ยุทธการที่ฮันต๋ง
ยุทธการที่ฮันต๋ง (จีน: 漢中之戰) เป็นการรบที่เริ่มโดยขุนศึกเล่าปี่เพื่อยึดครองเมืองฮันต๋ง (漢中 ฮั่นจง) จากโจโฉที่เป็นคู่อริ การรบเกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 217 ถึง 219 ในช่วงก่อนเข้าสู่ยุคสามก๊ก แม้ว่าทัพของโจโฉได้ตั้งมั่นในเมืองฮันต๋งเมื่อสองปีก่อนหลังยุทธการที่เองเปงก๋วน แต่ทัพโจโฉก็อ่อนกำลังลงด้วยกลยุทธ์ฟาเบียนที่ใช้โดยทัพของเล่าปี่ ซึ่งใช้การโจมตีแบบกำหนดเป้าหมายเพื่อยึดจุดยุทธศาสตร์จากข้าศึก การโจมตีครั้งหนึ่งทำให้แฮหัวเอี๋ยนขุนพลระดับสูงคนหนึ่งของโจโฉเสียชีวิต และได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อขวัญกำลังใจของทัพโจโฉ ในที่สุดโจโฉก็จำต้องทิ้งเมืองฮันต๋งเนื่องจากปัญหาด้านการขนส่งเสบียงและปัญหาอื่น ๆ และสั่งให้ล่าถอยในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 219[1] เล่าปี่ได้รับชัยชนะในการรบและยึดครองเมืองฮันต๋งได้ จากนั้นจึงประกาศตั้งตัวเป็นอ๋องแห่งฮันต๋งในเดือนสิงหาคมของปีนั้น[1] การรบครั้งนี้ถือเป็นการศึกครั้งสุดท้ายที่โจโฉเข้าร่วมก่อนที่โจโฉจะเสียชีวิตในเดือนมีนาคม ค.ศ. 220 ภูมิหลังในเดือนเมษายน ค.ศ. 215[2] โจโฉโจมตีขุนศึกเตียวฬ่อในเมืองฮันต๋ง เอาชนะเตียวฬ่อได้ในยุทธการที่เองเปงก๋วน ต่อมาในเดือนธันวาคม[2] เตียวฬ่อยอมจำนนและโจโฉยึดฮันต๋งได้[3] หลังจากนั้น โจโฉจึงแต่งตั้งให้ผู่ หู (朴胡), ตู้ ฮั่ว (杜濩) และยฺเหวียน เยฺว (袁約) เป็นเจ้าเมืองปาสามเมือง แต่ทั้งสามถูกอุยก๋วนโจมตีแตกพ่าย จากนั้นอุยก๋วนจึงเข้ายึดเมืองปาตง (巴東), ปาเส (巴西 ปาซี) และปากุ๋น (巴郡 ปาจฺวิ้น)[4][5][6] ทางด้านของเล่าปี่นั้น เล่าปี่เพิ่งเข้ายึดมณฑลเอ๊กจิ๋ว (ครอบคลุมพื้นที่ของมณฑลเสฉวนและนครฉงชิ่งในปัจจุบัน) จากเล่าเจี้ยงในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 214[7] และเข้าพัวพันในกรณีพิพาทกับซุนกวนที่เป็นพันธมิตรในเรื่องมณฑลเกงจิ๋ว (ครอบคลุมพื้นที่ของมณฑลหูเป่ย์และมณฑลหูหนานในปัจจุบัน) ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 215[2] เล่าปี่รู้สึกถูกคุกคามเมื่อได้รับข่าวเมืองฮันต๋งตกเป็นของโจโฉ เพราะฮันต๋งเป็น "ปากทาง" ด้านเหนือของมณฑลเอ๊กจิ๋ว และเวลานี้เล่าปี่เสี่ยงต่อการเสียมณฑลเอ๊กจิ๋วให้โจโฉ ดังนั้นเล่าปี่จึงทำข้อตกลงเรื่องชายแดนกับซุนกวนซึ่งยึดได้เมืองเตียงสา (長沙 ฉางชา), ฮุยเอี๋ยง (桂陽 กุ้ยหยาง) และเลงเหลง (零陵 หลิงหลิง) ในมณฑลเกงจิ๋วตอนใต้จากเล่าปี่ เล่าปี่ขอเมืองเลงเหลงคืน แลกกับการที่ซุนกวนได้เมืองเตียงสา, กังแฮ (江夏 เจียงเซี่ย) และฮุยเอี๋ยง[8] ความแตกต่างทางยุทธวิธี
การทัพการปะทะช่วงแรกในเดือนธันวาคม ค.ศ. 217[1] ทัพเล่าปี่รุดหน้าไปยังด่านเองเปงก๋วน (陽平關 หยางผิงกวาน) ในช่วงเวลาเดียวกัน เล่าปี่ก็ส่งเตียวหุย, ม้าเฉียว, งอหลัน (吳蘭 อู๋หลาน), ลุยต๋อง (雷銅 เหลย์ ถง) และงิมเอ๋ง (任夔 เริ่น ขุย) ไปโจมตีเมืองปูเต๋า (武都郡 อู่ตูจฺวิ้น) และให้รักษาการณ์ที่อำเภอแฮเปียน (下辨縣 เซี่ยเปี้ยนเซี่ยน) ในช่วงเวลานั้น เหลย์ติ้ง (雷定) แห่งกลุ่มชาติพันธุ์ตีนำชนเผ่า 7 เผ่ามาเข้าร่วมกับเล่าปี่ ทางฝ่ายโจโฉนั้น แฮหัวเอี๋ยนป้องกันด่านเองเปงก๋วน เตียวคับและซิหลงรักษากว่างฉือ (廣石) และหม่าหมิงเก๋อ (馬鳴閣) ตามลำดับ ส่วนโจหองและโจฮิวนำทัพแยกไปต้านเตียวหุย ในเดือนเมษายน ค.ศ. 218[1] ทัพของเตียวหุยและม้าเฉียวตั้งมั่นอยู่ที่กู้ชาน (固山) โดยแพร่ข่าวไปว่าพวกตนจะยกไปสกัดเส้นทางถอยของข้าศึก โจหองต้องการโจมตีงอหลันที่อำเภอแฮเปียน แต่นายทหารคนอื่น ๆ ระแวงความเคลื่อนไหวของเตียวหุย โจฮิวเห็นว่าถ้าเตียวหุยวางแผนจะสกัดเส้นทางถอยของพวกตนจริงก็ควรเก็บแผนไว้เป็นความลับ เวลานี้เตียวหุยเผยเจตนาอย่างโจ่งแจ้ง พวกตนก็ควรจะใช้โอกาสนี้แสร้งล่าถอยแล้วจึงเข้าโจมตีซึ่งหน้า โจหองเห็นด้วยกับยุทธวิธีของโจฮิวและเข้าโจมตี ลุยต๋องและงิมเอ๋งถูกสังหารในที่รบ ส่วนงอหลันหนีไปเข้าร่วมกับเผ่าตี ภายหลังลุยต๋องถูกเฉียงตฺวาน (强端) หัวหน้าชนเผ่าตีสังหาร หลังจากเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาถูกตีแตกพ่าย เตียวหุยและม้าเฉียวจึงล่าถอยไป[9]
สถานการณ์พลิกผัน
ช่วงสุดท้ายในเดือนเมษายน ค.ศ. 219[1] โจโฉนำทัพจากเตียงอั๋นไปฮันต๋งผ่านหุบเขาเสียดก๊ก (斜谷 เสียกู่) ด้วยตนเอง เล่าปี่ไม่กังวลโดยเห็นว่า "แม้ว่าโจโฉมาก็ทำอะไรไม่ได้ ข้าจะยึดแม่น้ำฮั่นซุยได้เป็นแน่" เล่าปี่จึงรวบรวมกำลังพลและตั้งรับอย่างมั่นคง โดยไม่เข้าปะทะกับทัพของโจโฉในการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ เล่าปี่มุ่งเน้นไปที่การทำศึกยืดเยื้อตั้งแต่นั้นเป็นต้นไป เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนที่อยู่ในภาวะคุมเชิงกัน ทหารของโจโฉก็ล้มตายหรือหนีทัพมากขึ้นเรื่อย ๆ[10] ต่อมาเมื่อทัพโจโฉขนส่งเสบียงผ่านเขาปักสัน (北山 เป่ย์ชาน) ฮองตงนำทัพไปปล้นเสบียงของข้าศึก แต่ยังไม่กลับไปให้ทันเวลา เตียวจูล่งจึงนำทหารม้าสิบนายออกจากค่ายเพื่อตามหาฮองตงและเผชิญหน้ากับทัพของโจโฉ เตียวจูล่งและทหารถูกล้อมแต่เตียวจูล่งตีฝ่าออกไปแล้วถอนกลับไปค่ายโดยมีข้าศึกยกไล่ตามมา เมื่อมาถึงค่าย เตียวจูล่งสั่งให้เปิดประตู ลดธงลง และหยุดตีกลองรบ ทหารของโจโฉกลัวว่าจะมีการวางกำลังดักซุ่มภายในค่ายจึงหันหลังกลับ ทันใดนั้นเตียวจูล่งก็สั่งให้ทหารตีกลองเสียงดังและให้ทหารมือเกาทัณฑ์ยิงเกาทัณฑ์ใส่ข้าศึก ทหารของโจโฉสับสนอลหม่านและเหยียบย่ำกันเองขณะพยายามหลบหนี ในขณะที่หลายคนจมน้ำตายขณะพยายามหนีข้ามแม่น้ำฮั่นซุย[11] ขณะที่ทัพของโจโฉเผชิญหน้ากับทัพเล่าปี่ด้วยภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาหลายเดือนและประสบปัญหาด้านการขนส่งเสบียงอย่างมาก ในที่สุดโจโฉก็ออกคำสั่ง "ซี่โครงไก่" (雞肋 จีเล่ย์) ไม่มีผู้ใดเข้าใจว่าโจโฉหมายถึงอะไรเมื่อพูดถึง "ซี่โครงไก่" ยกเว้นนายทะเบียนเอียวสิ้ว เอียวสิ้วอธิบายว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ต้องทิ้งซี่โครงไก่ไปแม้ว่ามีเนื้อเหลือติดอยู่ไม่มากนัก นี่เป็นการอุปมาถึงสถานการณ์ที่โจโฉเผชิญอยู่ โจโฉรู้ว่าตนมีโอกาสเอาชนะเล่าปี่ได้น้อยมาก แต่ก็รู้สึกเสียดายที่ต้องทิ้งเมืองฮันต๋ง โจโฉไม่พอใจกับคำอธิบายของเอียวสิ้ว ภายหลังจึงสั่งให้ประหารชีวิตเอียวสิ้ว ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 219[1] โจโฉล่าถอยกลับไปที่เตียงอั๋นและทิ้งเมืองฮันต๋งให้กับเล่าปี่[12] ผลสืบเนื่องในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 219 หนึ่งเดือนหลังยึดฮันต๋ง เล่าปี่ส่งเบ้งตัดไปโจมตีเมืองห้องเหลง (房陵郡 ฝางหลิงจฺวิ้น) ผ่านอำเภอจีกุ๋ย (秭歸縣 จื่อกุยเซี่ยน) เบ้งตัดเอาชนะและสังหารไขว่ ฉี (蒯祺) เจ้าเมืองห้องเหลงและเข้ายึดเมืองห้องเหลง ภายหลังเล่าปี่ส่งเล่าฮองบุตรบุญธรรมไปโจมตีเมืองเซียงหยง (上庸郡 ช่างยงจฺวิ้น) ผ่านแม่น้ำไกซุย (沔水 เหมียนฉุ่ย) เจ้าเมืองเซียงหยงยอมจำนนต่อเล่าฮอง ประมาณเดือนสิงหาคม ค.ศ. 219 เล่าปี่ประกาศตนเป็น "อ๋องแห่งฮันต๋ง" (漢中王 ฮั่นจงหวาง)[13] อีกด้านหนึ่ง หลังโจโฉล่าถอย โจโฉกังวลว่าเล่าปี่อาจโจมตีเมืองปูเต๋า จึงสั่งเตียวกี๋ ข้าหลวงมณฑล (刺史 ชื่อฉื่อ) มณฑลยงจิ๋ว (雍州 ยงโจว) ให้ย้ายชาวตี๋ 50,000 คนจากเมืองปูเต๋าไปยังเมืองฝูเฟิง (扶風) และเทียนซุย (天水 เทียนฉุ่ย)[14] ในที่สุดข่าวชัยชนะของเล่าปี่ที่เมืองฮันต๋งก็ไปถึงกวนอูผู้ประจำการอยู่ที่มณฑลเกงจิ๋วตอนใต้ในเวลานั้น กวนอูใช้โอกาสจากความสำเร็จในยุทธการที่ฮันต๋งในการนำทัพของตนเข้าโจมตีฐานที่มั่นของโจโฉในมณฑลเกงจิ๋วตอนเหนือ นำไปสู่ยุทธการที่อ้วนเสียในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 219 บุคคลในยุทธการ
หมายเหตุ
อ้างอิง
บรรณานุกรม
|