ธานี สมบูรณ์ทรัพย์
พลตำรวจเอก ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกิดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2491 ที่ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของนายเพชร กับนางทองม้วน สมบูรณ์ทรัพย์ ที่มีกิจการของครอบครัวเป็นโรงงานน้ำตาลและมันสำปะหลัง ในวัยเด็กครอบครัวถูกตำรวจที่ไม่ดีคุกคาม จึงเป็นแรงบันดาลใจให้อยากเป็นตำรวจ ประวัติสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี พ.ศ. 2511 การศึกษาเพิ่มเติมปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา, หลักสูตรฝ่ายอำนวยการ รุ่นที่ 4 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก, หลักสูตรการบริหารตำรวจชั้นสูง รุ่นที่ 12, สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ ชีวิตส่วนตัวชีวิตส่วนตัว พล.ต.อ.ธานี มีชื่อเล่นที่เพื่อน ๆ เรียกกันว่า "ล้าน" ทำให้มีชื่อเล่นหนึ่งจากสื่อมวลชนว่า "บิ๊กล้าน" สมรสกับนางชัชชมา สมบูรณ์ทรัพย์ (นามสกุลเดิม: ผดุงไทย) มีบุตรสาวหนึ่งคนชื่อ นางสาวสดีธรณ์ สมบูรณ์ทรัพย์ (ชื่อเล่น: นกฮูก)[1] รับราชการพล.ต.อ.ธานี รับราชการครั้งแรกในยศร้อยตำรวจตรี (ร.ต.ต.) เมื่อปี พ.ศ. 2516 ในตำแหน่งรองสารวัตร แผนก 3 กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม (รอง สว.ผ.3กก 6 ป.) และเจริญเติบโตในหน้าที่การงานเรื่อยมาจนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผู้ช่วย ผบช.น.) และเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เมื่อปี พ.ศ. 2546 และในที่สุดได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เมื่อปี พ.ศ. 2547 จากนั้น พล.ต.อ.ธานีได้ย้ายไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ก่อนที่จะได้เลื่อนเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เมื่อปี พ.ศ. 2550 พล.ต.อ.ธานี มีประวัติการทำงานที่ตรงไปตรงมา โปร่งใส จนได้รับฉายาว่า "นายพลไม้บรรทัด" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภายหลังการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2549 ที่มีการเปลี่ยนแปลงขั้วการเมือง พล.ต.อ.ธานีได้พูดประโยคหนึ่งที่มีนัยว่า "บัดนี้ฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว" เมื่อรับราชการอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีนโยบายมิให้ลูกน้องใต้บังคับบัญชารับเงินส่วยทุกประเภท มีหลายคดีสำคัญ ๆ และอยู่ในความสนใจของสาธารณชนหลายคดีที่ดูแลรับผิดชอบ เช่น การไม่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงยามราตรีเกินเวลารวมทั้งของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, คดีหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร, คดีหายตัวไปของนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ กลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง เมื่อได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ด้วยคำสั่งโดยตรงจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยเปลี่ยนหน้าที่นี้จาก พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.อีกคน ซึ่ง พล.ต.อ.ธานีมีความตั้งใจจะทำให้คดีนี้เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของตนก่อนจะเกษียณอายุราชการไปในปลายเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2552 ซึ่ง พล.ต.อ.ธานีมีความมั่นใจว่าจะสามารถสรุปคดีนี้ได้ก่อนเกษียณแม้จะมีหลายต่อหลายครั้งที่เป็นข่าวว่ามีอุปสรรคก็ตาม พล.ต.อ.ธานี ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552 แทนที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ได้ยื่นใบลาออกไปจากการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่ามีความผิดคดีอาญาและวินัยร้ายแรงจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปัจจุบัน หลังเกษียณราชการแล้ว พล.ต.อ.ธานี ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้านการเมือง ทำหน้าที่ดูแลด้านความมั่นคง ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 [2] โดยมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทน เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
|