เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว 2022
เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว 2022 เป็นการแข่งขันเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ในรูปแบบดั้งเดิมเป็นปีที่ 13 (ไม่นับรวมเดอะสตาร์ ไอดอล ซึ่งแยกเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง) โดยมีการเปลี่ยนกรรมการเป็น ณพสิน แสงสุวรรณ, ธนิดา ธรรมวิมล และ จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม[1] เริ่มรับสมัครผู้เข้าแข่งขันตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ผ่านช่องทางออนไลน์ และออดิชั่นรวมทั้ง 4 ภาค ที่แอ็กซ์ สตูดิโอ เพียงที่เดียว[2] รวมถึงได้ย้ายสถานที่แสดงคอนเสิร์ตในรอบถ่ายทอดสดไปยังเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ภายในศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก[3] โดยปีนี้ทางรายการรับสมัครผู้เข้าเข้าแข่งขันอายุ 15 - 30 ปี ไม่จำกัดสัญชาติของผู้เข้าแข่งขัน[2] การรับสมัครมีการรับสมัครเฉพาะแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของรายการ โดยผู้สมัครต้องอัปโหลดคลิปวิดีโอการร้องเพลงของตัวเองความยาว 2-3 นาที โดยใช้เพลงของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ในการร้อง[2] ซึ่งผู้สมัคร 1 คนสามารถส่งคลิปวิดีโอได้หลายคลิป แต่คณะกรรมการจะคัดเลือกคลิปที่ดีที่สุดมาใช้ในการตัดสินเพื่อเข้าสู่รอบคัดเลือกระดับภาค รอบคัดเลือกรอบคัดเลือกระดับภาคผู้ที่ผ่านเข้ารอบจากการคัดเลือกในช่องทางออนไลน์จะต้องไปแข่งขันต่อในรอบคัดเลือกระดับภาคที่แอ็กซ์ สตูดิโอ ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นสตูดิโอถ่ายทำหลักในรอบคัดเลือกของรายการ โดยรอบแรกจะต้องร้องเพลงที่เตรียมมาต่อหน้ากรรมการทั้ง 3 คน จากนั้นกรรมการจะทำการตัดสินว่าผู้เข้าแข่งขันได้ไปต่อหรือไม่ จากนั้นผู้เข้าแข่งขันที่ได้ไปต่อจะต้องแข่งขันต่อในรอบค้นหาตัวแทนภาค โดยร้องสดในท่อนฮุคของเพลงต่อหน้ากรรมการโดยไม่มีดนตรี จากนั้นกรรมการจะทำการคัดเลือกตัวแทนภาคต่าง ๆ โดยไม่จำกัดจำนวน ภาคเหนือตอนที่ 1 ออกอากาศเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ในสัปดาห์นี้เป็นการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันจากภาคเหนือ โดยในรอบแรกมีผู้ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 13 คน และผู้ที่เป็นตัวแทนของภาคเหนือมี 5 คน ดังนี้[4]
ภาคอีสานตอนที่ 2 ออกอากาศเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ในสัปดาห์นี้เป็นการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันจากภาคอีสาน โดยในรอบแรกมีผู้ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 17 คน และผู้ที่เป็นตัวแทนของภาคอีสานมี 5 คน ดังนี้[5]
ภาคใต้ตอนที่ 3 ออกอากาศเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ในสัปดาห์นี้เป็นการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันจากภาคใต้ โดยในรอบแรกมีผู้ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 14 คน และผู้ที่เป็นตัวแทนของภาคใต้มี 6 คน ดังนี้[6]
ภาคกลางตอนที่ 4 ออกอากาศเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ในสัปดาห์นี้เป็นการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันจากภาคกลาง โดยในรอบแรกมีผู้ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 20 คน และผู้ที่เป็นตัวแทนของภาคกลางมี 8 คน ดังนี้[6]
รอบค้นหา 8 คนสุดท้ายหลังจากผ่านรอบคัดเลือกระดับภาคมาแล้ว ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 24 คนได้เข้าเรียนการร้อง การเต้น และการแสดง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้นเข้าสู่การแข่งขันในรอบค้นหา 8 คนสุดท้าย ผู้เข้าแข่งขันจะต้องจัดโชว์ของตัวเองคนละ 1 เพลง โดยลำดับการร้องของผู้เข้าแข่งขันจะมาจากการเลือกเพลงที่กรรมการต้องการฟัง โดยที่กรรมการจะไม่ทราบมาก่อนว่าผู้เข้าแข่งขันคนใดนำเพลงนั้นมาร้อง จากนั้นกรรมการ รวมถึงผู้บริหารของ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์, ทีมงานของรายการที่มีอำนาจในการตัดสินใจ และผู้รับชมในสตูดิโอ จะร่วมกันลงมติความคิดเห็นเพื่อคัดเลือกให้เหลือ 8 คนสุดท้ายที่จะผ่านเข้าสู่รอบถ่ายทอดสด[7] และก่อนการแข่งขัน มีผู้เข้าแข่งขัน 2 คนที่ถอนตัวออกจากการแข่งขัน ได้แก่ จีนน่า - พัฒน์ชรินท์ สุจริต ที่ติดสัญญาศิลปินฝึกหัดกับต้นสังกัดเดิม และ มิวสิค - กรวีร์ กันทวัง ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ก่อนทำการแข่งขัน ส่งผลให้เหลือผู้เข้าแข่งขัน 22 คน[8]
ผู้เข้าประกวด 8 คนสุดท้าย[3]
โดยหลังจบการแข่งขันในรอบคัดเลือกแล้ว ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 คนได้เข้าไปเก็บตัว ทำกิจกรรรม และฝึกซ้อมในด้านต่าง ๆ ที่บ้าน ภายในโครงการเคฟ เอวา (Kave AVA) อาคารชุดเพื่อการพักอาศัยของแอสเซทไวส์ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต[9] และมีการแถลงข่าวเปิดตัว 8 คนสุดท้ายของเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว 2022 อย่างเป็นทางการ ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พระราม 3 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 โดยทั้ง 8 คนได้ทำการแสดงเพลง "เพื่อดาวดวงนั้น" ซึ่งเป็นเพลงประจำรายการเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว เป็นครั้งแรกในงานนี้อีกด้วย[10] ตารางสรุปผลการแข่งขัน
ลำดับการเรียกชื่อของ 8 คนสุดท้ายการประกาศชื่อของผู้เข้ารอบต่อไป (ตามลำดับ จนถึงผู้ที่ไม่ได้ไปต่อ)
ลำดับเพลงและเหตุการณ์ในการแข่งขันเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว 2022 เป็นครั้งแรกที่จัดการแข่งขันและแสดงคอนเสิร์ตในรอบถ่ายทอดสดที่เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ภายในศูนย์การค้าเอสพละนาด รัชดาภิเษก โดยแต่ละสัปดาห์จะมีการเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าชมรายการลงทะเบียนรับบัตรทั้งบัตรเข้าร่วมชมการถ่ายทอดสด และบัตรผู้โหวต 100 เสียงจากขอบเวที ผ่านทางเฟซบุ๊กของรายการ[3] สัปดาห์ที่ 1ตอนที่ 7 ออกอากาศเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ในสัปดาห์ที่ 1 เป็นการแข่งขันในหัวข้อ "Be Myself" (4 ธันวาคม พ.ศ. 2565) มีรายละเอียดดังนี้
หมายเหตุ : ตารางพื้นสีเหลือง หมายถึง 2 อันดับสุดท้าย (รวมกันได้ 17.43%) ไม่เปิดเผยคะแนน กรรมการ 100 เสียงรับเชิญ
นอกจากนี้ในแต่ละสัปดาห์ ยังมีแขกรับเชิญพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 100 เสียงจากขอบเวที ขึ้นมาร้องเพลงในช่วงที่ 5 ของรายการ ซึ่งในสัปดาห์นี้คือ ลาซวัน ได้ขึ้นมาร้องเพลง "ไม่ตอบเลยน้า" และผู้ที่ไม่ได้ไปต่อในสัปดาห์นี้ คือ สาลี่ - โสมวิมาลา ณ อุบล (หมายเลข 6)[17] สัปดาห์ที่ 2ตอนที่ 8 ออกอากาศเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ในสัปดาห์ที่ 2 เป็นการแข่งขันในหัวข้อ "เพลงยุค Cassette" (11 ธันวาคม พ.ศ. 2565) มีรายละเอียดดังนี้
หมายเหตุ : ตารางพื้นสีเหลือง หมายถึง 2 อันดับสุดท้าย (รวมกันได้ 21.33%) ไม่เปิดเผยคะแนน กรรมการ 100 เสียงรับเชิญ[18]
นอกจากนี้ในแต่ละสัปดาห์ ยังมีแขกรับเชิญพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 100 เสียงจากขอบเวที ขึ้นมาร้องเพลงในช่วงที่ 5 ของรายการ ซึ่งในสัปดาห์นี้คือ ซี - พฤกษ์ พานิช และ นุนิว - ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์ ได้ขึ้นมาร้องเพลง "รักแท้" ซึ่งเป็นเพลงประกอบละคร คุณชาย และผู้ที่ไม่ได้ไปต่อในสัปดาห์นี้ คือ ปังปอนด์ - สุริยกุล พรหมเสน (หมายเลข 1)[16] สัปดาห์ที่ 3ตอนที่ 9 ออกอากาศเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ในสัปดาห์ที่ 3 เป็นการแข่งขันในหัวข้อ "เพลงดังจากละคร" (18 ธันวาคม พ.ศ. 2565) มีรายละเอียดดังนี้
หมายเหตุ : ตารางพื้นสีเหลือง หมายถึง 2 อันดับสุดท้าย (รวมกันได้ 23.34%) ไม่เปิดเผยคะแนน กรรมการ 100 เสียงรับเชิญ
นอกจากนี้ในแต่ละสัปดาห์ ยังมีแขกรับเชิญพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 100 เสียงจากขอบเวที ขึ้นมาร้องเพลงในช่วงที่ 5 ของรายการ ซึ่งในสัปดาห์นี้คือ แก้ม - วิชญาณี เปียกลิ่น ซึ่งเป็นแชมป์ของเดอะสตาร์ 4 ได้ขึ้นมาร้องเพลง "มหันตภัย", "ความผูกพัน(ซื้อความรักไม่ได้)", "แสงและเงา" และ "ไม่มีเธอ ไม่ตาย" และผู้ที่ไม่ได้ไปต่อในสัปดาห์นี้ คือ เชน - พชรเชฏฐ์ เตชะอารีย์กุล (หมายเลข 4)[15] สัปดาห์ที่ 4ตอนที่ 10 ออกอากาศเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ในสัปดาห์ที่ 4 เป็นการแข่งขันในหัวข้อ "เพลงสนุกส่งท้ายปี" (25 ธันวาคม พ.ศ. 2565) มีรายละเอียดดังนี้
หมายเหตุ : ตารางพื้นสีเหลือง หมายถึง 2 อันดับสุดท้าย (รวมกันได้ 27.16%) ไม่เปิดเผยคะแนน กรรมการ 100 เสียงรับเชิญ
นอกจากนี้ในแต่ละสัปดาห์ ยังมีแขกรับเชิญพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 100 เสียงจากขอบเวที ขึ้นมาร้องเพลงในช่วงที่ 5 ของรายการ ซึ่งในสัปดาห์นี้คือ เพอร์เซส (PERSES) บอยกรุ๊ปแนวไทยป็อปจากค่าย G’NEST ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ขึ้นมาร้องเพลง "My Time" และผู้ที่ไม่ได้ไปต่อในสัปดาห์นี้ คือ อาร์ตติส - ธนากรณ์ ญาติกลาง (หมายเลข 5)[14] สัปดาห์ที่ 5ตอนที่ 11 ออกอากาศเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2566 ในสัปดาห์ที่ 5 เป็นการแข่งขันในหัวข้อ "เพลงรุ่นพี่เดอะสตาร์" และ "เพลงของ 3 กรรมการ หนุ่ม-ดา-โดม" (8 มกราคม พ.ศ. 2566) มีรายละเอียดดังนี้
กรรมการ 100 เสียงรับเชิญ
นอกจากนี้ในแต่ละสัปดาห์ ยังมีแขกรับเชิญพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 100 เสียงจากขอบเวที ขึ้นมาร้องเพลงในช่วงที่ 5 ของรายการ ซึ่งในสัปดาห์นี้คือ นิวคันทรี ได้ขึ้นมาร้องเพลง "Stand by หล่อ" และเพลง "ติ่งค่ะ" ผู้ที่ไม่ได้ไปต่อในสัปดาห์นี้ คือ มี่ - ปุญญาดา ผาณิตพจมาน (หมายเลข 7)[13] สัปดาห์ที่ 6ตอนที่ 12 ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2566 ในสัปดาห์ที่ 6 เป็นการแข่งขันในหัวข้อ "เพลงฮิต 100 ล้านวิว" และ "เพลงคู่ศิลปิน" (15 มกราคม พ.ศ. 2566) มีรายละเอียดดังนี้
กรรมการ 100 เสียงรับเชิญ
นอกจากนี้ในแต่ละสัปดาห์ ยังมีแขกรับเชิญพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 100 เสียงจากขอบเวที ขึ้นมาร้องเพลงในช่วงที่ 5 ของรายการ ซึ่งในสัปดาห์นี้คือ บูม - สหรัฐ เทียมปาน ซึ่งเป็นแชมป์ของเดอะสตาร์ ไอดอล ได้ขึ้นมาร้องเพลง “ฟีลแฟน” ซึ่งเป็นซิงเกิลใหม่ที่เขาได้ร้องสดเป็นครั้งแรก และผู้ที่ไม่ได้ไปต่อในสัปดาห์นี้ คือ แซม - ซามูเอล ดับประดิษฐ์ อาคูเบีย (หมายเลข 2)[12] สัปดาห์ที่ 7 (สุดท้าย)ตอนที่ 13 (ตอนจบ) ออกอากาศเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2566 ในสัปดาห์ที่ 7 เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ในหัวข้อ Mini Concert 15 นาที (22 มกราคม พ.ศ. 2566) และได้ปรับสัดส่วนคะแนนให้มาจากผู้ชมทั่วประเทศทั้งหมด โดยไม่มีการคิดคะแนนของกรรมการและ 100 เสียงจากขอบเวที มีรายละเอียดดังนี้
แขกรับเชิญพิเศษ
ในรอบชิงชนะเลิศยังได้รวม 6 คนที่ไม่ได้ไปต่อในเดอะสตาร์ 2022 และแขกรับเชิญพิเศษ คือ 4 โพดำ มาร้องเพลงร่วมกันในช่วงที่ 4 ของรายการอีกด้วย ในปีนี้เดอะสตาร์คนที่ 14 ของเมืองไทย (นับรวมเดอะสตาร์ ไอดอล เข้าไปด้วย) ได้แก่ เจมส์ - เจตพล กนิษฐชาต และรองชนะเลิศได้แก่ ชินจัง - ญาณาธิป ใจจุล[11] ดูเพิ่มอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |