Share to:

 

อาเล็กซันเดอร์ เดอ โกร

อาเล็กซันเดอร์ เดอ โกร
เดอ โกร ใน พ.ศ. 2560
นายกรัฐมนตรีเบลเยียมคนที่ 53
เริ่มดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 (4 ปี)
กษัตริย์สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป
ก่อนหน้าซอฟี วีลแม็ส
รัฐมนตรีการคลัง
ดำรงตำแหน่ง
9 ธันวาคม พ.ศ. 2561 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563
(1 ปี 297 วัน)
นายกรัฐมนตรีชาร์ล มีแชล
ซอฟี วีลแม็ส
ก่อนหน้าโยฮัน ฟัน โอเฟิร์ตเฟลต์
ถัดไปฟินเซนต์ ฟัน เปเตอเคม
รองนายกรัฐมนตรีเบลเยียม
ดำรงตำแหน่ง
22 ตุลาคม พ.ศ. 2555 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563
(7 ปี 345 วัน)
นายกรัฐมนตรีเอลีโย ดี รูโป
ชาร์ล มีแชล
ซอฟี วีลแม็ส
ก่อนหน้าฟินเซนต์ ฟัน กวิกเกินบอร์เนอ
ถัดไปฟินเซนต์ ฟัน กวิกเกินบอร์เนอ
รัฐมนตรีความร่วมมือเพื่อการพัฒนา
ดำรงตำแหน่ง
11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563
(5 ปี 356 วัน)
นายกรัฐมนตรีชาร์ล มีแชล
ซอฟี วีลแม็ส
ก่อนหน้าฌ็อง-ปัสกาล ลาบีย์
ถัดไปเมรียาเมอ กีตีร์
รัฐมนตรีการบำนาญ
ดำรงตำแหน่ง
22 ตุลาคม พ.ศ. 2555 – 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557
(1 ปี 354 วัน)
นายกรัฐมนตรีเอลีโย ดี รูโป
ก่อนหน้าฟินเซนต์ ฟัน กวิกเกินบอร์เนอ
ถัดไปดาเนียล บาเกอแลน
หัวหน้าพรรคโอเปิน เฟเอลเด
ดำรงตำแหน่ง
12 ธันวาคม พ.ศ. 2552 – 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555
(2 ปี 318 วัน)
ก่อนหน้าคี เฟอร์โฮฟสตัต
ถัดไปแคว็นโดลิน รึตเติน
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 (49 ปี)
ฟิลโฟร์เดอ เบลเยียม
พรรคการเมืองโอเปิน เฟเอลเด
คู่สมรสอันนิก แป็นเดิร์ส
บุตร2 คน
บุพการี
ที่อยู่อาศัยเลอล็องแบร์มง บรัสเซลส์
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเสรีบรัสเซลล์
มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น
เว็บไซต์เว็บไซต์ส่วนตัว

อาเล็กซันเดอร์ เดอ โกร (ดัตช์: Alexander De Croo) เป็นนักการเมืองและนักธุรกิจชาวเบลเยียมซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเบลเยียมตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2563

เดอ โกร เกิดที่ฟิลโฟร์เดอ จังหวัดเฟลมิชบราบันต์ ประเทศเบลเยียม[1] เป็นหนึ่งในบุตรสองคนของแฮร์มัน เดอ โกร นักการเมือง อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตวุฒิสมาชิก และองคมนตรี (Minister of State) ในปัจจุบัน[2] จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเสรีบรัสเซลล์และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MBA) ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ใน พ.ศ. 2549 ได้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับด้านทรัพย์สินทางปัญญา[3] และต่อมาได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค โอเปินฟลามเซอลีเบอราเลินแอ็นเดโมกราเติน (Open Vlaamse Liberalen en Democraten) หรือโอเปิน เฟเอลเด (Open Vld) ซึ่งเขาได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในระหว่าง พ.ศ. 2552 ถึง 2555 และตั้งแต่ พ.ศ. 2555 เป็นต้นมาได้รับตำแหน่งสำคัญทางการเมืองต่าง ๆ รวมทั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเบลเยียมในสมัยรัฐบาลของเอลีโย ดี รูโป, ชาร์ล มีแชล และซอฟี วีลแม็ส

ในระหว่างดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีนั้น เดอ โกร ยังเป็นรัฐมนตรีการบำนาญระหว่าง พ.ศ. 2555–2557 รัฐมนตรีความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่าง พ.ศ. 2557–2563 และรัฐมนตรีการคลังระหว่าง พ.ศ. 2561–2563 และในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เป็นเวลากว่าหนึ่งปีหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ. 2563 เขาสามารถเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลได้เพื่อแทนที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยของซอฟี วีลแม็ส

งานด้านการเมือง

ใน พ.ศ. 2552 เดอ โกร เข้าสู่การเมืองเป็นครั้งแรกโดยเข้าสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรปใน พ.ศ. 2552 โดยเขาได้รับคะแนนเสียงกว่า 47,000 คะแนน[4] ต่อมาเมื่อ 26 ตุลาคม ปีเดียวกันนั้น เขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้สมัครเข้าคัดเลือกเป็นหัวหน้าพรรคโอเปิน เฟเอลเด ต่อจากคี เฟอร์โฮฟสตัต รักษาการหัวหน้าพรรค โดยเมื่อ 12 ธันวาคม หลังจากการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับมารีโน เกอเลิน คู่แข่ง เดอ โกร สามารถเอาชนะได้ในรอบที่สองด้วยคะแนน 11,676 เสียง ต่อ 9,614 เสียง[5] ชัยชนะของเดอ โกร นั้นเป็นที่กล่าวขานกันในหมู่นักการเมืองเนื่องจากเขาเพิ่งเริ่มมีประสบการณ์ทางการเมืองได้ไม่นาน และเนื่องจากบิดาของเดอ โกร เป็นนักการเมืองมากประสบการณ์ ทำให้เขามักจะถูกมองว่าเป็นการใช้บารมีหรือเส้นสายในครอบครัว[6][7]

วิกฤตการเมือง

เพียงห้าเดือนหลังจากการได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว เดอ โกร ได้ขู่ที่จะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนั้นหากไม่มีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตบรัสเซลส์-ฮัลเลอ-ฟิลโฟร์เดอซึ่งเป็นเขตพื้นที่ทับซ้อน จนเมื่อพ้นกำหนดแล้วเขาจึงได้ถอนพรรคการเมืองออกจากรัฐบาล จึงทำให้รัฐบาลในขณะนั้นซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีอีฟว์ เลอแตร์ม ต้องประกาศลาออก ซึ่งต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553[8]

ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาใน พ.ศ. 2553 เดอ โกร ได้รับคะแนนเสียงกว่า 301,000 คะแนน มากที่สุดเป็นอันดับสามในเขตเลือกตั้งที่มาจากเขตผู้พูดภาษาดัตช์[4] และได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาจนถึง 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555[9]

รัฐมนตรี

รัฐบาลดี รูโป

เดอ โกร ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการบำนาญเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555[10] ต่อจากฟัน กวิกเกินบอร์เนอ ซึ่งลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองคอร์ทไรค์[11] ต่อมาในเดือนธันวาคม แคว็นโดลิน รึตเติน ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคโอเปิน เฟเอลเดแทน[12]

รัฐบาลมีแชล 1 และ 2

หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ. 2557 และการจัดตั้งรัฐบาลกลาง เดอ โกร ยังคงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของมีแชล (รัฐบาลมีแชล 1) เดอ โกร ยังได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีความร่วมมือด้านการพัฒนา วาระดิจิทัล โทรคมนาคม และการไปรษณีย์[13][14] ในขณะที่ดาเนียล บาเกอแลน รับตำแหน่งรัฐมนตรีการบำนาญแทน[14] โดยคณะรัฐมนตรีชุดนี้ถวายสัตย์เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557[15]

ในสมัยของเดอ โกร เบลเยียมเป็นประเทศแรกที่ระงับความช่วยเหลือระหว่างประเทศกับบุรุนดีเนื่องจากเหตุจลาจลจากความขัดแย้งทางการเมืองอันนำไปสู่ความรุนแรงในประเทศตั้งแต่ พ.ศ. 2558[16] ใน พ.ศ. 2560 เดอ โกร ได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือกว่า 25 ล้านยูโร (26.81 ล้านดอลลาร์) ต่อเนื่องกันถึง พ.ศ. 2568 เพื่อกำจัดโรคแอฟริกัน ทริปาโนโซมิเอซิส[17] เดอ โกร ยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเคลื่อนไหว "ชีดิไซดส์" เพื่อต่อต้านนโยบายเม็กซิโกซิตี (คือนโยบายที่ห้ามเหล่าองค์กรเพื่อความช่วยเหลือระหว่างประเทศที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลสหรัฐให้สนับสนุนหรือกระทำการยุติการตั้งครรภ์ในประเทศอื่น ๆ) ที่ประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์ นำกลับมาใช้[18]

ภายหลังจากความขัดแย้งภายในรัฐบาลกลางเบลเยียมเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อการย้ายถิ่นของสหประชาชาติ พรรคพันธมิตรเฟลมิชใหม่ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทำให้รัฐบาลนี้กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือที่เรียกว่ารัฐบาลมีแชล 2 ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2561[19] เดอ โกร ได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีการคลังแทนที่โยฮัน ฟัน โอเฟิร์ตเฟลต์[20]

รัฐบาลวีลแม็ส 1 และ 2

ในระหว่างการเป็นรัฐบาลรักษาการของนายกรัฐมนตรีวีลแม็ส เดอ โกร เป็นรัฐมนตรีการคลังผู้กำกับดูแลด้านงบประมาณฉุกเฉินเพื่อจัดการกับการระบาดของโควิด-19 และการจัดการด้านความช่วยเหลือกับบรัสเซลแอร์ไลน์ใน พ.ศ. 2563[21] ในสมัยนี้เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคโอเปิน เฟเอลเด คู่กับเอ็กเบิร์ท ลาเคิร์ท[22]

นายกรัฐมนตรี

เมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2563 เดอ โกร และมาแญ็ต (พรรคสังคมนิยม) ได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งรัฐบาล[23] และต่อมาในวันที่ 30 กันยายน ได้มีข่าวว่าเดอ โกร จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากซอฟี วีลแม็ส[24] รัฐบาลของเดอ โกร ประกอบด้วยสัดส่วนของสตรีมากกว่าบุรุษ โดยมีรัฐมนตรีที่เป็นสตรีถึงครึ่งหนึ่ง[25] ซึ่งมากกว่าสมัยอื่น ๆ ในอดีต

อ้างอิง

  1. "De Heer Alexander De Croo" [Mr. Alexander De Croo]. wwwpr.belgium.be (ภาษาดัตช์). 11 June 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2020. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  2. "Biography". www.hermandecroo.be. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  3. "Wie is Alexander?" [Who is Alexander?]. www.alexanderdecroo.be (ภาษาดัตช์). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 July 2011. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  4. 4.0 4.1 "Alexander De Croo is nieuwe premier: naast "zoon van" ook stemmentrekker en voorstander van gendergelijkheid" [Alexander De Croo is the new prime minister: in addition to being "son of", he is also a vote-puller and a supporter of gender equality] (ภาษาดัตช์). VRT Nws. 30 September 2020. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  5. "Alexander De Croo verrassend nieuwe voorzitter Open Vld" [Alexander De Croo Surprising New Chairman Open Vld] (ภาษาดัตช์). De Morgen. 12 December 2009. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  6. "Open VLD kiest met Alexander De Croo voor avontuur" [Open VLD Opts for Adventure with Alexander De Croo] (ภาษาดัตช์). De Standaard. 12 December 2009. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  7. "Alexander De Croo". The Bulletin. 12 October 2009. สืบค้นเมื่อ 1 October 2020.
  8. "Belgium's Five-Party Coalition Government Collapses". The Guardian. 26 April 2010. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  9. "Opvolger Alexander De Croo legt de eed af in Senaat" [Successor Alexander De Croo takes the oath in the Senate] (ภาษาดัตช์). Het Laatste Nieuws. 25 October 2012. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  10. "Alexander De Croo is nieuwe premier: naast "zoon van" ook stemmentrekker en voorstander van gendergelijkheid" [Alexander De Croo is the New Prime Minister: in Addition to Being "son of", he is also a Vote-Puller and a Supporter of Gender Equality] (ภาษาดัตช์). Radio 1. 30 September 2020. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  11. "Vincent Van Quickenborne ruilt Kortrijk opnieuw in voor Brussel" [Vincent Van Quickenborne Exchanges Kortrijk for Brussels Again] (ภาษาดัตช์). MSN. 1 October 2020. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  12. "Gwendolyn Rutten is nieuwe voorzitter Open VLD" [Gwendolyn Rutten is the New Chairwoman of Open VLD] (ภาษาดัตช์). Het Nieuwsblad. 8 December 2012. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  13. "Biografie" [Biography]. www.decroo.belgium.be (ภาษาดัตช์). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 August 2020. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  14. 14.0 14.1 "Dit zijn de ministers van de regering-Michel I" [These are the Ministers of the Michel I Government] (ภาษาดัตช์). Het Laatste Nieuws. 10 October 2014. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  15. "Van de regering-Michel naar de regering-Wilmès: een komen en gaan van ministers" [From the Michel Government to the Wilmès Government: A Coming and Going of Ministers] (ภาษาดัตช์). VRT NWS. 28 October 2019. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  16. "Belgium Suspends Financial Aid for Burundi Elections". Al-Jazeera. 11 May 2015. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  17. Stephanie Nebehay (April 19, 2017), "Gates Backs Big Pharma Push to Wipe out Tropical Diseases". Reuters. 19 April 2017. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  18. "Deputy Prime Minister and Minister of Development Cooperation Belgium". www.shedecides.com. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  19. "Belgium's Government Loses Majority over UN Migration Pact". The Guardian. 9 December 2018. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  20. "De Block terug op Asiel & Migratie, De Crem en De Backer worden minister: zo ziet regering-Michel II eruit" [De Block Back at Asylum & Migration, De Crem and De Backer Become Ministers: This is What Michel II Government Looks Like] (ภาษาดัตช์). VRT NWS. 9 December 2018. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  21. "Belgium Forms New Government after 16-Month Deadlock]". Reuters. 30 September 2020. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  22. "Alexander De Croo eerste ondervoorzitter" [Alexander De Croo first vice-chairman] (ภาษาดัตช์). Knack. 22 May 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-29. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
  23. "Koning stelt Paul Magnette (PS) en Alexander De Croo (Open VLD) aan als coformateurs: "Uitweg uit de crisis"". VRT (ภาษาดัตช์). สืบค้นเมื่อ 3 October 2020.
  24. "Flemish Liberal Alexander De Croo to be Appointed Belgium's Prime Minister". 30 September 2020. สืบค้นเมื่อ 30 September 2020.
  25. "Regering-De Croo is meest vrouwelijke ooit: tien vrouwen en tien mannen" [De Croo Government is the Most Feminine Ever:Ten Women and Ten Men] (ภาษาดัตช์). Het Nieuwsblad. 1 October 2020. สืบค้นเมื่อ 2 October 2020.
Kembali kehalaman sebelumnya