สมบัติ ยะสินธุ์
สมบัติ ยะสินธุ์ ม.ว.ม. ป.ช. (เกิด 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508) เป็นนักการเมืองชาวไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน 3 สมัย กรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประวัติสมบัติ เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508 ที่อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ในครอบครัวของเกษตรกร และย้ายมาอยู่ที่อำเภอปาย เมื่อปี พ.ศ. 2534 เป็นบุตรนายบุญทรัพย์ นางเกี๋ยงคำ ยะสินธุ์ ด้านครอบครัวสมรสกับ นางพรทิพย์ ยะสินธุ์ มีบุตร 4 คน คือ นายกรินทร์ ยะสินธุ์ นายกษิดิศ ยะสินธุ์ นายกษิดิ์เดช ยะสินธุ์ และนายกฤติเดช ยะสินธุ์[1] สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนวชิระป่าซาง จังหวัดลำพูน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนวิมุตยารามพิทยากร ระดับปริญญาตรี สาขาบริหารงานบุคคล จากมหาวิทยาลัยพายัพ และระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การทำงานสมบัติ เคยเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน 3 สมัย (2538 - 2550) และรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน (2540 - 2542) ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 เนื่องจากโชคชัย เวชกิจ เพื่อนสมาชิกสภาองค์การบริหารจังหวัดด้วยกัน จากอำเภอขุนยวม แต่เพราะรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2550 กำหนดการเลือกตั้งเป็นแบบเรียงเบอร์ ส่งผลให้ โชคชัย ไม่มีความมั่นใจ พรรคประชาธิปัตย์ จึงบอกให้โชคชัย หาคนลงแทน โชคชัยจึงเสนอสมบัติไปสุดท้ายสมบัติจึงตัดสินใจตามที่นายโชคชัยเสนอ ได้ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน และได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงคนเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ ในเขตภาคเหนือตอนบน (ต่อมาในการเลือกตั้งซ่อม ได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 1 คน คือ ขยัน วิพรหมชัย) โดยสามารถเอาชนะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีก 3 คน คือ ปัญญา จีนาคำ (พรรคพลังประชาชน), อดุลย์ วันไชยธนวงศ์ (พรรคพลังประชาชน), และสมบูรณ์ ไพรวัลย์ (พรรคเพื่อแผ่นดิน) ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 สมบัติ ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เดิม สามารถเอาชนะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีก 3 คน คือ ปัญญา จีนาคำ (พรรคเพื่อไทย), อดุลย์ วันไชยธนวงศ์ (พรรคชาติไทยพัฒนา), และสมบูรณ์ ไพรวัลย์ (พรรคภูมิใจไทย) และเป็น สส. เพียงคนเดียวในเขตพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่ไม่ได้สังกัดพรรคเพื่อไทย[2] ในปี พ.ศ. 2561 สมบัติ เป็นคนจุดประกายให้ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค[3] จากอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในนาม กลุ่มประชาชื่น ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยผลการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศว่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยคะแนน 67,505 คะแนน ขณะที่ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ได้ 57,689 คะแนน และอลงกรณ์ พลบุตร ได้ 2,285 คะแนน ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 สมบัติ ลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิม แต่แพ้ให้กับปัญญา จีนาคำ จากพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 สมบัติ ลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิม แต่ย้ายพื้นที่ไปลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่แม่ฮ่องสอน เขต 2 สามารถเอาชนะผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่น ได้เป็น สส.พรรคประชาธิปัตย์เพียงคนเดียวในภาคเหนือของประเทศไทย คณะกรรมาธิการสมบัติ ยะสินธุ์ ได้รับเลือกเป็นกรรมาธิการ จำนวน 4 คณะ ดังนี้
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมบัติ ยะสินธุ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 3 สมัย คือ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|