มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตราชบุรี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ราชบุรี หรือ มจธ. (ราชบุรี) เป็นหนึ่งในพื้นที่การศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตั้งอยู่บนที่ดินสาธารณประโยชน์ กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ณ บ้านรางดอกอาว ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 1,117 ไร่ มหาวิทยาลัยได้รับความร่วมมือจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการให้คำปรึกษาแผนแม่บท และร่วมวางแนวคิดหลัก[2] ประวัติในปี 2537 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้แสวงหาที่ดินใหม่เพื่อขยายวิทยาเขตการศึกษาตามนโยบายของทบวงมหาวิทยาลัย โดยที่ดินใหม่ควรมีเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ เพื่อพัฒนาให้เป็นวิทยาเขตที่มีลักษณะเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย
มหาวิทยาลัยฯได้พิจารณาที่ดินในจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดราชบุรี ในที่สุดเห็นว่า จังหวัดราชบุรีมีความเหมาะสมมากที่สุดที่จะเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย เหตุผลเพราะระยะทางจากราชบุรีถึงที่ตั้งมหาวิทยาลัยปัจจุบัน ห่างประมาณ 150 กิโลเมตร การเดินทางไม่ต้องผ่านตัวเมืองของกรุงเทพมหานคร ทำให้สะดวกในการเดินทาง และจังหวัดราชบุรียังมีบรรยายกาศที่ร่มรื่น สงบ สวยงาม แต่เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ทำให้การก่อสร้าง มจธ.ราชบุรี ล่าช้าออกไป โดยระหว่างนี้มหาวิทยาลัยฯได้นำหลักสูตรวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ หลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิตและหลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี เปิดสอนให้กับประชาชนในพื้นจังหวัดราชบุรีและใกล้เคียงที่ศาลาประชาคม อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พื้นที่การศึกษาราชบุรี ตั้งอยู่เลขที่ 209 หมู่ 1 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี บนทางหลวงหมายเลข 3087 ห่างจากอำเภอจอมบึงขึ้นไปทางอำเภอสวนผึ้ง 10 กิโลเมตร ในปี 2553 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับการจัดสรรงบประมาณไทยเข้มแข็ง (SP2) จำนวน 500 ล้านบาท สร้างพื้นที่การศึกษาในมจธ. (ราชบุรี) เพื่อดำเนินการเปิดรับนักศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 ซึ่งมหาวิทยาลัยได้วางแผนแม่บท และออกแบบกลุ่มอาคารโดยใช้หลักการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รักษาต้นไม้และสภาพป่าที่มีอยู่ไว้ให้มากที่สุด โดยใช้เทคโนโลยีการประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยของเสีย รวมถึงการร่วมกับชุมชนจัดทำเขตเมืองมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างให้เป็นพื้นที่การศึกษาสีเขียวและสะอาด (Green and Clean Campus) ตามมาตรฐานสากล ช่วยสร้างสภาพ แวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนการสอนและการวิจัยที่มุ่งเป็นมหาวิทยาลัยของภูมิภาคตะวันตก เพื่อเป็นส่วนสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนและสังคมที่อุดมสุขให้แก่ภูมิภาคนี้ โดยปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งแล้วเสร็จ จำนวน 17 หลัง มีพื้นที่ใช้สอยรวม 53,416.05 ตารางเมตร ประกอบด้วย
ในปี 2556 มจธ.ราชบุรีได้เปิดสอนหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ โดยจัดการจัดการเรียนการสอนแบบ Residential College ของมหาวิทยาลัย Cambridge และ Oxford จากประเทศอังกฤษ ที่ให้นักศึกษาพักในมหาวิทยาลัย โดยที่มหาวิทยาลัยเป็นทั้งที่พัก และที่จัดการเรียนรู้ ดังนั้นนักศึกษาทุกคนที่ศึกษาอยู่ที่นี่จะต้องพักในที่พักของมหาวิทยาลัยเท่านั้น [3] การศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ราชบุรี เปิดสอนระดับปริญญาตรี ในปีการศึกษา 2566 เปิดรับ 4 หลักสูตร ได้แก่
โดยนักศึกษาเรียนร่วมกันในวิชาพื้นฐาน และแยกการเรียนในวิชาเฉพาะทาง ซึ่งมีวิธีการจัดการเรียนการสอน 2 ขั้นตอน
ในหลักสูตรวิชาการนี้จะมีวิชาศึกษาทั่วไปมีรูปแบบการเรียนการสอนที่แตกต่างออกไป โดยเน้นให้นักศึกษาได้เรียนรู้ร่วมกับชุมชนรอบมหาวิทยาลัย และนำปัญหาของชุมชนมาขบคิดแก้ไขด้วยหลักวิศวกรรม Residential Collegeมจธ. (ราชบุรี) ได้จัดวิธีการเรียนการสอนที่เรียกว่า Residential College ที่เน้นการพัฒนา Soft Skill โดยตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นการดำเนินการระยะที่ 2 รับนักศึกษาแบบพักอยู่ประจำ 120 คนต่อปี จัดการเรียนการสอนแบบโมดูลที่สร้างให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน จัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น กิจกรรมร่วมกันในช่วงเย็น ชมภาพยนตร์ ละคร เล่นดนตรี ฝึกกีฬา เป็นต้น โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาดูแลและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดในแต่ละกลุ่มย่อย การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแบบสังคม เป็นกิจกรรมสำคัญอีกหนึ่งอย่างของ Residential College ที่มีองค์ประกอบสำคัญอยู่ 2 ประการคือ การดูแลนักศึกษา และการจัดกิจกรรมร่วมกัน นักศึกษาจะถูกจัดเป็นกลุ่มเล็กประมาณ 10 คน มีอาจารย์พี่เลี้ยง 1 คนที่จะคอยดู ให้คำปรึกษาและเสริมสร้างประสบการณ์ด้านการใช้ชีวิต การจัดกิจกรรมร่วมกันของนักศึกษาในรูปแบบสโมสร ชุมนุมกิจกรรมโดยมีอาจารย์เป็นที่ปรึกษาช่วยเสริมทักษะการเป็นผู้นำและการทำงานร่วมกันแบบเป็นทีมในการบรรลุเป้าหมายของกลุ่ม รวมถึงกิจกรรมสันทนาการ เช่นการเล่นดนตรีและกีฬา รวมถึงการฟังปาฐกถาจากผู้รอบรู้ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อเสริมความรู้และประสบการณ์ชีวิตให้กับนักศึกษา[4] หลักสูตรคู่ขนาน (Co-curriculum)นักศึกษา มจธ.ราชบุรี มีโอกาสเรียนวิชาในหลักสูตรคู่ขนาน (Co-curriculum) ตามความสนใจของนักศึกษา วิชาเหล่านี้จัดขึ้นโดยผู้สอนที่มีความชำนาญทั้งจากภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย เช่น การเขียนโปรแกรม MATLAB การฝึกฝนวิชาช่างใน Workshop และการเสริมความรู้ด้านภาษาอังกฤษ ไปจนถึงวิชาที่เกี่ยวกับความบันเทิงและการพักผ่อน เช่นดนตรีไทย การวาดภาพ และการทำอาหาร[5] พื้นที่มหาวิทยาลัย
อาคารหอสมุด
ภายในอาคารชั้นแรกจะพบกับบรรณารักษ์ที่คอยให้คำแนะนำและบริการยืมคืน ณ เคาน์เตอร์ยืม-คืน รวมทั้งมีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการส่งเสริมการเรียนรู้และที่พักคอย ชั้น 2 มี Open Classroom and drawing เป็นห้องเรียนขนาดใหญ่แบบเปิดรองรับการเรียน การสอนหลากหลายรูปแบบพร้อมโต๊ะเขียนแบบสำหรับฝึกฝนทักษะเริ่มต้นของการเรียน และมีห้องเรียน/ติวกลุ่ม ขนาด 18-20 คน จำนวน 2 ห้อง ชั้น 3 เป็นที่ให้สามารถเรียนรู้ร่วมกันเฉพาะกลุ่มแบบกึ่งปิดที่ Study Booth นอกจากนี้ยังมี Stage ที่เป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับการแสดงออกและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ห้องเรียน/ติวกลุ่ม จำนวน 4 ห้อง และหยุดนิ่ง อ่าน เขียน พักผ่อนกับความเงียบสงบเฉพาะตัวใน Reading Zone หอพักนักศึกษา
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคาร ประกอบด้วย Wi-Fi และ Lan, ห้องสมุด, กล้องวงจรปิด และอุปกรณ์ดับเพลิง มีเจ้าหน้าที่ รปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการเข้า-ออกอาคารจะใช้บัตรนักศึกษาเป็นคีย์การ์ดในการผ่าน ซึ่งประตูทางเข้าหอพักหญิงและหอพักชายแยกจากกัน นอกจากนี้ยังมีห้องอุ่นอาหารและเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอยู่ชั้นล่างของอาคาร รมณียาคาร เป็นอาคารสำหรับให้บริการห้องพักรับรองแก่บุคลากรของมหาวิทยาลัย และนักท่องเที่ยวทั่วไป เป็นห้องพักปรับอากาศ มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโรงแรม พักได้ 2 คน/ห้อง โดยไม่มีบริการอาหารเช้า[6] งานวิจัยที่โดดเด่นด้านผึ้งและต้นผึ้งด้านผึ้งและต้นผึ้ง ที่ดำเนินการภายใต้ศูนย์วิจัยผึ้งพื้นเมืองและแมลงผสมเกสร (Native Honeybee and Pollinator Research Center: NHBEE) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินงานวิจัย 4 ส่วน คือ
ด้านวัสดุทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมด้านวัสดุทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการภายใต้หน่วยวิจัยห้องปฏิบัติการนวัตกรรมการจัดการสิ่งแวดล้อมและวัสดุก่อสร้างอัจฉริยะ (Innovative Environmental Management and Smart Construction Materials: IEMLAB) ที่มีเป้าหมายเพื่อศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการนำของเหลือทิ้ง และของเสียจากภาคเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมกลับมาใช้ใหม่ในรูปของวัสดุที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากของเสียภาคเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม[8] ด้านวัสดุและการทดสอบโดยไม่ทำลายด้านวัสดุและการทดสอบโดยไม่ทำลาย ที่ดำเนินการตามความเชี่ยวชาญของบุคลากร มจธ.(ราชบุรี) และตอบสนองความต้องการด้านอุตสาหกรรม ภายใต้หน่วยวิจัยวัสดุและการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Materials and Nondestructive Testing Laboratory: MNDT)[9] ด้านเกษตรแม่นยำด้านเกษตรแม่นยำ ที่ดำเนินการภายใต้ศูนย์วิจัยการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร (Center for Translational Agriculture Research: CTAR) ที่มีเป้าหมายเพื่อ
เพื่อเพิ่มผลผลิตทั้งในระดับสรีรวิทยาและระดับสนาม
ด้านความหลากหลายทางชีวภาพด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ดำเนินงานวิจัยเกี่ยวกับเห็ด ผักกาด ขิง สับปะรด ว่างห่างจระเข้ และส่วนเหลือทิ้งทางการเกษตร[11] วัสดุคาร์บอน ผลิตจากวัตถุดิบชีวมวลพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยนั้น เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่มีการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก การเพาะปลูกทำให้เกิดวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร อย่างเช่น กะลามะพร้าว เหง้ามันสำปะหลัง ซังข้าวโพด เปลือกสับปะรด เปลือกทุเรียน เป็นต้น วัตถุดิบชีวมวลเหล่านี้บ้างถูกนำไปใช้ประโยชน์ บ้างถูกเผาทิ้งในพื้นที่การเกษตร เนื่องจากเกษตรกรบางกลุ่มอาจไม่ทราบวิธีการจัดการที่ถูกต้อง[12] อ้างอิง
|