เชิมเกนต์
เชิมเกนต์ (เสียงอ่านภาษาคาซัค: [ʃɯmˈkɛnt]; Шымкент, شىمكەنت; Yañalif: Cьmkent) หรือชิมเกนต์[2] (อุซเบก: Chimkent, Чимкент, چىمكېنت; รัสเซีย: Чимкент, อักษรโรมัน: Čimkent (เสียงอ่านภาษารัสเซีย: [ˈtɕɨmˈkʲɛnt])) เป็นเมืองในประเทศคาซัคสถาน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ใกล้พรมแดนคาซัคสถาน-อุซเบกิสถาน เชิมเกนต์เป็นหนึ่งในสามเมืองในประเทศคาซัคสถานที่มีสถานะ "นครสำคัญแห่งสาธารณรัฐ" (the city of republican significance[3]) และมีศักดิ์เทียบเท่ากับแคว้นร่วมกับอัลมาเตอและอัสตานา เชิมเกนต์มีประชากรมากเป็นอันดับที่สามของประเทศ รองจากอัลมาเตอและอัสตานา โดยประมาณการว่าเมืองนี้มีประชากร 1,002,291 คนนับถึงวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2018[4] เชิมเกนต์มีฐานะเป็นเมืองศูนย์กลางด้านวัฒนธรรม และได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของเครือรัฐเอกราชประจำ ค.ศ. 2020[5] ประวัติศาสตร์เชิมเกนต์ก่อตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12[6] เพื่อใช้เป็นสถานีคาราวานประจำเมืองไซรัม ซึ่งเป็นเมืองการค้าในเส้นทางสายไหม ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตรทางทิศตะวันออก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างกลุ่มชนเร่ร่อนชาวเตอร์กิกและพ่อค้าชาวซอกเดียซึ่งตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้ เชิมเกนต์ถูกรุกรานหลายครั้ง ทั้งโดยเจงกิส ข่าน โดยกลุ่มชาวข่านถิ่นใต้ และโดยกลุ่มชนเร่ร่อน เชิมเกนต์ถูกผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของรัฐข่านโกกันด์ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ก่อนจะถูกผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซียใน ค.ศ. 1864[7] ในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1914 และ ค.ศ. 1924 เชิมเกนต์เปลี่ยนชื่อเป็น "เชียร์เนียเอฟ" (รัสเซีย: Черняев; อังกฤษ: Chernyaev) หลังจากตกเป็นของจักรวรรดิรัสเซียแล้ว เชิมเกนต์ก็ยังคงมีความสำคัญในฐานะเมืองศูนย์กลางการค้าระหว่างชาวเตอร์กิกเร่ร่อนและชาวเตอร์กิกที่ตั้งถิ่นฐาน และมีผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่ออย่างหนึ่งได้แก่คูมิส หรือนมเปรี้ยวที่ทำจากน้ำนมของม้า[8] ในเวลาต่อมา หลังจากเกิดการปฏิวัติรัสเซียซึ่งทำให้จักรวรรดิรัสเซียเปลี่ยนฐานะเป็นสหภาพโซเวียต มีการจัดตั้งสาธารณรัฐต่าง ๆ และเปลี่ยนแปลงเขตแดนอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งใน ค.ศ. 1956 เชิมเกนต์กลายเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตคาซัค ก่อนที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศคาซัคสถานหลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายในที่สุด ใน ค.ศ. 2016 ประธานาธิบดีนูร์ซุลตัน นาซาร์บายิฟแสดงความตั้งใจที่จะให้เชิมเกนต์กลายเป็นมหานครแห่งที่สามของประเทศ โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ได้ริเริ่มขึ้นบริเวณทางเหนือของเมือง[9] ภูมิศาสตร์เชิมเกนต์ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ใกล้กับชายแดนคาซัคสถาน-อุซเบกิสถาน ตัวเมืองเชิมเกนต์ห่างจากนครอัลมาเตอไปทางตะวันตกประมาณ 690 กิโลเมตร (430 ไมล์) ห่างจากกรุงอัสตานาไปทางทิศใต้ประมาณ 1,483 กิโลเมตร (920 ไมล์) และห่างจากกรุงทาชเคนต์ เมืองหลวงของประเทศอุซเบกิสถานไปทางทิศเหนือประมาณ 120 กิโลเมตร (75 ไมล์) แต่เดิมเชิมเกนต์เป็นเมืองหลวงของแคว้นคาซัคสถานใต้ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ประธานาธิบดีนาซาร์บายิฟได้ประกาศให้เชิมเกนต์มีฐานะเป็น "นครสำคัญแห่งสาธารณรัฐ" ต่อจากอัสตานา (หรืออัสตานาในขณะนั้น) และอัลมาเตอ ซึ่งส่งผลทำให้เชิมเกนต์มีฐานะเทียบเท่ากับแคว้น และแยกตัวออกจากแคว้นคาซัคสถานใต้ ในขณะเดียวกัน แคว้นคาซัคสถานใต้ได้เลือกเมืองตืร์กิสถานเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ และเปลี่ยนชื่อแคว้นเป็น "แคว้นตืร์กิสถาน" ตามชื่อเมืองหลวง[10][11] สังคมจากข้อมูลใน ค.ศ. 2020 ชาวเมืองเชิมเกนต์ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ดังนี้[12]
รายงานของสภาท้องถิ่นระบุว่าประชากรคนที่หนึ่งล้านเกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2018[13] กีฬาเชิมเกนต์มีสโมสรฟุตบอลชาย 1 สโมสรได้แก่สโมสรฟุตบอลโอร์ดาบาเซอ ซึ่งแข่งขันในคาซัคสถานพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2020 และสโมสรฟุตบอลหญิง 1 สโมสรได้แก่สโมสรฟุตบอลเบอีอีกา คาเซอฆอร์ต ซึ่งแข่งขันในคาซัคสถานวีเมนส์ฟุตบอลแชมเปียนชิป ทั้งสองลีกเป็นลีกระดับสูงสุดในระบบลีกของคาซัคสถาน สนามกีฬาหลักของเมืองคือสนามกีฬากาเจอมูกัน มูไงต์ปาซอฟ ซึ่งตั้งชื่อตามนักมวยปล้ำชาวคาซัคสถาน มีความจุ 20,000 ที่นั่ง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเชิมเกนต์สถาปนาความสัมพันธ์เป็นเมืองแฝดกับเมืองต่าง ๆ ดังนี้[14]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ เชิมเกนต์
|