โบอิง 747-400
โบอิง 747-400 เป็นเครื่องบินรุ่นรองล่าสุดของ โบอิง 747 ถูกแทนที่โดยโบอิง 747-8 ที่ปรับปรุงแล้ว ผลิตโดยฝ่ายผลิตเครื่องบินพาณิชย์โบอิง และเคยเป็นเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดจนกระทั่งการให้บริการของแอร์บัส เอ 380 โบอิงเปิดตัว 747-400 อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1985 โดยเครื่องบินลำแรกสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 1988 และเริ่มทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1988 จนกระทั่งในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 1989 จึงได้มีการส่งมอบ 747-400 ลำแรกให้กับนอร์ทเวสต์แอร์ไลน์[1] ทั้งนี้การผลิตเครื่องบินรุ่น 747-400 สิ้นสุดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2007 พร้อมกับการยกเลิกคำสั่งซื้อของฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ (ซึ่งเปลี่ยนเป็นโบอิง777-300อีอาร์แทน) เครื่องลำสุดท้ายส่งมอบให้กับไชนาแอร์ไลน์ เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2005 รุ่น747-400747-400 ขยายความกว้างของปีกอีก 2 เมตร (6 ฟุต) รวมถึงติดตั้งวิงเล็ตอีก 2 เมตร (6 ฟุต) เมื่อเทียบกับรุ่น -300 และยังขยายความยาวพื้นที่ของชั้นสองเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้แม้ว่าความยาวของปีกจะเพิ่ม แต่น้ำหนักของปีกลดลง เนื่องจากใช้วัสดุคอมโพสิตและอะลูมิเนียมอัลลอย การผลิตของ 747-400 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2007[2] โดยผู้สั่งซื้อลำสุดท้ายเป็นของไชน่าแอร์ไลน์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2003 และส่งมอบเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2007 747-400F747-400เอฟ (Freighter; F) เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า ซึ่งใช้ลำตัวเครื่องจาก 747-200F และแตกต่างจาก -400 ที่เป็นเครื่องบินโดยสาร ตรงที่ความยาวของชั้นสองสั้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเริ่มทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 และเริ่มให้บริการครั้งแรกโดยคาร์โกลักซ์ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 และมีลูกค้าหลักอย่างโคเรียนแอร์, คาร์โกลักซ์, ไชน่าแอร์ไลน์, โพลาร์แอร์คาร์โก, นิปปอนคาร์โกแอร์ไลน์, สิงคโปร์แอร์ไลน์ และแอตลาสแอร์ ทั้งนี้กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้สั่งซื้อ 747-400F ไป 7 ลำ และดัดแปลงใหม่เป็นเครื่องบิน Airborne Laser โดยติดตั้งเครื่องยิงแสงเลเซอร์ไว้ที่ปลายจมูกเครื่องบิน และให้ชื่อเรียกว่า โบอิง YAL-1A 747-400M747-400เอ็ม (Combi; C) เป็นเครื่องบินผสมระหว่างเครื่องบินโดยสาร และเครื่องบินขนส่งสินค้า โดยมีประตูขนถ่ายสินค้าที่ด้านท้ายลำตัวเครื่อง -400M เริ่มทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1989 และเริ่มให้บริการครั้งแรกโดยเคแอลเอ็ม เมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1989 747-400D747-400ดี (Domestic; D) เป็นความต้องการพิเศษจากเจแปนแอร์ไลน์ ที่ต้องการให้บริการเที่ยวบินระยะสั้นภายในประเทศ โดยจัดผังที่นั่งใหม่ สามารถจุผู้โดยสารได้สูงสุด 568 ที่นั่งสำหรับการจัดแบบ 3 ชั้นบิน และ 660 ที่นั่งสำหรับการจัดแบบที่นั่งชั้นประหยัดเพียงอย่างเดียว โดย -400D จะไม่เพิ่มความยาวของปีกและวิงเล็ตเหมือนรุ่นอื่นๆ เพราะไม่มีความจำเป็นสำหรับเที่ยวบินระยะสั้น และมีจำนวนเที่ยวบินที่ขึ้นลงบ่อยครั้ง ทั้งนี้ -400D สามารถปรับเปลี่ยนให้รุ่นที่มีพิสัยบินระยะไกลได้เมื่อต้องการ 747-400ดี เริ่มทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1991 และเริ่มให้บริการครั้งแรกโดยเจแปนแอร์ไลน์ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1991 747-400ER747-400อีอาร์ (Extended range; ER) เป็นรุ่นปรับปรุงให้มีพิสัยการบินมากกว่าเดิม 805 กิโลเมตร หรือสามารถบรรทุกสินค้าได้มากกว่าเดิม 6,800 กิโลกรัม และมีการตกแต่งภายในแบบเดียวกับโบอิง 777 ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปว่า เป็นการตกแต่งที่เป็นสัญลักษณ์ของโบอิง (Boeing Signature Interior) พร้อมเพิ่มทางเลือกการเพิ่มขนาดถังเชื้อเพลิง 3,240 แกลลอน 1 หรือ 2 ถัง ไว้ในส่วนห้องเก็บสินค้าด้านหน้าอีกด้วย 747-400อีอาร์ เปิดตัวเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 และส่งมอบครั้งแรกให้กับควอนตัสเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2002 747-400ERF747-400ERF เป็นรุ่นขนส่งสินค้าของ -400อีอาร์ โดยสามารถบรรทุกได้สูงสุด 112,760 กิโลกรัม (248,600 ปอนด์) มากกว่ารุ่น -400เอฟ อยู่ 9,980 กิโลกรัม (22,000 ปอนด์) ที่น้ำหนักสูงสุดเมื่อนำเครื่องขึ้นเท่ากัน ทั้งนี้ -400ERF มีพิสัยบินสูงสุด 9,200 กิโลเมตร ไกลกว่า -400F อยู่ประมาณ 525 กิโลเมตร ทั้งนี้รุ่นขนส่งสินค้าของ 747-8 จะสามารถบรรทุกสินค้าได้มากกว่า แต่มีพิสัยบินใกล้กว่า -400อีอาร์เอฟ 747-400BCF747-400บีซีเอฟ (Boeing Converted Freighter; BCF) หรือเดิมคือ 747-400เอสเอฟ (Special Freighter; SF) เป็นรุ่นที่ปรับเปลี่ยนจากเครื่องบินโดยสาร 747-400 มาเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า โดยเริ่มโครงการนี้เมื่อปี 2004 และเครื่องลำแรกที่ได้ปรับเปลี่ยนแล้วส่งมอบให้กับคาเธย์แปซิฟิกคาร์โก เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2005 747 LCF ดรีมลิฟเตอร์747 แอลซีเอฟ ดรีมลิฟเตอร์ (Large Cargo Freighter; LCF) หรือ โบอิง ดรีมลิฟเตอร์ เป็นรุ่นดัดแปลงของเครื่องบิน 747-400 เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าขนาดใหญ่กว่าปกติ เพื่อใช้สำหรับการขนส่งชิ้นส่วนของโบอิง 787มายังโรงงานผลิตเครื่องบินที่เอเวอร์เร็ตต์ รัฐวอชิงตัน[3] ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาการขนส่งชิ้นส่วนกว่าการขนส่งทางเรือ โดยลำตัวเครื่องบินของแอลซีเอฟจะคล้ายกับซุปเปอร์กัปปี และแอร์บัส เบลูกา ออกแบบโดยสำนักงานโบอิงที่มอสโก[4] โดยเครื่องรุ่นนี้จะให้บริการโดย เอเวอร์กรีนอินเตอร์เนชั่นเนลแอร์ไลน์ และโบอิงจะไม่ผลิตเครื่องรุ่นนี้ออกขายให้กับลูกค้ารายอื่น และโบอิงจะใช้สำหรับการขนส่งพิเศษของโบอิงเอง ผู้ให้บริการณ เดือนมกราคม ค.ศ. 2023 มีเโบอิง 747-400 จำนวน 269 ลำให้บริการ โดยส่วนใหญ่เป็นรุ่นขนส่งสินค้า ผู้ให้บริการผู้โดยสารรายใหญ่ที่สุด ได้แก่แอทลัสแอร์ (35), คาลิตาแอร์ (24), ไชนาแอร์ไลน์คาร์โก้ (17), โรซิยะห์แอร์ไลน์ (9),และ ลุฟท์ฮันซ่า (8) ผู้ให้บริการในอดีตรายชื่อนี้ยังรวมถึงผู้ให้บริการที่ใช้เครื่องบินชั่วคราวนอกเหนือจากผู้ให้บริการหลัก:
การส่งมอบ
ข้อมูลจำเพาะ
เครื่องบินที่ใกล้เคียงกันรุ่นที่ใกล้เคียงกันเครื่องบินที่ใกล้เคียงกันอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ โบอิง 747
|