยเน้นที่สื่อละครเป็นหลัก ลักษณะเนื้อหาก็ประยุกต์ให้ทันเหตุการณ์ เช่น การไปเล่าเรื่องที่หมู่บ้านชาวนา จะเล่าว่าห้ามเข้าเมืองนั้นคงไม่มีประโยชน์ จึงเปลี่ยนเป็นเล่าว่าถ้าเข้าเมืองต้องเจออันตรายอะไร ในบางกรณี หน้าที่ของกลุ่มมะขามป้อมก็เปลี่ยนบทบาทเป็นการอบรมเรื่องการทำสื่อการเรียนการสอนให้กับสถาบันการศึกษาที่ติดต่อร้องขอมา ทำอยู่ประมาณ 2 ปีแล้วรู้สึกว่า ถ้าอยากสื่อสารเรื่องราวดีๆ คงต้องเข้าหาสื่อใหญ่ และพร้อมกับต้องการแสวงหาคำตอบและเป้าหมายในชีวิต เริ่มคิดอยากทำงานด้านสื่อโฆษณา ในที่สุดจึงได้เข้ามาทำงานกับฝ่ายรายการในบริษัท พรีเมียร์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งภายหลังคือกลุ่มทีมงานผู้ก่อตั้งบริษัท แกรมมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ในช่วงนั้นได้ทำรายการทีวีประเภทรายการวัยรุ่นและโปรโมทเพลง ในตำแหน่ง Best Boy (หรือ Runner ผู้ช่วยอำนวยความสะดวกทุกตำแหน่งในกอง) รายการที่ทำ ได้แก่ ยิ้มใส่ไข่ มันกว่าแห้ว เสียงติดดาว ลูกโป่งสีชมพู และคอนเสิร์ตแดดเดียว หลังจากนั้น ได้มีโอกาสเป็นพิธีกรในรายการต่างๆ ของบริษัท เช่นรายการลูกโป่งสีชมพู คู่กับภิญโญ รู้ธรรม ในปี พ.ศ. 2528 บริษัทแกรมมี่ ต้องการบุกเบิกงานด้านมิวสิควิดีโอ ในตอนนั้นในประเทศไทยยังไม่มีใครทำ จึงได้รับอาสาทันทีที่ได้โอกาส ถือได้ว่าเป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอคนแรกของไทย โดยมีผลงานการกำกับที่สร้างชื่อ ได้แก่ “สมปองน้องสมชาย” ของ เรวัต พุทธินันทน์ “ฝากฟ้าทะเลฝัน” ของ ธงไชย แมคอินไตย์ “ธรรมดาเป็นเรื่องธรรมดา” ของ เพชร โอสถานุเคราะห์ “เสี่ยวรำพึง” อัสนี-วสันต์ ฯลฯ ต่อมา พ.ศ. 2530 เปิดบริษัทถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณา อัพเปอร์คัท (ในเครือแกรมมี) โดยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับหนังโฆษณา ควบคู่กับการดูแลแผนกมิวสิควิดีโอในแกรมมี่ไปด้วย จากนั้น พ.ศ. 2534 กลับเข้ามาดูแลฝ่ายการตลาดเพลงในแกรมมี่ หลังจาก เรวัต พุทธินันทน์ เสียชีวิต ได้มีการแบ่งค่ายใหม่ จึงได้ย้ายไปดูแลฝ่ายอื่นๆ เช่น อราทิสท์ แมเนจเม้นท์, รายการทีวี, แกรมมี่บิ๊ก เป็นต้น และในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2541 ได้ฤกษ์เปิดค่ายเพลงของตนเอง โดยใช้ชื่อว่า genie records โดยมี สุเมธ & เดอะปั๋ง เป็นศิลปินเบอร์แรก และในปีเดียวกันนั้น ก็ประสบความสำเร็จมากมายจากอัลบั้มของ ไท ธนาวุฒิ มีเพลงฮิตชื่อ “ประเทือง”และ “ใช่เลย” การหวนคืนสู่ตำแหน่ง ผู้กำกับมิวสิควิดีโอในรอบ 20 ปี เพลง "เธอ" วง Cocktail โดยได้ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และ โยเกิร์ต รวิวรรณ บุญประชม มาเล่นเป็นพระนางให้ในมิวสิควิดีโอเพลงนี้ และอีกครั้งในปี 2559 วิเชียรได้กลับมากำกับหนังสั้นและมิวสิควีดีโอให้กับ cocktail ในเพลง "กาลเวลาพิสูจน์คน" สาเหตุเนื่องจากเป็นบทเพลงที่โอม (นักร้องนำ) เล่าว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากการพูดคุยกันกับวิเชียร หนังสือขณะที่ค่าย genie records เดินทางเข้าสู่ปีที่ 16 ในฐานะของผู้ก่อตั้งค่าย วิเชียรจะขอเล่าเส้นทางแห่งความร็อค ผ่านหนังสือที่จะวางจำหน่ายวันแรกในงานเทศกาลดนตรี "genie fest 16 ปีแห่งความร็อก" (ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Fanpage nickgeniepage)[2] ปี 2562 ได้รวบรวมและคัดเลือกบทความสร้างแรงบันดาลใจที่เขียนลงในเพจเป็นเวลาหลายปี นำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือในชื่อ "ศูนย์บรรเทาท้อ" ผลงานทั้งหมดพ.ศ. 2523 - 2526 : ร่วมก่อตั้งและเป็นสมาชิกกลุ่มละครเร่ (Touring Theatre) “มะขามป้อม” ชื่อทางการว่า “โครงการสื่อชาวบ้าน” (Micro Grassroots Media) สังกัดหน่วยงาน กศส. (กลุ่มประสานงานศาสนาเพื่อสังคม) มีอาจารย์โคทม อารียา และ พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล สมัยที่ท่านยังเป็นฆราวาส ร่วมเป็นที่ปรึกษา พ.ศ. 2526 - 2528 : ไต่เต้าตั้งแต่ตำแหน่ง Best Boy, Art Director, Creative ไปจนถึงพิธีกรรายการโทรทัศน์ในเครือแกรมมี่ เช่น รายการยิ้มใส่ไข่ มันกว่าแห้ว เสียงติดดาว ลูกโป่งสีชมพู เป็นต้น พ.ศ. 2528 : ก่อตั้งสายงานการผลิตมิวสิควิดีโอ ในเครือแกรมมี่ฯ ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารและเป็นผู้กำกับ พ.ศ. 2531 - 2534 : ร่วมก่อตั้งบริษัทถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณา Upper Cut ทำหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการร่วมกับเพื่อนสนิท (ชูพงษ์ รัตนบัณฑูร) และเป็นผู้กำกับ พ.ศ. 2534 - 2539 : ก่อตั้งและควบรวมสายงานด้านการบริหารงานการตลาดธุรกิจเพลงในบริษัทแกรมมี่ฯ ดูแลการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับทุกอัลบั้ม และทุกศิลปินในขณะนั้น พ.ศ. 2540 : ก่อตั้งบริษัทด้าน Artist Management ชื่อ Aratist ในเครือแกรมมี่ฯ ดูแลการค้นหา-พัฒนาศิลปินใหม่ และบริหารงานจ้าง (Booking Agent) ให้กับศิลปินในเครือแกรมมี่ฯทั้งหมด รวมทั้งบริหารงานรายการเพลงทั้งหมดที่มีอยู่ในช่วงนั้น นอกจากนี้ ยังดูแลหน่วยงาน Grammy-Big ที่มีหน้าที่ทำการผลิตและการตลาดอัลบั้มรวมฮิต ไปพร้อมๆกันในช่วงเวลาเดียวกัน พ.ศ. 2541 : ก่อตั้งและบริหารสังกัดเพลง genie records ทำหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการและทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ยกเว้นการทำเพลง พ.ศ. 2562-2564 : ที่ปรึกษาสมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ( PUBAT) พ.ศ. 2562-2563 : ที่ปรึกษาให้กับ บมจ.แม็คกรุ๊ป พ.ศ. 2558- ปัจจุบัน : เป็นวิทยากรแบ่งปันประสบการณ์ให้กับสถาบันและองค์กรต่างๆ ผลงานอื่น ๆ พ.ศ. 2554 - 2556 : นักเขียนประจำคอลัมน์ “คำคมคารมเซียน” ในหนังสือพิมพ์ข่าวสด[3] เป็นคอลัมน์ที่เปิดเผยเบื้องหน้าเบื้องลึกเกี่ยวกับวงการพระเครื่องฯ นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีเงินสะพัดมากมาย วันละหลายพันหลายหมื่นล้าน บนความเชื่อ ความศรัทธา ความงมงาย ความโลภและความ...ไม่รู้ รางวัลที่ได้รับ
อ้างอิง
|