โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ประเภทสหศึกษา ในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัย ลำดับที่สอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กรมสามัญศึกษา (ปัจจุบันคือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ได้รับบริจาคที่ดินจากนายผาสุกและนางเง็ก มณีจักร สองสามีภรรยาคหบดีชาวอำเภอปากเกร็ด ที่มีความประสงค์ให้สร้างโรงเรียนในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัย บนพื้นที่ดังกล่าว จึงเกิดการประสานงานจัดตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2521 เดิมให้ชื่อไว้ว่า “โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ๒ (ผาสุก มณีจักร)” และมอบหมายให้ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รักษาราชการในตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน จนถึงปลายปีถัดมา จึงเปลี่ยนชื่อโรงเรียน เป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และในปีเดียวกัน นางอัมพา แสนทวีสุข ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ใหญ่คนแรก และเลื่อนฐานะขึ้นเป็นผู้อำนวยการคนแรกของโรงเรียนฯ ในเวลาต่อมา โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด อาคารเรียน “สธ ๑, สธ ๒ และ สธ ๓” เมื่อกลางปี พ.ศ. 2525 และปลายปี พ.ศ. 2529 ตามลำดับ รวมทั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อกลางปี พ.ศ. 2555 ตลอดจนโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามอาคารเรียน “สธ ๔” และอาคารหอประชุม “สิรินธราลัย” ด้วย นอกจากนี้ โรงเรียนฯ ยังได้รับรางวัลสถานศึกษาพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2532 และ 2544 และในปี พ.ศ. 2541 นักเรียนของโรงเรียนฯ ยังได้รับรางวัลเหรียญทองแดง จากการเข้าร่วมการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิก ที่ประเทศอิตาลี ในฐานะผู้แทนประเทศไทย ขณะที่นักกีฬาของโรงเรียนฯ ได้รับรางวัลเหรียญทอง ในฐานะผู้แทนทีมชาติไทย จากการเข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 อีกด้วย[1][2] ประวัติโรงเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ถือกำเนิดขึ้น โดยเจตจำนงของผาสุก และเง็ก มณีจักร คหบดีชาวปากเกร็ดสองสามีภรรยา ซึ่งมีบุตรชายและหลานชายเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย[3] บริจาคที่ดินบริเวณใกล้กับถนนติวานนท์เป็นจำนวน 25 ไร่ 1 งาน 18 ตารางวา เพื่อสร้างโรงเรียนในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อต้นปีการศึกษา 2520 โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งคือ สุวรรณ จันทร์สม อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย[4] ผู้อำนวยการกองการมัธยมศึกษาในขณะนั้น, สมพงษ์ พูลสวัสดิ์ และกว้าง รอบคอบ อดีตอธิบดีกรมสามัญศึกษา ขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนปากเกร็ด เป็นผู้ประสานงานจัดตั้ง ในระยะเริ่มแรก โรงเรียนยังไม่มีอาคารเรียนถาวร มีเพียงที่ดินซึ่งกำลังถมและปรับสภาพ จึงต้องไปอาศัยใช้โรงเรียนชลประทานสงเคราะห์ เป็นสถานที่ในการรับสมัครเข้าเรียน และเมื่อกระทรวงศึกษาธิการประกาศตั้งโรงเรียนฯ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2521 โดยใช้ชื่อว่า โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ๒ (ผาสุก มณีจักร) มีคณาจารย์ชุดแรก 22 คน นักเรียนชั้น ม.ศ.1 และ ม.1 รุ่นแรก จำนวน 12 ห้อง รวม 527 คน ครู-อาจารย์ 22 ท่าน ได้ฝากนักเรียนชายให้เรียนที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และฝากนักเรียนหญิงให้เรียนที่โรงเรียนสตรีนนทบุรี โดยอยู่ในความดูแลของคณาจารย์ชายหญิง รวม 9 ท่าน ต่อมาในปีการศึกษา 2522 โรงเรียนได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนชั่วคราว จำนวน 25 ห้องเรียน และอาคารเรียนถาวร จึงได้ย้ายนักเรียนกลับคืนมาทั้งหมด แต่เนื่องจากบริเวณที่ตั้งของโรงเรียนไม่ติดถนน ประพัฒน์ แก่นรัตนะ เจ้าของที่ดินด้านหน้าโรงเรียนที่ติดถนนติวานนท์ จึงได้อนุญาตให้ที่ดินเพื่อสร้าง “ถนนแก่นรัตนะ” (ถนนส่วนบุคคล) เป็นทางเข้าออกโรงเรียน ขนาดของถนน กว้าง 12 เมตร ยาว 343 เมตร และได้ทำหนังสือมอบไว้ต่อกรมสามัญศึกษา ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 ได้บริจาคที่ดินในส่วนที่เป็นถนนให้กับทางโรงเรียน โดยเทศบาลนครปากเกร็ดจัดงบประมาณจัดสร้างถนนคอนกรีตให้กับทางโรงเรียน ทำให้พื้นที่ของโรงเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 25 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา จนถึงปัจจุบัน ต่อมา ในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อโรงเรียน จาก โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ๒ (ผาสุก มณีจักร) เป็น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2525 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระนามาภิไธยย่อ สธ ให้เป็นนามของอาคารเรียนสองหลังแรกของโรงเรียนฯ คือ สธ ๑ และ สธ ๒ พร้อมทั้งได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารเรียนทั้งสองหลังด้วยพระองค์เอง โดยอักษรพระนามาภิไธยย่อ สธ ที่ประดับอยู่บนอาคารในวันนั้น ทำขึ้นจากโฟมพ่นสีทอง ซึ่งเป็นผลงานของนายอมร นิพันธ์ประศาสน์ อาจารย์หัวหน้าหมวดวิชาศิลปศึกษาในขณะนั้น ปีการศึกษา 2526 โรงเรียนฯ ได้รับงบประมาณให้สร้างถนนลาดยาง จากริมถนนติวานนท์ ถึงทางเข้าประตูโรงเรียน ต่อมาในปีการศึกษา 2527 โรงเรียนฯ ได้รับงบประมาณจากกระทรวงศึกษาธิการ และเงินสมทบจากสมาคมผู้ปกครองและครูของโรงเรียนฯ เพื่อสร้างอาคารหอประชุม และในปีการศึกษา 2528 โรงเรียนฯ ได้รับงบประมาณจากกรมสามัญศึกษา และเงินสมทบ จากสมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัยฯ, สมาคมผู้ปกครองและครูฯ และเงินบำรุงการศึกษา เพื่อจัดสร้างถนนคอนกรีต ภายในบริเวณโรงเรียนฯ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามอาคารหอประชุมโรงเรียนฯ ว่า หอประชุม สิรินธราลัย และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ศาสตราจารย์ ดร.ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ในขณะนั้น เป็นผู้แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธีเปิดหอประชุมฯ วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2535 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนามอาคารเรียนหลังใหม่ว่า สธ ๓ พร้อมทั้งได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารเรียนดังกล่าว พร้อมทั้งสวนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษามหาราชินี, ห้องสมุดสวนเสริมปัญญา และศาลากลางน้ำ ด้วยพระองค์เอง นอกจากนี้ ยังทรงเยี่ยมชมห้องสมุดติณสูลานนท์ รวมถึงนิทรรศการและกิจกรรมทางวิชาการของคณาจารย์และนักเรียนด้วย รวมเวลาที่ประทับอยู่ที่โรงเรียนราว 4 ชั่วโมงเศษ จากนั้น ในปีการศึกษา 2537 โรงเรียนฯ ได้จัดตั้ง ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ และ ศูนย์อินเทอร์เน็ตกุหลาบนนท์ เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงเรียน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ในปีการศึกษา 2538 โรงเรียนฯ ยังได้ทดลองระบบการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม ไปยัง โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จังหวัดตาก อีกด้วย ปัจจุบัน เป็นโรงเรียนคู่พัฒนา ร่วมกับโรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ของโรงเรียนฯ อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งทอดพระเนตรความก้าวหน้าของโรงเรียนฯ ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ของนักเรียนด้วย นับเป็นการเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโรงเรียนฯ เป็นครั้งที่สามนับแต่ก่อตั้งเป็นต้นมา[5] ปัจจุบัน (พ.ศ. 2565) นายไพฑูรย์ จารุสาร เป็นผู้อำนวยการ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี มีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา และซื้อที่ดินเพิ่มเติม จำนวน หนึ่งไร่ สามงาน เจ็ดสิบสองตารางวา การเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 94 ห้องเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ต้น; ม.1-ม.3) จำนวน 45 ห้องเรียน (15 : 15 : 15) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.ปลาย; ม.4-ม.6) จำนวน 49 ห้องเรียน (17 : 16 : 16) มีนักเรียนทั้งสิ้น 3,684 คน ผู้บริหาร 5 คน ครู 161 คน อัตราจ้าง 25 คน เจ้าหน้าที่สำนักงาน 36 คน นักการ 22 คน พนักงานขับรถ 5 คน ครูต่างชาติ 27 คน พนักงานรักษาความปลอดภัย 4 คน รวม 288 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มกราคม 2565) สัญลักษณ์ประจำโรงเรียนหลวงพ่อสวนกุหลาบเนื่องในโอกาส ครบรอบ 100 ปี โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้ร่วมกับ สมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินการจัดสร้างพระพุทธรูปหลวงพ่อสวนกุหลาบจำลองขึ้น และทางโรงเรียนได้รับหลวงพ่อสวนกุหลาบจำลององค์ดังกล่าว จากการอุปการะของ คุณบุญมา และคุณไพเราะห์ พึ่งทอง โดยจัดพิธีอัญเชิญมาประดิษฐานยังโรงเรียน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525[6][7] ต่อมา เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 นายโอฬาร อัศวฤทธิกุล ร่วมกับ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้ทำพิธีพุทธาภิเษกเททองหล่อหลวงพ่อสวนกุหลาบ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ โดยมีขนาดหน้าตักกว้าง 19 นิ้ว เพื่อมอบให้กับโรงเรียนในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัย สำหรับเป็นพระพุทธรูปประจำโรงเรียน ในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 นายสุโข วุฑฒิโชติ ผู้อำนวยการโรงเรียนในขณะนั้น พร้อมด้วยคณาจารย์ และนักเรียน ได้จัดกระบวนอัญเชิญหลวงพ่อสวนกุหลาบมาประดิษฐานชั่วคราว ณ ห้องผู้อำนวยการ เมื่อหอพระจัดสร้างเสร็จสมบูรณ์ จึงได้อัญเชิญหลวงพ่อสวนกุหลาบมาประดิษฐาน ณ หอพระหน้าโรงเรียน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543[2] พระพุทธรูป ปาง 25 พุทธศตวรรษนางดุษฎี พงศ์ศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน มีดำริให้จัดสร้างพระพุทธรูปปางลีลา ในพุทธลักษณะใกล้เคียงกับพระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ขึ้น เพื่อประดิษฐานบริเวณหน้าโรงเรียน เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของบุคลากรภายในโรงเรียน เมื่อองค์พระจัดสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงได้ขนานนามว่า พระพุทธรูปปาง 25 พุทธศตวรรษ มีความหมายว่า พระพุทธรูปอันสร้างเป็นที่ระลึก ในโอกาสที่พระพุทธศาสนาบรรจบสองพันห้าร้อยปี โดยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ได้อัญเชิญมาประดิษฐานเคียงเบื้องขวาของหลวงพ่อสวนกุหลาบ ณ หอพระหน้าโรงเรียน จนถึงปัจจุบัน[8] พระกริ่งปัญจพรพระกริ่งปัญจพรนี้ มีชนวนเก่ามาแต่สมัย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) เจ้าคุณสนธิ์ เจ้าคุณศรีประหยัด ชนวนพระชินราชอินโดจีน และโลหะอาถรรพณ์ รวมทั้งแผ่นพระยันต์ จากเกจิอาจารย์อีกหลายรูป โดยประกอบพิธีปลุกเสก ที่พระอุโบสถ วัดพระยาทำวรวิหาร กรุงเทพมหานคร พระกริ่งปัญจพรองค์นี้ ประสิทธิ์และทวีรัตน์ สุขโชติ อดีตอาจารย์ของโรงเรียน เป็นผู้อุปการะมอบให้แก่ทางโรงเรียน เพื่ออัญเชิญมาประดิษฐาน ภายในหอพระบริเวณหน้าโรงเรียน เป็นสิริมงคลแก่บุคลากรของโรงเรียนสืบไป พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5เป็นพระบรมรูปประทับยืนเต็มพระองค์ ขนาดหนึ่งเท่าครึ่งของพระองค์จริง ฉลองพระองค์ชุดสากล พระหัตถ์ซ้ายถือธารพระกร พระหัตถ์ขวาถือพระมาลา ความสูง 267 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 800-1,000 กิโลกรัม รมสีเนื้อมันปู หรือสีเม็ดมะขามสุก[2] ประดิษฐานบนเวทีหน้าลานอเนกประสงค์ของโรงเรียนฯ ซึ่งเดิมทีเดียว โรงเรียนฯ มีเพียงพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานบนเวทีหน้าลานเอนกประสงค์เท่านั้น[9] เพลงประจำโรงเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ใช้เพลงประจำโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เป็นเพลงประจำโรงเรียน ร่วมกับโรงเรียนในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัย ทั้ง 10 แห่ง โดยหม่อมราชวงศ์เลื่อน สิงหรา เป็นผู้ประพันธ์คำร้อง จากทำนองแขกต่อยหม้อ จังหวะสองชั้น[10]และในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2543 ซึ่งตรงกับวันสถาปนาโรงเรียน ครบรอบ 22 ปี นายสุโข วุฑฒิโชติ ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้มีดำริในการจัดทำอัลบั้มเพลงของโรงเรียนขึ้น หนึ่งในจำนวนดังกล่าวนั้น คือเพลงมาร์ชสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี ซึ่งแต่งขึ้นเพื่อเป็นเพลงมาร์ชประจำโรงเรียนด้วย[11] สีประจำโรงเรียน
ต้นไม้ประจำโรงเรียน
รายนามอาจารย์ใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี
สถานที่ตั้ง อาคาร และ สถานที่ต่าง ๆ ภายในโรงเรียนสถานที่ตั้งโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ตั้งอยู่เลขที่ 51/4 หมู่ที่ 5 ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ใกล้กับห้าแยกปากเกร็ด โดยมาตามถนนติวานนท์ ทางที่มุ่งหน้าไปยังจังหวัดปทุมธานี ประมาณ 1 กิโลเมตร หรือหากมาจากสี่แยกสวนสมเด็จฯ ให้มาตามถนนติวานนท์ ทางที่มุ่งหน้าไปอำเภอปากเกร็ด ประมาณ 5 กิโลเมตร[16] สามารถเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางร่วมบริการ ของ ขสมก สาย 33 และ 90 อาคารต่าง ๆ ภายในโรงเรียน
อาคารเรียนในอดีต
สถานที่สำคัญภายในโรงเรียน
ลักษณะชุมชนโดยรอบโรงเรียนชุมชนที่อยู่ล้อมรอบโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี เป็นการผสมผสานระหว่างชุมชนพื้นบ้านดั้งเดิม ที่ประกอบอาชีพทำสวนเป็นหลัก และชุมชนใหม่ ในรูปแบบหมู่บ้านจัดสรร (เมืองทองธานี, บ้านสวนกุหลาบ) แวดล้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือน สถานที่ราชการ (ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ) โรงพยาบาล (โรงพยาบาลชลประทาน, โรงพยาบาลปากเกร็ด, โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ฯลฯ) ธนาคาร โรงงานอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั้งของรัฐบาล และเอกชน (โรงเรียนปากเกร็ด, โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี, โรงเรียนชลประทานวิทยา, โรงเรียนชลประทานสงเคราะห์, ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด ฯลฯ) ห้างสรรพสินค้า (เซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ, โรงภาพยนตร์เมเจอร์ฮอลลีวูด แจ้งวัฒนะ) วัด (วัดชลประทานรังสฤษฎ์, วัดกู้) สถานที่ท่องเที่ยว (สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ นนทบุรี, เกาะเกร็ด ฯลฯ) สิ่งก่อสร้างสำคัญ (สะพานพระราม 4, อุโมงค์ปากเกร็ด) เป็นต้น[2] เกียรติยศของโรงเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ได้พัฒนาการจัดการศึกษา และการอำนวยประโยชน์ทางการศึกษา ให้แก่นักเรียนอย่างต่อเนื่อง จนทัดเทียมและนำหน้าสถานศึกษาอื่น ๆ โดยได้รับรางวัลต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เช่น รางวัลสถานศึกษาพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2532 และ ปีการศึกษา 2544, รางวัลโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2532 นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลการจัดบรรยากาศห้องสมุดดีเด่น และรางวัลการใช้ห้องสมุดเพื่อการเรียนการสอนดีเด่น จากกรมสามัญศึกษา ประจำปีการศึกษา 2533, รางวัลโรงเรียนพัฒนาห้องสมุดดีเด่น จากกรมสามัญศึกษา ประจำปีการศึกษา 2534, รางวัลห้องสมุดโรงเรียนที่มีผลงานดีเด่น จากสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2535, ห้องสมุดโรงเรียนได้รับการคัดเลือกให้เป็น ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก ของกลุ่มโรงเรียนมัธยมศึกษาส่วนกลาง กลุ่มที่ 9 จากกรมสามัญศึกษา, เป็นห้องสมุดโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา จากจำนวน 11 แห่ง ที่ได้รับการคัดเลือกจาก สถาบันองค์การสหพันธ์ห้องสมุดนานาชาติ ให้เป็นสถานที่ศึกษาดูงานของคณะบรรณารักษ์จากทั่วโลก ที่เข้าร่วมการประชุมบรรณารักษ์นานาชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2542, โล่ประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนมัธยมศึกษาส่วนกลางขนาดใหญ่พิเศษ ที่จัดกิจกรรมการอ่านเฉลิมพระเกียรติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อปีการศึกษา 2542 เป็นต้น[2] เกียรติยศทางการศึกษาโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ได้จัดส่งนักเรียนที่มีความสามารถในด้านต่าง ๆ เข้าประกวดและแข่งขันในกิจกรรมที่หน่วยงานภายนอกจัดขึ้นมาโดยตลอด และประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ มาเป็นลำดับ โดยเริ่มสร้างชื่อเสียงมาตั้งแต่ได้รับรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันตอบปัญหาจากสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อปี พ.ศ. 2524 ต่อมาในปี พ.ศ. 2526 ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันตอบปัญหา ในรายการ 180 ไอคิว ทาง ททบ.5 และได้รับรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันตอบปัญหา ในรายการ ธรรมะกับเยาวชน ทาง ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. อีกด้วย ในปี พ.ศ. 2529 ได้รับรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันตอบปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ในรายการ เสาร์สโมสร ทาง ททบ.5 ต่อมา ในปี พ.ศ. 2530 ได้รับประทานเกียรติบัตร ในการตอบปัญหาธรรมะกับเยาวชน จาก สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในปีเดียวกันนั้น ยังได้รับรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษ ในรายการ เชลล์ ควิซ ทางช่อง 9 และเป็นแชมป์ 9 สมัย จากการตอบปัญหาในรายการ เยาวชนคนเก่ง ทางช่อง 9 เช่นกัน ในปี พ.ศ. 2531 ได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นการทัศนศึกษาที่ประเทศอังกฤษ จากรายการ เก่งจริงๆ ทาง ททบ.5 ในปีต่อมา (พ.ศ. 2532) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ การแข่งขันทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และในปี พ.ศ. 2534 ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวด โครงการเยาวชนช้างเผือก ของเครือซิเมนต์ไทย ต่อมา ในปี พ.ศ. 2541 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ในการแข่งขันตอบปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในปีถัดมา ได้รับรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันตอบปัญหาทางวิชาการ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในงานวันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2542 ในระดับชาติ พ.ศ. 2543 นักเรียนของโรงเรียน สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็นลำดับที่ 1 ของคณะสหเวชศาสตร์ สาขากายภาพบำบัด และคณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังได้รับทุนการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ที่ประเทศเยอรมนี และญี่ปุ่น และศึกษาในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาโท ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน อีกด้วย ในระดับนานาชาติ นักเรียนของโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิก ประจำปี พ.ศ. 2541 ที่ประเทศอิตาลี ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง และการแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิก ประจำปี พ.ศ. 2542 ซึ่งสามารถผ่านเข้าถึงรอบ 12 คนสุดท้าย[2] เกียรติยศทางการกีฬานักกีฬาของโรงเรียน ได้รับคัดเลือกเข้าแข่งขันในนามทีมชาติไทย ในหลายชนิดกีฬา เช่น วอลเลย์บอล, วอลเลย์บอลชายหาด (เอเชียนเกมส์ 1998 ประเทศไทย), เทควันโด (ซีเกมส์ 2003 ประเทศเวียดนาม), ฟันดาบ (ซีเกมส์ 2001 ประเทศมาเลเซีย) เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล จากการส่งทีมโรงเรียนเข้าแข่งขัน ในระดับอำเภอ จนถึงระดับประเทศ เช่น ฟุตบอล (รองชนะเลิศอันดับ 1 ฟุตบอลนักเรียนกรุงเทพมหานคร รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี), วอลเลย์บอล (ประเภทหญิง ชนะเลิศ กีฬานักเรียนกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2540 รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี), วอลเลย์บอลชายหาด (ประเภทหญิง ชนะเลิศ สิงห์ไทยแลนด์โอเพ่น ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2544 จังหวัดขอนแก่น), กรีฑา (6 เหรียญทอง การแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 22 และ โล่รางวัลนักกรีฑาดีเด่น กีฬานักเรียนกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2542), ว่ายน้ำ (2 เหรียญทอง กีฬานักเรียนกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2543), แบดมินตัน (ชนะเลิศ กีฬานักเรียนจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2543) เป็นต้น[2] เกียรติยศทางกิจกรรมกิจกรรมเชียร์และแปรอักษร มีการตั้งชมรมขึ้นภายในโรงเรียน เพื่อเป็นผู้แทนโรงเรียนไปจัดกิจกรรมภายนอก มีผลงานสำคัญคือ ในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ. 2543 และ พิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2542 นอกจากนี้ กิจกรรมวงโยธวาทิต ยังได้รับรางวัลเหรียญเงิน จากการแข่งขันวงโยธวาทิตแห่งประเทศไทย และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 (ประเภท ก) จากการประกวดวงโยธวาทิตนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2544[2] กิจกรรมของโรงเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ได้จัดให้มีกิจกรรมภายในโรงเรียน ส่งผู้แทนนักเรียนออกไปร่วมกิจกรรมภายนอกโรงเรียน ทั้งกับโรงเรียนใกล้เคียง โรงเรียนในจังหวัดนนทบุรี และโรงเรียนในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการฝึกฝนให้นักเรียนกล้าคิด กล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี ตลอดจนการใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลที่มีความแตกต่างกันในสังคม กิจกรรมภายในโรงเรียน
กิจกรรมชุมนุมเชียร์และแปรอักษรที่ ม.1 และ ม.2 ทุกคนต้องผ่านการเข้าร่วม และเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมของนักเรียนสวนกุหลาบทุกแห่งต้องรู้จักและปฏิบัติ การแข่งขันกีฬาภายใน
การแข่งขันกีฬาภายในของโรงเรียนฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 คณะสีคือ คณะสีเขียว คณะสีแดง คณะสีเหลือง คณะสีม่วง และ คณะสีน้ำเงิน ต่อมา (ตั้งแต่ พ.ศ. 2545) มีการแต่งชื่อคณะสี ให้ไพเราะและคล้องจองกันด้วยคือ พฤกษาขจี, รพีจรัส, ปภัสอำพัน, อัญชันรุจี และ นทีพิสุทธิ์ ตามลำดับ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในหลายชนิดกีฬา เช่น ฟุตบอล, บาสเกตบอล, วอลเลย์บอล,กรีฑา, แบดมินตัน, แชร์บอล, เปตอง, ว่ายน้ำ เป็นต้น รวมถึงจัดกิจกรรมเชียร์และแปรอักษรการประกวดเต้นโคฟเวอร์และประชันธง ตามคณะสี วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในโรงเรียนฯ ส่งเสริมการออกกำลังกาย ตลอดจนก่อให้เกิดความสนุกสนานระหว่างเพื่อนนักเรียน นิทรรศการทางวิชาการ
การจัดงานสัปดาห์นิทรรศการทางวิชาการของโรงเรียนฯ มีชื่องานว่า สวนฯนนท์ปริทรรศน์ จัดขึ้นเป็นประจำในช่วงกลางเดือนมกราคมของทุกปี โดยเป็นการแสดงผลงานต่าง ๆ ของอาจารย์และนักเรียน เพื่อให้บุคคลภายในและภายนอกโรงเรียนฯ ได้เล็งเห็นถึงความสามารถของบุคลากรของโรงเรียนฯ ตลอดจนเป็นเวทีกลาง ในการแลกเปลี่ยนทรรศนะ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงาน และแนวคิดทางวิชาการต่าง ๆ กิจกรรมชุมนุม
กิจกรรมชุมนุม เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมตามจินตนาการของตน ภายใต้เหตุผล และความควบคุมของอาจารย์ที่ปรึกษาชุมนุม เพื่อสร้างผลงานออกสู่สาธารณะต่อไป โดยภายในโรงเรียนฯ ได้มีการก่อตั้งชุมนุมขึ้นเป็นจำนวนมาก ตามความสนใจของนักเรียนที่มีหลากหลาย ทั้งด้านภาษา กีฬา สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม สังคม พาณิชยกรรม คอมพิวเตอร์ ศิลปศึกษา เป็นต้น วารสารสวนกุหลาบนนท์วารสารสวนกุหลาบนนท์ เดิมออกเป็นรายภาคเรียน ปีละสองครั้ง มีสมาคมผู้ปกครองและครูของโรงเรียนฯ เป็นเจ้าของ ปัจจุบันเป็นวารสารรายปี ซึ่งโรงเรียนฯ รับเป็นเจ้าของ โดยมีชุมนุมประชาสัมพันธ์ เป็นกองบรรณาธิการ มีเนื้อหาข่าวสาร รวมไปถึงกิจกรรม และภาพบรรยากาศต่าง ๆ ตลอดทั้งปีการศึกษา วงโยธวาทิตของโรงเรียนวงโยธวาทิต โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2523 โดยได้รับการสนับสนุนจาก นางอัมพา แสนทวีสุข ผู้อำนวยการในขณะนั้น และในปัจจุบัน ได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมผู้ปกครองและครูของโรงเรียนฯ คณะผู้บริหารและคุณครูของโรงเรียนฯ[ต้องการอ้างอิง] กิจกรรมการแสดงของวงโยธวาทิตโรงเรียนฯ มีทั้งรูปแบบ Marching และ Concert โดยออกงานทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ซึ่งเป็นการแสดงเพื่อกิจกรรมของโรงเรียน และการบริการชุมชน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนตลอดมา อาทิเช่น ในการประกวดวงโยธวาทิต ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ ระหว่างปี พ.ศ. 2544-2547 วงโยธวาทิตของโรงเรียนฯ ได้รับรางวัลทุกปี ประกอบด้วย[ต้องการอ้างอิง]
กิจกรรมเชียร์และแปรอักษรชุมนุมเชียร์และแปรอักษร สวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี เป็นกิจกรรมที่เริ่มจัดตั้ง เป็นกลุ่มงานเล็กๆ โดยยังไม่เป็นชุมนุม ในปีการศึกษา 2539 (ส.ก.น.รุ่น 16) เพื่อรองรับ งานกรีฑาสวนกุหลาบสัมพันธ์ ในขณะนั้นมีเพียงการใช้เพลงเชียร์ การแปรอักษรด้วยรีบรุก และเพลต 1:1 ต่อมา มีการก่อตั้งเป็นชุมนุมขึ้น ในปีการศึกษา 2541 (ส.ก.น. รุ่นที่ 18) และในปีถัดมา (พ.ศ. 2542) ในสมัยผู้อำนวยการสุโข วุฑฒิโชติ ได้มีการนำเพลต 1:16 มาประกอบการแปรอักษร ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2552 ชุมนุมฯ ได้รับเกียรติให้เป็นผู้ฝึกซ้อม และควบคุมการแปรอักษร ให้แก่นักเรียน โรงเรียนบ้านบางกะปิ ในการแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2553 หรือ "กรุงเทพเกมส์"[ต้องการอ้างอิง] ในปัจจุบันชุมนุมเชียร์และแปรอักษรฯ ถือเป็น 1 ใน 5 ชุมนุมวัฒนธรรมของโรงเรียน และเป็นชุมนุมที่มีสมาชิกชุมนุมมากที่สุดในโรงเรียน เนื่องจากนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน ต้องเป็นสมาชิกชุมนุม โดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษา ส่งเสริม ประเพณีวัฒนธรรมของโรงเรียน และแสดงศักยภาพความเป็นสวนกุหลาบ ให้เป็นที่ประจักษ์ มีอาจารย์สุจินตรา ผริตะโกมล รองผู้อำนวยการ กลุ่มการบริหารวิชาการและแผนงาน, อาจารย์ชาญ บัณฑิตสิงห์ อดีตหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาของชุมนุม[ต้องการอ้างอิง] โดยในชุมนุมจะมี 3 ตำแหน่งคือ แผนก 1:25 แผนก 1:1 และแผนกเพลตเตอร์ โดยแผนก 1:25 สร้างโค้ดสำหรับแปรเป็นรูปภาพบนอัฒจันทร์ แผนก 1:1 สร้างโค้ดสำหรับแปรเป็นตัวอักษร, คำพูดต่าง ๆ ที่มักจะสร้างกระแสบนทวิตเตอร์เป็นประจำ และแผนกเพลตเตอร์ที่คอยดูแลและซ่อมแซมอุปกรณ์ กิจกรรมร่วมกับกลุ่มโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยดูบทความหลักที่ กิจกรรมร่วมของกลุ่มโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กลุ่มโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม เพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างสถาบันคือ งานชุมนุมลูกเสือ-เนตรนารี สวนกุหลาบสัมพันธ์ ที่เป็นกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือเนตรนารีร่วมกัน และ การแข่งขันกรีฑา สวนกุหลาบสัมพันธ์ ซึ่งเป็นกิจกรรมแข่งขันกีฬาประเภทลู่และลานร่วมกัน บุคคลที่มีชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน
ดูเพิ่มอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|