วรงค์ เดชกิจวิกรม
วรงค์ เดชกิจวิกรม (เกิด 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2504) เป็นนักการเมืองและอดีตแพทย์ชาวไทย และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย แกนนำกลุ่มไทยภักดี ประธานพรรคไทยภักดี ประวัติวรงค์ เดชกิจวิกรม มีชื่อเล่นว่า "โก๋"[1] เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 ที่ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร ระดับปริญญาตรี แพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และวุฒิบัตรแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่[2] ซึ่งในขณะศึกษานั้น ได้รับเลือกให้เป็นนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (อ.มช.) อีกด้วย ด้านชีวิตครอบครัว วรงค์ สมรสกับ สุวรี เดชกิจวิกรม (ชื่อเล่น:น้อง) โดยทั้งคู่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนระดับมหาวิทยาลัย มีบุตร-ธิดา 2 คน[1] การทำงานการรับราชการวรงค์ เคยรับราชการเป็นนายแพทย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข และเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลโซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลพรเจริญ อ.พรเจริญ จ.หนองคาย เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ต่อมาจึงได้ลาออกจากราชการเพื่อเข้าสู่งานการเมือง งานการเมืองวรงค์ เริ่มต้นงานการเมืองภายหลังลาออกจากราชการ โดยแรกเริ่มอยู่ในสังกัดพรรคไทยรักไทย (ทรท.) แต่ทว่าได้ลาออกจากพรรคไทยรักไทย เมื่อทางพรรคได้เปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เมื่อปี พ.ศ. 2547 ดังนั้น เจ้าตัวจึงย้ายไปอยู่ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แทน และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2548 และได้รับเลือกตั้งอีกในปี พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2554[3] สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เขาเคยได้รับแต่งตั้งเป็นรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เขามีบทบาทในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเรื่องนโยบายจำนำข้าว และเป็นที่ยอมรับของฝ่ายค้านด้วยกัน[4] เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[5] กระทั่งวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 วรงค์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ต่อ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์โดยให้มีผลทันที [6] และเตรียมแถลงชี้แจงเหตุผลการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ในวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 [7] โดยในวันเดียวกัน เขาได้สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) แบบตลอดชีพ [8] ต่อมาเขาได้จัดตั้งพรรคไทยภักดีประเทศไทย และทำหน้าที่หัวหน้าพรรค ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เขาลงสมัครรับเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคไทยภักดี แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|