ศรีนวล บุญลือ
ศรีนวล บุญลือ (เกิด 22 มิถุนายน พ.ศ. 2506) เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ สังกัดพรรคภูมิใจไทย[1] อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เขตอำเภอแม่วาง อดีตที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และอดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน ประวัติศรีนวลเกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2506 ที่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่[2] เป็นบุตรของนายศรีมอยและนางเขียว บุญลือ[3] สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากหลักสูตรศาสนศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์การปกครอง) จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา จังหวัดเชียงใหม่[2] งานการเมืองศรีนวลเริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองโดยเริ่มจากการเมืองท้องถิ่นด้วยการเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน ระหว่าง พ.ศ. 2542–2544 เป็นที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เขตอำเภอแม่วาง[2] เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองตั้งแต่ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย [4] ในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคอนาคตใหม่มีมติเสียงข้างมาก 250 ต่อ 5 ให้ขับศรีนวลพร้อมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่อีก 3 คน ออกจากสมาชิกภาพพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากได้เคยลงคะแนนสวนทางกับมติของพรรค[ต้องการอ้างอิง] ต่อมาได้ย้ายไป พรรคภูมิใจไทย[ต้องการอ้างอิง] ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ศรีนวลได้ลงรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต 9 ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ได้รับคะแนนอยู่ลำดับที่ 4 พ่ายแพ้ให้แก่นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ พรรคพลังประชารัฐ ลำดับที่ 1[ต้องการอ้างอิง] บทบาทในสภาผู้แทนราษฎรศรีนวลเข้าสู่การเมืองระดับชาติโดยลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต 8 ในนามพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนไปเพียง 29,556 คะแนน แพ้สุรพล เกียรติไชยากร จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้คะแนน 52,165 คะแนน[ต้องการอ้างอิง] ต่อมาสุรพลถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งเพิกถอนสิทธิสมัครไว้เป็นการชั่วคราว 1 ปี ศรีนวลจึงเข้าสู่การเลือกตั้งอีกครั้ง และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงด้วยตนเอง[5] ศรีนวลได้คะแนน 75,891 คะแนน ชนะนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้เพียง 27,861 คะแนน ศรีนวลจึงเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงที่สุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562[6][4] ศรีนวลได้รับการกล่าวถึงทางสื่อมวลชนจากการเป็นผู้เสนอชื่อธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี[7] และการมักอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคำเมือง[8] การลงคะแนนสวนทางกับมติของพรรคศรีนวล ในฐานะสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงบทบาททางการเมืองที่ไม่สอดคล้องกับมติพรรคอนาคตใหม่หลายครั้ง เช่น เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง การพิจารณาร่างพระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 ศรีนวลลงคะแนนงดออกเสียง สวนทางกับมติพรรคที่ให้ลงคะแนนไม่เห็นด้วย โดยศรีนวลให้เหตุผลว่า การงดออกเสียงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด[9][10] วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง การพิจารณาพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ. 2562 ปรากฏว่าพบชื่อของศรีนวลเป็นผู้คะแนนเห็นด้วย[11] สวนทางกับมติพรรคที่ให้ลงคะแนนไม่เห็นด้วย ต่อมาในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคอนาคตใหม่มีมติเสียงข้างมาก 250 ต่อ 5 ให้ขับศรีนวลพร้อมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่อีก 3 คน ออกจากสมาชิกภาพพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากได้เคยลงคะแนนสวนทางกับมติของพรรค[12] ต่อมาได้ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ศรีนวลลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 สังกัดพรรคภูมิใจไทย ในจังหวัดเชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 9 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง[ต้องการอ้างอิง] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรศรีนวลได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 สมัย คือ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
|