เรื่องตลก 69
เรื่องตลก 69 (อังกฤษ: 6ixtynin9) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวอาชญากรรมสุขนาฏกรรมมืดปี 2542 เขียนบทและกำกับโดยเป็นเอก รัตนเรือง เป็นภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องที่สองของเป็นเอกต่อจากฝัน บ้า คาราโอเกะ (2540) ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2542 ทั้งรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ และรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง เรื่องย่อตุ้ม (ลลิตา ปัญโญภาส) เป็นพนักงานธนาคารที่จำเป็นถูกต้องเลิกจ้าง เนื่องจากเจ้านายไม่อาจเลือกคนที่จะต้องออกได้ เขาจึงใช้เซียมซีเพื่อกำหนดว่าใครควรออก หลังจากบริษัทประสบปัญหาการเงินอันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ ตุ้มพักอาศัยคนเดียวในห้องหมายเลข 6 บนชั้นสามของอพาร์ทเมนท์ ด้วยความที่เธอเป็นคนสวย และโสด จึงเป็นที่สนใจของใครหลาย ๆ คน รวมทั้งชายโรคจิตที่ชอบโทรศัพท์มาที่ห้องเพื่อสำเร็จความใคร่ให้ฟัง เกิดเรื่องยุ่ง ๆ เมื่อเธอตื่นขึ้นมาตอนเช้าเพราะเสียงโทรศัพท์โรคจิต แล้วมีเสียงคนเคาะประตูห้อง มีคนเอาลังบะหมี่สำเร็จรูป ภายในบรรจุธนบัตรอัดเต็มลังวางไว้หน้าห้อง ปรากฏว่าจริง ๆ แล้วเกิดความผิดพลาดเพราะป้ายเลขห้องของเธอ น็อตยึดหลุดไป ป้ายเลข 6 จึงพลิกลงมาเป็นเลข 9 เงินนั้นเป็นเงินค่าจ้างล้มมวยที่เสี่ยโต้ง นักพนันมวย นัดส่งมอบกับเจ้าของค่ายมวยชื่อ ครรชิต มวยไทย ที่หน้าห้องหมายเลข 9 ทั้งเสี่ยโต้ง และครรชิต ต่างก็ระแวงว่าอีกฝ่ายเชิดเงินล้านหนีไป และส่งลูกน้องเข้ามาสืบหา และพบว่าเกิดความผิดพลาด เงินนั้นเข้ามาอยู่ในห้องตุ้ม เรื่องยิ่งยุ่งเข้าไปอีกเมื่อใครต่อใครก็นัดเข้ามาตายอยู่ในห้องตุ้ม โดยความเข้าใจผิดของฝ่ายเสี่ยโต้งเอาตำรวจมายุ่งและฆ่าลูกน้องตัวเองตาย (ความจริงแล้วตำรวจมาขอเข้าห้องของตุ้ม เพื่อที่จะใช้ระเบียงข้ามไปจับคนเล่นยา แต่ดันไปเห็นขาของเหลิม ลูกน้องครรชิต จึงเข้าทำการจับกุมตุ้ม แต่ในระหว่างจับกุมนั้น ลูกน้องของเสี่ยโต้ง เข้ามาสืบเรื่องราว และเข้าไปแอบในตู้ก่อนที่ตำรวจ และตุ้มจะมา ดันส่งเสียงดัง ทำให้ตำรวจเดินเข้าไปที่ตู้นั้นด้วยอารามตกใจ ทั้งสองฝ่ายต่างยิงกันทำให้ตายทั้งคู่) ความเข้าใจผิดของฝ่ายครรชิต คิดว่าเสี่ยโต้งส่งตุ้มมาเป็นนางนกต่อ และฆ่าเหลิมกับน้อยทิ้ง (ความจริง สาเหตุ มาจาก เลข 6 9) สุดท้าย เสี่ยโต้ง และครรชิต ได้เข้ามาเคลียร์ปัญหาทั้งหมด โดยนัดมาคุยที่เกิดเหตุ คือห้องตุ้ม ซึ่งต่างฝ่ายต่างใช้ความเข้าใจผิดตามที่กล่าวมาข้างต้นมาถกเถียงกันแบบคิดเองเออเอง สุดท้ายคุยกันไม่รู้เรื่อง ครรชิตจึงใช้ลูกน้องจับตัว เสี่ยโต้ง ในขณะเดียวกัน ลูกน้องเสี่ยโต้งก็เข้ามาจับครรชิตได้ทัน และสถานการณ์ยิ่งย่ำแย่หนักขึ้นไปอีก เมื่อลุง (สีเทา) ที่ได้เห็นพฤติกรรมผิดสังเกตของครรชิตที่เข้ามาในหอพักตุ้ม ได้ แจ้งตำรวจ และตำรวจได้มาทันในจังหวะนั้นพอดี ทั้งห้องอยู่ในบรรยากาศเงียบงันกันทุกฝ่าย แต่แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้มีคนตกใจยิงปืนออกไป ต่างฝ่ายต่างยิงกัน ทำให้ทุกฝ่ายเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งในขณะนั้นตุ้มก็ได้ย้อนกลับมาเพื่อมาเอาเงินซ่อนไว้ในห้อง โดยหารู้ไม่ว่าห้องของเธอเจิ่งนองไปด้วยกองเลือดเสียแล้ว ก่อนที่ขึ้นมาในห้องเพ็ญ ซึ่งเข้าใจผิดว่าตุ้มเป็นชู้กับแฟนของเธอ ได้เข้ามาทำร้ายแต่ต้องหยุดลง เพราะเสียงปืนที่ดังมาจากห้องของตุ้ม ตุ้มเดินมาถึงห้อง เธอตะลึงกับสิ่งที่เธอเห็น ทั้งห้องเต็มไปด้วยเลือด เธอไปรับโทรศัพท์ ก็พบว่าเป็นเสียงชายโรคจิตที่ชอบโทรศัพท์มาที่ห้องเพื่อสำเร็จความใคร่ให้ฟัง และเธอก็ตกใจ เมื่อเห็นเสี่ยโต้ง เจ้านายเก่าเป็นหนึ่งในศพเหล่านั้น ด้วยกลัวความผิด ตุ้มจึงคิดจะซ่อนศพทั้งหมด และนำเงินหนีไปประเทศอังกฤษในคืนนั้น (เธอเลือกเดินทางไปอังกฤษ เพราะเธอชื่นชมเจ้าหญิงไดอาน่า) แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ทำเช่นนั้น และไม่ได้ไปอังกฤษ เพราะเธอระลึกขึ้นได้ว่าเงินที่เธอ ได้มาเป็นเงินเปื้อนเลือด (โดยเห็นเป็นภาพนิมิตว่าเงินเหล่านั้นท่วมไปด้วยเลือด) เธอจึงทำเงินก้อนนั้นไปทิ้ง ณ จุดที่เธอเคยเอาศพคนมาทิ้ง และเผาพาสปอร์ต สุดท้ายเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตเรียบง่าย และกลับสู่บ้านเกิดในที่สุด นักแสดง
เพลงประกอบเพลงประกอบในเรื่อง ได้แก่
รีเมคละครซีรีส์เรื่อง เรื่องตลก 69: เดอะซีรีส์ ซึ่งรีเมคมาจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์ ในปี 2566 ดาวิกา โฮร์เน่ รับบทเป็น ตุ้ม และได้เป็นเอกผู้กำกับฉบับภาพยนตร์กลับมากำกับในฉบับซีรีส์[1] รางวัลต่อไปนี้คือรางวัลส่วนหนึ่งที่ เรื่องตลก 69 ได้รับจากต่างประเทศ[2]
อ้างอิง
|