การศึกระหว่างโจโฉและเตียวสิ้ว
การศึกระหว่างโจโฉและเตียวสิ้ว เป็นการรบระหว่างขุนศึกโจโฉและเตียวสิ้วระหว่าง ค.ศ. 197 ถึง ค.ศ. 199 ในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ผลท้ายที่สุดของการศึกคือเตียวสิ้วยอมสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ ภูมิหลังในปี ค.ศ. 196 ขุนศึกโจโฉยกทัพไปยังเมืองหลวงเก่าลกเอี๋ยงเพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ จักรพรรดิหุ่นเชิดแห่งราชวงศ์ฮั่นซึ่งถูกควบคุมภายใต้อำนาจของขุนศึกตั๋งโต๊ะ ต่อด้วยลิฉุยและกุยกี มาตั้งแต่เริ่มขึ้นครองราชย์เมื่อปี ค.ศ. 189 พระองค์เพิ่งเสด็จหนีจากเมืองเตียงฮันเมื่อปลายปี ค.ศ. 195 หลังที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของลิฉุยและกุยกีมาตั้งแต่หลังตั๋งโต๊ะเสียชีวิตในปี ค.ศ. 192 โจโฉปฏิบัติต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ด้วยความเคารพและให้ความคุ้มครองพระองค์จากเมืองลกเอี๋ยงมายังฐานกำลังของโจโฉที่เมืองฮูโต๋ (許 สฺวี่; ปัจจุบันคือเมืองสฺวี่ชาง มณฑลเหอหนาน)[1] ในขณะเดียวกัน อำนาจของกลุ่มลิฉุยและกุยกีในเตียงฮันและภูมิภาคกฺวันจงก็เริ่มที่จะอ่อนแอและเสื่อมสลายไป โดยเฉพาะหลังจากที่พระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จหนีไปแล้ว เตียวเจอดีตพันธมิตรของลิฉุยและกุยกีได้นำผู้ติดตามออกจากภูมิภาคกฺวันจงไปจับแคว้นเกงจิ๋วที่ปกครองโดยขุนศึกเล่าเปียว เตียวเจหวังจะสร้างฐานอำนาจในแคว้นเกงจิ๋วจึงนำทหารเข้าโจมตีอำเภอหรางเซี่ยน (穰縣; หรือ หรางเฉิง 穰城; ปัจจุบันคือเมืองเติ้งโจว มณฑลเหอหนาน) แต่ถูกสังหารด้วยเกาทัณฑ์ระหว่างการรบ ฝ่ายเล่าเปียวแทนที่จะแก้แค้นผู้ติดตามของเตียวสิ้วที่ยกมาโจมตี กลับรู้สึกสงสารและทำการสงบศึกกับเตียวสิ้วผู้เป็นหลานอาและผู้สืบทอดของเตียวเจ เล่าเปียวยังได้มอบเมืองอ้วนเซีย (宛城 หว่านเฉิง; หรือเรียกสั้น ๆ ว่า หว่าน 宛; ปัจจุบันคือเมืองหนานหยาง มณฑลเหอหนาน) ทางเหนือของแคว้นเกงจิ๋วให้เตียวสิ้วและผู้ติดตามปกครอง[2][3] ยุทธการที่อ้วนเซียช่วงเวลาหนึ่งระหว่างวันที่ 5 กุมภาพันธ์และวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 197 [a] โจโฉนำทัพยกเข้าโจมตีเตียวสิ้ว เมื่อโจโฉยกทัพมาถึงแม่น้ำหยกซุย (淯水 ยฺวี่ชุ่ย; ปัจจุบนรู้จักในชื่อแม่น้ำไป๋ชุ่ย 白河; ไหลผ่านบริเวณที่เป็นมณฑลเหอหนานและมณฑลหูเป่ย์ในปัจจุบัน) เตียวสิ้วยอมจำนนโดยไม่มีการรบ[4] โจโฉมีความยินดีจึงให้จัดงานเลี้ยงสำหรับเตียวสิ้วและผู้ติดตาม ระหว่างงานเลี้ยง เตียนอุยนายทหารของโจโฉยืนให้ความคุ้มครองอยู่ด้านหลังผู้เป็นนายโดยถือขวานรบยักษ์ที่มีคมยาวหนึ่งฉื่อ เตียวสิ้วและผู้ติตตามไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเตียนอุยเมื่อมาดื่มอวยพรให้โจโฉ[5] โจโฉพำนักในเมืองอ้วนเซียเป็นเวลาสิบกว่าวันหลังรับการยอมจำนนของเตียวสิ้ว เวลานั้นโจโฉสนใจภรรยาม่ายของเตียวเจ[b] และรับนางเป็นภรรยาน้อย เตียวสิ้วรู้สึกโกรธและอับอายเป็นอย่างมากจึงวางแผนจะแก้แค้นโจโฉ ฝ่ายโจโฉได้ข่าวว่าเตียวสิ้วมีความไม่พอใจ จึงวางแผนจะลอบสังหารเตียวสิ้ว[7] ก่อนหน้านี้ กาเซี่ยงที่ปรึกษาของเตียวสิ้วได้แนะนำเตียวสิ้วให้ถามโจโฉขอตั้งกองกำลังไว้ใกล้ค่ายของโจโฉ เตียวสิ้วยังได้ถามโจโฉตามคำแนะนำของกาเซี่ยงว่า "กองทหารของข้ามีรถรบน้อยเกินไปและหนักเกินไป โปรดอนุญาตให้กองทหารของข้าสวมเสื้อเกราะหนักด้วยเถิด" โจโฉไม่รู้สึกสงสัยจึงอนุญาตตามคำขอของเตียวสิ้ว[8] เวลานั้น เตียวสิ้วมีผู้ช่วยคนสนิทชื่อเฮาเฉีย (胡車兒 หู เชอเอ้อร์ หรือ หู จฺวีเอ้อร์) ผู้มีชื่อเสียงในเรื่องความกล้าหาญ โจโฉประทับใจเฮาเฉียเช่นกันจึงได้มอบทองคำเป็นของขวัญให้เฮาเฉีย เมื่อเตียวสิ้วได้รู้แล้วว่าโจโฉต้องการจะกำจัดตน ก็คิดว่าโจโฉกำลังพยายามจะติดสินบนเฮาเฉียให้มาเป็นผู้ลอบสังหารตน เตียวสิ้วจึงรีบเข้าจู่โจมค่ายของโจโฉอย่างฉับพลัน[9][10] ด้วยเหตุที่โจโฉไม่ได้ระมัดระวังจากการโจมตีของเตียวสิ้ว ประกอบกับการที่เตียวสิ้วได้วางแผนโจมตีและวางกองกำลังใกล้ค่ายของโจโฉไว้แล้ว กองกำลังของโจโฉจึงแตกพ่ายยับเยิน โจโฉไม่มีทางเลือกนอกจากถอยหนีโดยมีเพียงทหารม้าไม่กี่คนที่ติดตามไป เตียนอุยยังคงอยู่ด้านหลังพร้อมทหารประมาณสิบกว่าคนเพื่อคุ้มกันทางถอยของโจโฉ ในที่สุดเตียนอุยและทหารทั้งหมดก็ถูกกองกำลังของเตียวสิ้วสังหารในที่รบ[11] ฝ่ายโจโฉได้รับบาดเจ็บที่หน้าและเท้าระหว่างถอยหนีเพราะม้าของโจโฉชื่อเจฺว๋อิ่ง (絕影) สะบัดโจโฉตกจากหลังและถูกยิงด้วยเกาทัณฑ์ โจโฉยังมีลูกเกาทัณฑ์ปักอยู่ที่แขนขวา [12] โจงั่งบุตรชายคนโตของโจโฉมอบม้าให้บิดาได้หนี ตัวโจงั่งและโจอั๋นบิ๋น (曹安民 เฉา อันหมิน) หลานอาของโจโฉถูกสังหารโดยกองกำลังของเตียวสิ้วในภายหลัง [13][14] ยุทธการที่อู่อินเมื่อโจโฉและกองกำลังที่เหลืออยู่ถอยหนีไปยังอำเภออู่อิน (舞陰縣 อู่อินเซี่ยน; ปัจจุบันอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอำเภอเช่อฉี มณฑลเหอหนาน) กองกำลังของเตียวสิ้วยังคงตามโจมตีกองกำลังของโจโฉตลอดทาง มีเพียงอิกิ๋มนายพันใต้บังคับบัญชาของโจโฉที่สามารถนำหน่วยของตนถอยหนีได้อย่างเป็นระเบียบไปยังอำเภออู่อิน และรวมทหารของตนไว้ด้วยกันได้แม้จะมีการบาดเจ็บและสูญเสียอย่างมาก เมื่อกองกำลังของเตียวสิ้วผ่อนการโจมตีลง อิกิ๋มรวบรวมทหารขึ้นใหม่และยกพลไปอำเภออู่อินอย่างสง่าแม้จะพ่ายแพ้ในการรบก็ตาม[15] ก่อนที่อิกิ๋มจะมาถึงอำเภออู่อิน อิกิ๋มทราบข่าวว่ากองทหารเฉงจิ๋ว (青州兵 ชิงโจวปิง) หน่วยทหารฝีมือดีของโจโฉที่ทหารในหน่วยล้วนเป็นอดีตคนในกลุ่มกบฏโพกผ้าเหลือง ได้ฉวยโอกาสที่เกิดความวุ่นวายเข้าปล้นหมู่บ้านตลอดทาง อิกิ๋มจึงนำทหารของตนเข้าโจมตีและลงทัณฑ์ทหารเฉงจิ๋ว ทหารเฉงจิ๋วบางคนหนีไปถึงอำเภออู่อิน เข้าพบโจโฉแล้วกล่าวหาอิกิ๋มกระทำการโหดร้ายทารุณต่อพวกตน เมื่ออิกิ๋มมาถึงอำเภออู่อิน แทนที่อิกิ๋มจะไปเข้าพบโจโฉเพื่อชี้แจงแก้ต่างให้ตนเอง อิกิ๋มกลับไปตั้งแนวป้องกันรอบค่ายโจโฉ เพราะอิกิ๋มรู้ว่าโจโฉจะไม่เชื่อคำโป้ปดของทหารเฉงจิ๋ว จึงไม่จำเป็นต้องรีบไปชี้แจงแก้ต่าง อีกทั้งอิกิ๋มยังคำนึงถึงเรื่องที่การเสริมการป้องกันเผื่อกรณีเตียวสิ้วยกมาโจมตีซ้ำเป็นเรื่องสำตัญกว่า การกระทำของอิกิ๋มเหมาะสมกับสถานการณ์ โจโฉจึงให้การยกย่องทั้งยังปูนบำเหน็จให้สำหรับความชอบ[16]
ยุทธการที่เย่, หูหยาง และอู่อิน
ยุทธการที่หรางเฉิง
การสวามิภักดิ์ของเตียวสิ้ว
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
หมายเหตุ
อ้างอิง
|