เคิร์ต แองเกิล
เคิร์ต สตีเวน แองเกิล (Kurt Steven Angle; 9 ธันวาคม ค.ศ. 1968)[4] เป็นนักมวยปล้ำอาชีพ, นักแสดงและอดีตนักมวยปล้ำสมัครเล่นชาวอเมริกันในชื่อที่รู้จักกันอย่างดีว่า เคิร์ต แองเกิล (Kurt Angle)[3][5][6] เป็นอดีตนักมวยปล้ำของสมาคม WWE และTNA อดีตแชมป์ WWE 4สมัย, แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 1สมัย, แชมป์ WCW 1สมัย และแชมป์เฮฟวี่เวท IWGP (IGF)[7] เป็นคนที่2 ได้เข้าสู่หอเกียรติยศทั้ง WWE และ TNA ต่อจากสติง วงการมวยปล้ำสมัครเล่น
ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 แองเกิลเป็นฝ่ายชนะนักมวยปล้ำชาวอิหร่านที่มีชื่อว่า อับบาส จะดีดี จากการตัดสินของกรรมการหลังจากที่ได้ทำการจับคู่ปล้ำกันแปดนาที โดยมีการเสมอกันที่หนึ่งต่อหนึ่ง จากการต่อสู้ได้แสดงให้เห็นว่าจะดีดีได้รับคะแนนในช่วงหลังสองนาทีกับอีก 46 วินาทีจากการหมุนของแองเกิล ส่วนแองเกิลก็ได้คะแนนจากท่าเทคดาวน์ภายหลังจากสามนาทีกับอีกสิบเอ็ดวินาที การตัดสินของกรรมการดังกล่าวได้รับการประท้วงโดยจะดีดี[8] ในเดือนเมษายน 2011 แองเกิลได้เปิดเผยว่ามีแผนหวนกลับเข้าแข่งขันมวยปล้ำสมัครเล่นในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่กรุงลอนดอน[9][10][11] อย่างไรก็ตาม ได้มีการประกาศอีกครั้งในเดือนเมษายน ค.ศ. 2012 ว่าเขาไม่สามารถทำการซักซ้อมร่วมกับทีมสหรัฐฯได้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่เข่า[12] วงการมวยปล้ำอาชีพเวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (1998–2006)หลังจากประสบความสำเร็จในการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก เขาก็ตัดสินใจเลี้ยวเข้าสู่วงการ Sports-Entertainment อย่างเต็มรูปแบบด้วยความแน่วแน่เต็มที่ จนกระทั่งได้เปิดตัวกับ WWE เมื่อปี 2000 เดือนกุมภาพันธ์ปีนั้น เขาเอาชนะวาล เวนิส พร้อมคว้าแชมป์ยุโรปมาครองสำเร็จในสแมคดาวน์ ต่อมาก็ปราบคริส เจริโคคว้าแชมป์อินเตอร์ฯ ได้ในศึกใหญ่ No Way Out และมาในเดือนตุลาคมศึก No Mercy สามารถชนะเดอะร็อกคว้าแชมป์โลกสมัยแรกมาประดับบารมีอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งตัวเขาก็ได้พิสูจน์ให้โลกรู้ว่าเป็นของจริงแท้แน่นอน จากการเป็นผู้ชนะแมตช์ Hell in a Cell ในศึก Armageddon นอกจากนี้ยังได้เป็นผู้ชนะคิงออฟเดอะริง ปี 2000[13] ปี 2001 นั่นคือจุดพีคสุดในอาชีพของเขาเลยก็ว่าได้ เมื่อเขาได้ทั้งครองแชมป์คิงออฟเดอะริง, ได้ออกหนังสืออัตชีวประวัติของตนเองชื่อว่า 'It's True, It's True' แถมยังถูกเชิญเข้าสู่หอเกียรติยศของสมาคมมวยปล้ำสมัครเล่นแห่งชาติด้วย จากนั้นเขาก็ยังปล้ำในระดับแนวหน้าของ WWE มาหลายปี เปิดศึกกับสตาร์ดังมากมาย ในจัดจ์เมนท์เดย์ (2002)แองเกิลแพ้ให้กับเอดจ์แบบ "Hair vs. Hair Match" ถ้าใครแพ้คนนั้นต้องโดนโกนผม ทำให้เขาถูกโกนหัวจนหัวล้านจนถึงทุกวันนี้ แองเกิลได้เข้าร่วม Battle Royal 20 คน เพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทที่ว่างอยู่ ผลปรากฏว่าแองเกิลจับเหวี่ยงมาร์ก เฮนรีเป็นคนสุดท้ายและได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ต่อมาแองเกิลต้องป้องกันแชมป์กับแรนดี ออร์ตันและ เรย์ มิสเตริโอในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ผลปรากฏว่าเรย์คว้าแชมป์ไปได้ จากนั้นแองเกิลได้ย้ายไป ECW เป็นเวลาสั้นๆ ก่อนจะลาออกจาก WWE โทเทิล นอนสต็อป แอคชั่น เรสต์ลิง (2006–2016)หลังจากเลิกสัญญากับ WWE แค่เดือนเดียว พร้อมประกาศถอดบู๊ทเพื่อรักษาร่างกายเยียวยาปัญหาครอบครัว แองเกิลทำเซอร์ไพรส์ ย้ายเข้ามาใน TNA เป็นที่เรียบร้อย ดิ๊กซี่ คาร์เตอร์ ประธาน TNA กล่าวว่า หลังถ่ายทำวิดีโอแนะนำตัวจนถึงเที่ยงคืน แองเกิลได้เขียนข้อความเปิดใจบนกระดาษโน้ตของโรงแรม ซึ่งพอสรุปใจความสำคัญว่า "การมาอยู่ TNA ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้พบบ้าน ผมสนุกกับชีวิตที่ WWE แต่ผมไม่เคยมีความสุขอย่างจริงจังเลย" "TNA ได้นำ “ของจริง” กลับคืนสู่วงการมวยปล้ำ ซึ่งช่างเข้ากันได้ดีกับนักมวยปล้ำผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โอลิมปิกสหรัฐ ผมมีพื้นที่ที่จะเติบโตและช่วย TNA ให้เติบโตด้วย" "ที่ TNA ผมไม่รู้สึกตัวเองโดนจำกัดหรือดึงให้ถอยหลังเหมือนช่วง 6 ปีที่สมาคมอื่น (WWE) แต่ตอนนี้ ผู้ชมจะได้เห็น “ตัวจริงของเคิร์ท แองเกิล” กันเสียที ผมกำลังจะได้ทำในสิ่งที่รักคือ “มวยปล้ำจริง ๆ” ซึ่งเป็นตัวทำให้ผมยิ้มออก" "TNA กำลังจะเป็นรายการโทรทัศน์ที่มีคนดูมากที่สุดทางเคเบิลทีวี แล้วตอนนี้ ผมมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ ท้ายสุดผมอยากขอบคุณ TNA ที่ช่วยรักษาอาชีพนักมวยปล้ำของผมไว้ รวมถึงความปรารถนาที่จะได้ทำสิ่งที่ตัวผมรัก" แองเกิลได้เจอกับเจฟ จาเรต ในอเกนต์ ออล ออดส์ (2011) โดยมีข้อแม้ว่าถ้าจาเรตชนะ แองเกิลจะต้องพา Karen Jarrett (ภรรยาเก่า) ไปแต่งงานกับจาเรต แต่ถ้าแองเกิลชนะจะได้สิทธิ์เลี้ยงดูลูกๆของแองเกิล คือ Kody กับ Kyra Angle ผลปรากฏว่าแองเกิลพ่ายแพ้ไป ในฮาร์ดคอร์จัสติส (2011) แองเกิลสามารถคว้าแชมป์โลก TNA มาได้สมัยที่5 จากการใช้เก้าอี้ตีใส่สติงที่ฮัลค์ โฮแกนนำมา ปี 2013 TNA ได้ประกาศให้แองเกิลเข้าสู่หอเกียรติยศทีเอ็นเอ[14] ในปี 2014 แองเกิลได้หมดสัญญากับ TNA แล้ว และมีแผนที่กลับไป WWE อีกครั้ง แม้ว่าวินซ์ แม็กแมนจะไม่ค่อยต้องการแองเกิลกลับมาสู่ WWE นักก็ตาม แต่ถ้าแองเกิลจะเซ็นสัญญากับ WWE จริงก็อาจจะต้องเป็นแบบพาร์ทไทม์เนื่องจากแองเกิลปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาเป็นนักมวยปล้ำแบบฟูลไทม์เพราะเขาประเมิณแล้วว่าสภาพร่างกายของเขาในปัจจุบันคงจะกรำศึกหนักไม่ไหวหากจะต้องเดินทางไปกับคณะของ WWE และต้องปล้ำทุกสัปดาห์เหมือนสมัยเขายังหนุ่มๆ ทั้งนี้แองเกิลก็ยังไม่ปิดโอกาสในการกลับไปยัง TNA ถ้าหากว่า TNA ยื่นข้อเสนอที่ทำให้เขาพอใจได้ ซึ่งแองเกิลเองก็มีความรู้สึกที่ดีต่อ Dixie Carter และสมาคม TNA ในภาพรวมซึ่งเคยช่วยเหลือเขามาตลอดในตอนที่เขามีปัญหาส่วนตัวหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพและเรื่องคดีความต่างๆ[15] ในปี 2015 แองเกิลได้เซ็นสัญญากับ TNA อีกครั้ง[16][17] ซึ่งแองเกิลได้คอนเฟิร์มเองว่า หมดสัญญากับ TNA คราวนี้จะไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่อีก โดยสัญญาจะหมดลงในช่วงต้นปี 2016 แองเกิลได้ปล้ำแมตช์สุดท้ายแพ้ให้กับแลชลีย์ ในวันที่ 8 มีนาคม 2016 ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (2017–2020)วันที่ 16 มกราคม 2017 WWE ได้ประกาศให้แองเกิลเข้าสู่หอเกียรติยศดับเบิลยูดับเบิลยูอี[18] ในรอว์ 3 เมษายน วินซ์ แม็กแมนได้แต่งตั้งให้แองเกิลเป็น GM ผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ของรอว์ ในทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2017)แองเกิลได้ขึ้นปล้ำให้กับWWEครั้งแรกในรอบ11ปีโดยจับคู่กับเดอะชีลด์เอาชนะทีมเดอะมิซ, เคน, บรอน สโตรว์แมน, ซีซาโรและเชมัสไปได้[19] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2017)แองเกิลได้เป็นกัปตันทีมฝั่งรอว์เจอกับทีมฝั่งสแมคดาวน์โดยมีข้อแม้ว่าถ้าทีมรอว์แพ้แองเกิลต้องออกจากตำแหน่ง GM สุดท้ายทริปเปิลเอชเป็นฝ่ายนำทีมรอว์คว้าชัยไปได้โดยระหว่างแมตช์ทริปเปิลเอชได้เล่นงานแองเกิลจนออกจากการแข่งขัน ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2018)แองเกิลและทริปเปิลเอชกับสเตฟานีได้มาทำพิธีเซ็นสัญญาของรอนดา ราวซีย์ ก่อนที่แองเกิลแฉความจริงว่าทริปเปิลเอชกับสเตฟานีแค้นรอนดามาตั้งแต่เรสเซิลเมเนีย 31 และอยากได้มายำเล่นนานแล้ว ซึ่ง 3 ปีผ่านไปก็สำเร็จ ก่อนจะแฉสเตฟานีว่า ทุกวันนี้รอนดาไม่เหลืออะไรแล้ว ลำพังแค่เจอเธอ เธอยังชนะได้เลย ด้านทริปเปิลเอชรีบมาห้าม แต่โดนรอนดาจับทุ่มกับโต๊ะจนพัง สเตฟานีโมโหตบหน้ารอนดาอย่างแรง!!! ก่อนที่รอนดาหยิบสัญญามาเซ็น คืนต่อมารอนดาบอกให้สเตฟานีขอโทษที่ตบหน้าเธอและสเตฟานีก็ยอมขอโทษแต่ทริปเปิลเอชก็ชกใส่แองเกิล สัปดาห์ต่อมาแองเกิลประกาศจะจับคู่กับรอนดาเจอทริปเปิลเอชกับสเตฟานีแบบแท็กทีมผสมในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 34ซึ่งทีมแองเกิลชนะไปได้[20] ต่อมาได้มีปัญหากับแบรอน คอร์บินในเรื่องการเป็น GM ผู้จัดการรอว์จนในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 35แองเกิลแพ้ให้กับคอร์บินในแมตช์อำลาสังเวียนของแองเกิล[1][21] ก่อนจะถูกยกเลิกสัญญากับ WWE ในปีต่อมาจากการลดงบประมาณอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19[22][23] ผลงานแสดงภาพยนตร์
โทรทัศน์
ผลงานแชมป์ รางวัล และความสำเร็จมวยปล้ำสมัครเล่น
มวยปล้ำอาชีพ
1 ^ Angle originally won both tag team championship belts from solo championship holder Samoa Joe. Sting won a four-way match to win the other share of the title, and joined Angle in his reign midway through. 2 ^ Won during the Invasion storyline. การเดิมพัน
บันทึก
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ เคิร์ต แองเกิล |